พูดกันตามหลักแล้วทุกวันนี้ทีมชาติ อังกฤษ ไม่ได้มีคู่แข่งแค่ในสนามอย่างเดียวแต่มี public enemy ที่แฝงมาในรูปแบบสื่อและแฟนบอล

ดังนั้นแม้ 2 นัดแรกฟอร์มไม่ประทับใจจนกระแส “ลบ” มากกว่า “บวก” แต่การเอาชนะ สาธารณรัฐเช็ก 1-0 ทำให้ “สิงตำราม” เก็บ 7 แต้มแบบ “คลีนชีต” งานละเอียดผลลัพท์สวยๆแบบนี้เสียงสะท้อนย่อมเป็น public friendly ตามธรรมชาติ

ประเด็นร้อนๆที่ถูกพูดถึงมาตลอดก่อนหน้านี้น่าจะทำให้เกิดภาวะ “ผ่อนคลาย” ลดระดับเสียงลงไปเยอะ

ประเด็น “ลูกรัก“ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่นับจากนี้ไปต่อให้ฟอร์มไม่อยู๋กับร่องกับรอยแค่ไหนก็อาจไม่มีความจำเป็นต้องถูกยกขึ้นมาให้เสียเวลาเพราะยิงไปแล้ว 2 จาก 3 นัด หรือพูดให้ชัดกว่านั้นก็คือเป็นคนเดียวในทีมที่ทำประตูได้ ณ ตอนนี้

สำคัญแค่ไหนไม่ต้องบอกเพราะเบอร์ 1 อย่าง แฮร์รี่ เคน ยังยิงประตูไม่ได้เลย

ขี้หมูขี้หมายังไง เซาทเกท ส่งลงแน่นอนและแฟนบอลเริ่มรู้สึกว่าทีมมาทรงนี้ถ้าไม่มีดาวซัลโวสูงสุดใน 11 ตัวจริงคงโง่เต็มที

อีกโจทย์เบาๆที่ตามมาคือ เจดอน ซานโช่ ดาวรุ่งที่ฮ็อตที่สุด ณ เวลานี้ยังไม่ได้รับโอกาสเป็นตัวจริงแม้กระทั่งในเกมที่เข้ารอบไปแล้ว (สุดท้ายได้ลงเล่นราวๆ 9 นาที)

ที่ผมใช้คำว่า “เบาๆ” เป็นเพราะ บูกาโย่ ซาก้า ที่แซงทางโค้งเป็นตัวจริงแบบพลิกโผทำผลงานได้ดีเกินคาด (จนคว้า MOM )กล้าเล่นกล้าเลี้ยง เวลาได้บอลแล้วรู้สึกมั่นใจทั้งผู้เล่นและคนดู อย่างช็อตต้นเกมพลิกหนี 2 ตรงกลางขึ้นมาอย่างงาม

แต่ที่หลายคนอยากถาม แกเรธ เซาธเกท เพื่อให้หายคาใจคือในเมื่อเคยให้สัมภาษณ์ว่า ซานโช่ ยังมีประสบการณ์ในเวทีใหญ่น้อยเลยต้องนั่งดูไปก่อน

มันก็ไปขัดๆกับเคสของ เมสัน เมาท์, ฟิล โฟลเด้น หรือสดๆร้อนๆอย่าง ซาก้า ว่าทั้งหมดนี้มีชั่วโมงบินในทัวร์นาเมนท์ก็ไม่หนีแข้ง​ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เท่าไหร่ทำไมหวยออกที่แกอยู๋คนเดียว

เลยคิดเป็นอื่นไม่ได้ว่า ซานโช่ ไปเหยียบตีนอะไร เซาธ์เกท หรือเปล่าหรือคิดแบบชั่วๆหน่อย ก็อยากถามตรงๆว่าไปแอบดูลูกสาวแกอาบน้ำมาใช่ไหม?

การที่ เมาท์ ถูกกักตัวทำให้ แจ็ค กรีลิช ได้ลงเล่นตัวจริงครั้งแรกในทัวร์นาเมนท์นี้และสร้าง impact ทันทีไม่ว่าจะแอสซิสต์ให้ ราฮีม และการเก็บบอลเชื่อมเกม

จุดเด่นของกัปตันทีม แอสตัน วิลล่า คือเสียบอลยากมากครับ อย่างที่เคยบอกแหละครับจะเอาแกลงต้องทำฟาว์ลอย่างเดียว

ดังนั้นผมคิดว่าในรอบน็อกเอาท์ที่คู่แข่งจะยกระดับขึ้นกว่านี้การมี กรีลิช ที่ชั่วโมงบินสูง จมูกไวรู้ว่าจังหวะไหนควรออกบอลหรือเรียกตีนเป็นอะไรที่สำคัญเอามากๆ

สำหรับ เช็กฯ ผมว่าวันนี้เล่นตามสภาพแต่ทรงบอลไม่ได้น่าเกลียดแบบงอมืองอตีนให้เขายำอยู่ข้างเดียว

ผมว่าเด็กๆของ ยาโรสลาฟ ซิลฮาวี่ ขึ้นเกมเป็นระบบ ความสามารถเฉพาะตัวไม่ได้ห่างกันถึงขนาดหมูในอวย

ชั่วเวลาที่ดีที่สุดของทีมเยือนคือก่อนกำลังจะเข้าสู่ครึ่ั่งชั่วโมงแรกที่ได้กด “สิงโตคำราม” ในพื้นที่สุดท้ายอยู่พักนึงจน พิคฟอร์ด ต้องบินปัดสวยๆให้แฟนยืนปรบมือกันทั้งสนามนั่นแหละครับ

มีทฤษฏีสมคบคิดจากหมู่แฟนบอลว่าอาจจะมีการหนี “แชมป์กลุ่ม” ที่ต้องไปเจอกับ “รองแชมป์” ในกลุ่มแห่งความตายที่มีโอกาสเจอ เยอรมัน หรือไม่ก็ โปรตุเกส ค่อนข้างสูง

แต่ถ้าได้ “รองแชมป์” งานก็จะดูจางลงหน่อยกับ สโลวาเกีย หรือ สเปน (ที่ฟอร์มตอนนี้อาการหนัก)

อย่างไรก็ตามเท่าที่ดูขุนพล “สิงโตคำราม” ก็ใส่เต็มแม็กส่วน เช็กฯ ครึ่งหลังเดินหน้าดันสูงจะเอาประตูตีเสมอ

ในเคส อังกฤษ พอเข้าใจได้ครับว่าคู่แข่งจะเป็นใครคงไม่สนใจแล้วเพราะถ้าจบที่ “แชมป์กลุ่ม” ยังไงก็ปักหลักเล่นใน “เวมบลีย์” ต่อในรอบ 16 ทีมสุดท้ายซึ่งถือว่าเล่นในบ้านมีแฟนบอลหนุนหลังสำคัญกว่าเรื่องอื่น

เรื่องที่อันตรายสำหรับ อังกฤษ ตอนนี้ ผมแค่คิดและรู้สึกไปเองนะคือสไตล์การทำทีมของ เซาธ์เกท ซึ่งเป็นกองหลังเก่าจึงมี defensive mind ที่สะท้อนออกมาเป็นผลการแข่งขัน

5 นัดหลังสุดเก็บคลีนชีตรวดแต่ก็แลกมาด้วยความน่าเบื่อกับสกอร์ 1-0 ดูผ่านๆนึกว่ากำลังศึกษาพื้นฐานตัวเลขฐานสอง

ตรงนี้เองครับทำให้ “สิงโตคำราม” จึงยังไม่มีเหตุการณ์ “หน้างาน” ไว้แก้ไขวิธีตกเป็นรองคู่แข่งเลย ต้องตามดูตรงนี้ด้วยผมว่าน่าสนใจมากๆ

ครับจะว่าไปแล้วผมไม่สุดกับ ยูโร หนนี้ มีบางนัดไม่ดูปิดไฟนอนเลย ผมยังชอบระบบ 16 ทีมเอาที่ 1 และ 2 เข้ารอบไปวัดกันตรงๆมากกว่า 24 ทีมแล้วคัดเอาที่ 3 มาอีกถึง 4 ทีม

มันทำให้นัดแรกๆเล่นแบบอุดกันเน้นเอาแต้มเดียวหลายคู่แถมทำให้การประกบคู่มันไม่ลงตัว บางกลุ่มเป็นแชมป์เจอที่ 3 บางกลุ่มเป็นแชมป์เจอรองแชมป์ ฯลฯ

อังกฤษ อาจจะทำให้พวกเรารู้สึกสับสนในตัวเองเพราะตามด่ามาตลอดตั้งแต่เปิดสนามทั้งฟอร์มการเล่น, ไลน์อัพแปลกๆ หรือระบบลูกรัก

การเข็น สเตอร์ลิ่ง ที่ว่าหมดสภาพกับ แมนฯซิตี้ และยอมทนเสียงด่าเพื่อลูกรักจนกลายเป็นดาวซัลโวของทีม

ด้วยปัญหาทั้งหมดนี้ เซาธ์เกท ยังถูไถทำทีมเป็นแชมป์กลุ่มได้ ลองนึกดูถ้าเอาจริงมันจะขนาดไหนครับ ผมขนลุกแทนจริงๆ...

งงว่าทำไมทีมแชมป์กลุ่มต้องเจออันดับสองอีกกลุ่ม

แต่ทีมอันดับสองกลุ่มเดียวกันถึงได้เจอกับทีมที่เข้ารอบมาเป็นที่สาม

ขนลุกเพราะเซาท์เกตเทพ?

อังกฤษเต็ง2ครับ เพราะอิตาลีเต็ง1

ไม่มีนะครับ อันดับ 2 เจอ 3 , มีแต่ลำดับที่ 1 ถึงได้เจอที่ 3 แต่ที่ 3 มันมีแค่ 4 ทีม ทำให้ที่ 1 อีก 2 ทีม ต้องเจอที่ 2 ครับ

อังกฤษอยู่ได้เพราะกองหลัง ถ้าหลังเสียเมื่อไหร่ โอกาสแพ้มีสูง

ไม่ชอบระบบ 24 ทีมเช่นกัน ความเข้มข้นมันสู้แบบ 16 ทีมไม่ได้ เพราะพลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียวคือต้องได้ที่ 1 และ ที่ 2 ของกลุ่มเท่านั้นที่เข้ารอบ

มีคู่เดียวที่อันดับสองเจอกันเอง คือ อันดับสองกลุ่มดี และอันดับสองกลุ่มอี
จนทำให้แฟนบอลเอย กูรูเอย คิดถึงทฤษฎีสมคบคิด
แต่ถ้าคิดถึงการเดินทางและกองเชียร์แล้ว อังกฤษคว้าอันดับหนึ่ง ได้เปรียบกว่าหนีไปเจออันดับสองกลุ่มอี (สเปน) ที่โคเปนเฮเกน และถึงผ่านได้ ก็อาจเจออันดับหนึ่งกลุ่มเอฟ ที่เซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก

เกมนี้อังกฤษขึงจนสาธารณรัฐเชคเจาะไม่ค่อยเข้า ครึ่งหลังแทบไม่มีโอกาสยิงทั้งคู่เลย

ไม่เห็นมีใครพูดถึง จู๊ด เบลลิงแกม (ผู้บรรยายภาษาอังกฤษอ่านแบบนี้จริงๆ) เลย

ลงมาแป๊บเดียว วูบวาบเกือบช่วยทีมทำเม็ดสองได้

นัดนี้เห็นเขาชม กรีลิชกับชาก้า กัน เพราะมีส่วนทำให้ทีมคว้าชัยในนัดนี้

อังกฤษเล่นแบบไม่มีเคนก็เล่นได้นะผมว่า เพราะระบบเข้าทำ ป้อนบอลถึงเคนยาก
ดูผ่านๆเพราะไม่มีตัวแทงคิลเลอร์พาสก็ด้วยอีกส่วนนึง

ถ้าเป็นมุมผม เคนต้องเล่นตำแหน่งมิดฟิลตัวรุก หรือสไตล์แลมพ์พาร์ด เจ้าตัวก็เล่นบทตัวจ่ายอยู่ด้วย
รอบตัวมีแต่พวกเทคนิคทั้งนั้น ถ้ามีอิสระ และไปอยู่ในตำแหน่งยิงประตูได้ ผมว่าเคนจะเล่นง่ายขึ้นเยอะ

แต่ยอมรับว่าหลังอังกฤษมาดีจริง มิงนัดก่อนก็โชว์บลอคดี แมคไกวลงมาเลยยังแน่นอีก

[/u]

ผมโคตรเกลียดไอ้ระบบ24ทีมเลย ตั้งแต่บอลโลก94แล้ว

อิตาลีทีมที่เข้ารอบเป็นลำดับสุดท้ายของบรรดาทีมที่ได้อันดับ3 คือห่วยสุดในบรรดาทีมที่เข้ารอบแล้ว เลยทะลุไปถึงรอบชิงเลย

ยูโร2016นี่ยิ่งกว่า โปรตุเกสรอบแรกไม่ชนะสักนัดแต่ได้เข้ารอบในโควต้าลำดับ3 แทบไม่ชนะใครใน90นาทีเลยในทัวนาเมนต์แต่ยิงจุดโทษ+ต่อเวลาจนได้แชมป์ สำหรับผมถือว่าไม่สมศักดิ์ศรีแม้แต่น้อยดวงเยอะมากปีนั้นแต่ไม่มีปัญหา ปัญหาคือระบบการแข่งขันที่ไม่แฟร์ แค่ลองนึกว่าอันดับ1เหมือนกันทำไมบางกลุ่มได้เจอที่3บางกลุ่มเจอที่2ก็ทุเรศละ พอไขว้แบบต้องดูว่าทีมไหนดีกว่ากลายเป็นเวลาพักของแต่ละทีมต่างกันพอสมควร แทนที่จะได้พอๆกัน

ยูฟ่าเป็นองค์กรที่คิดแต่เรื่องทำไงให้มีแมตท์เยอะๆเพื่อเอาเงิน โดยไม่สนใจเลยว่าการแข่งขันมันจะเสียสมดุลขนาดไหน นอกจากยูโรแล้วดูUCLสิที่จะให้เตะกันเกือบ20นัดถ้าจะเป็นแชมป์(แก๊งค์ซุปเปอร์ลีกผมว่ามันคิดแบบนี้แหละ โดนเอาเปรียบยังพอทนแต่เงินยังไม่แบ่งอีก) ยิ่งทำยิ่งถอยลงคลอง

บอลยูโรเนี่ยผมดูจริงจังมาตั้งแต่96(ปีที่่เซาเกตยิงจุดโทษพลาดพาอังกฤษตกรอบ )รู้สึกสนุกมาก เป็นทัวร์ฯที่สูสีมันมากรอบ8ทีมคือบิ๊กแมตท์ทุกคู่ แล้วมันมากมาตลอดทุกครั้ง พอเป็น24ทีมบอกเลยผมไม่สนใจอะไรนอกจากคู่ใหญ่ๆแบบคืนนี้ ใครไปไขว้ใครผมไม่สนเลยไม่มีเสน่ห์แม้แต่นิดเดียว 4ปีก่อนก็โคตรกากฝรั่งเศสถือว่าซวยจากระบบปัญญาอ่อน มาปีนี้ถ้าไม่นับกลุ่มFคือแทบจะหาความสนุกไม่มี นัดสุดท้ายควรจะอัดกันไฟแลบกลายเป็นหลายทีมตั้งเป้าไว้ที่3-4แต้มก็พอลุ้นแล้ว

ผมคงเลิกติดตามแบบจริงๆจังๆละกับทัวร์นาเมนท์แบบนี้ ยูโร96-2012ในความทรงจำที่แสนสนุกและสมศักดิ์ศรี ทีมแชมป์ เยอรมัน ฝรั่งเศส กรีซ สเปน เหมาะสม+มีสตอรี่ให้เล่าได้ทุกทีม ทีมรองแชมป์อย่างอิตาลี เยอรมัน ถ้าเป็นแชมป์ก็พูดได้ว่าเหมาะสม+มีสตอรี่เช่นกัน มันต้องแบบนี้ถึงจะทรงคุณค่าน่าจดจำ

เชื่อว่าถ้าอนาคตยูฟ่าอยากจะแก้ปัญหาเรื่องการเข้ารอบให้เหลือ2ทีมเหมือนเดิม สิ่งที่จะทำคือน่าจะเพิ่มเป็น32ทีมให้มันครอบคลุมทั้งทวีปไปเลยเตะคัดเลือกคัดออกนิดเดียวประมาณชนะสักนัดก็การันตีได้ไปเล่นรอบสุดท้ายไรงี้ แล้วมาบอกเราให้โอกาสทีมเล็กๆตามสูตรเชฟเฟริน