นี่คือเหตุผล – ทำไมนักวิจัยถึงบอกว่า “หากผีมีจริง-เจ้าเครื่องนี้คงหาเจอไปตั้งนานแล้ว”



ความเชื่อเรื่อง “ผี” นั้นมีอยู่ในหลาย ๆ วัฒนธรรมทั่วโลก โดยมีทฤษฎีสมคบคิดมากมาย ที่พยายามอธิบายมาตลอดว่าผีมีจริงหรือไม่ แต่ล่าสุด ไบรอัน คอกซ์ นักฟิสิกส์ขององค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป (CERN) ได้ออกมาฟันธงว่า “ผีไม่มีจริง” เพราะถ้าหากมีจริง-ป่านนี้ “เครื่องเร่งอนุภาคแฮดรอน” คงตรวจเจอมันไปนานแล้ว (Large Hadron Collider – LHC)



โดยคอกซ์ กล่าวกับ BBC ว่า “ถ้าผีมีอยู่จริง เราคงต้องมาหาคำตอบแล้วว่าผีมีอนุภาคที่เล็กขนาดไหนกัน ถึงสามารถรอดพ้นการตรวจจับของเครื่องเร่งอนุภาคแฮดรอนไปได้ เพราะเจ้าเครื่องนี้สามารถตรวจจับอนุภาคที่เล็กที่สุดในจักรวาลได้นั่นเอง”

ซึ่งการทำงานของเครื่องเร่งอนุภาคนั้น สามารถอธิบายเป็นขั้นตอนสั้น ๆ ได้ดังนี้ : เครื่องเร่งอนุภาคจะทำการโยนอนุภาคตัวหนึ่ง ด้วยแรงเหวี่ยงแม่เหล็กพลังงานสูง – อนุภาคตัวนั้นจะมีความเร็วใกล้เคียงกับความเร็วแสง – พุ่งไปชนกับอนุภาคอีกตัวหนึ่ง จนแตกกระจาย – ทำให้เผยโครงสร้างของอนุภาคที่แท้จริงได้ (ซึ่งโครงสร้างของอนุภาคนั่นเป็นสิ่งที่เล็กที่สุดในจักรวาล)

ทั้งนี้ บางคนอาจสงสัยว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่ “ผี” จะมีอนุภาคที่เล็กกว่าโครงสร้างอนุภาค ?
ตอบ : เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะจากที่กล่าวกันว่า ผี = พลังงานบางอย่าง ซึ่งพลังงานเหล่านั้นย่อมต้องมีอนุภาค แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่อนุภาคจะมีขนาดเล็กกว่าโครงสร้างของตัวเอง

แต่ถึงอย่างนั้น หากสมมุติว่ามันมีขนาดเล็กกว่าโครงสร้างอนุภาคจริง ๆ แต่ในทางฟิสิกส์ก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี ที่ผีจะมีอยู่จริง เพราะผีไม่มีแหล่งพลังงาน (ต่างจากมนุษย์ที่มีอาหารเป็นแหล่งพลังงาน) ซึ่งเมื่อไม่มีแหล่งพลังงาน เท่ากับว่า ผีจะไม่สามารถคงรูปร่างไว้ หรือมีตัวตนมาหลอกเราได้นั่นเอง – อ้างอิงจาก “กฎของเทอร์โมไดนามิกซ์” (Laws of thermodynamics – กฎการถ่ายโอนพลังงานจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง)

สรุปก็คือ การที่ผีจะมีตัวตนอยู่จริงได้นั้นมันจะมีแหล่งพลังงานของตัวเอง ที่ปลดปล่อยพลังงานออกมาแบบไม่สิ้นสุด เพื่อคงรูปร่างแขนขาแบบมนุษย์เอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้น ถ้ามีแหล่งพลังงานจริง เครื่องเร่งอนุภาค LHC ก็ต้องตรวจจับได้อยู่ดี

ปล. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ทางเราไม่ได้ต้องการลบหลู่ดูถูกความเชื่อของใคร นี่เป็นเพียงการนำเสนอในมุมมองของวิทยาศาสตร์เท่านั้น

Fact – ทำไมผีถึงต้องอยู่ในบ้านร้าง ? มีงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วพบว่า เป็นเพราะสถานที่รกร้างจะมีเชื้อราและสารพิษปนอยู่มาก เป็นผลให้มีออกซิเจนน้อย และเมื่อเราเข้าไปในสถานที่ดังกล่าว อาจทำให้สมองเกิดภาวะขาดออกซิเจนชั่วขณะ (Cerebral Anoxia) สามารถทำให้ประสาทสัมผัสและการรับรู้บิดเบี้ยวผิดจากความเป็นจริงออกไปได้ อาจส่งผลให้หูแว่ว ยินเสียงแปลก ๆ รวมทั้งยังทำให้มองเห็นภาพหลอนได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งอาการแบบนี้ เป็นความรู้สึกเดียวกับตอนใกล้เสียชีวิต ที่อาจเห็นภาพหลอนว่ามียมทูตมารับ หรือเห็นวิญญาณตัวเองกำลังออกจากร่าง เป็นต้น

https://www.flagfrog.com/ghost-cern-science-energy-physicists/

ผี CPR ได้ก็พอ

ในหนัง ghost lab ก็พูดถึงเรื่องนี้

ผีต้องโดนกระตุ้น ในหนังบอก

เครื่อง cern ตอนนี้ให้ประโยชน์อะไรมั่ง

ผีไม่มีมวล อยู่นอกกฎฟิสิกส์ทุกข้อ

มิน่าช่วงนี่ได้ยินบ่อย​ แต่อยากได้ยินแบบนี้มากกว่า
กุว่ากุเกิดมาเพื่อพิสูจน์ให้โลกได้รับรู้​
ว่าผีไม่มีจริง​
ถ้าเราตั้งสมมติฐานว่าผีไม่ใช่ปรากฎการณ์
ธรรมขาติ
เราต้องหากลไกที่ชอบเอาผีมาอ้างให้เจอก่อน

คือประเด็นมีจริงไม่มีจริง เราอย่าเพิ่งไปสนใจจุดนั้น

เราเอาประเด็นที่ว่า ผีออกมาให้เห็นเป็นตัวเป็นตนนี่ก่อนดีกว่า

คนที่อ้างว่าเจอผีแบบจังๆอ่ะ ต้องอธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์ให้ได้ก่อน

ว่าสสารผีที่เราพบเจอด้วยตาเปล่า เค้ามาด้วยรูปแบบอะไร

รูปแบบอะตอม พลังงานไฟฟ้า คลื่นความถี่ แก๊ซ อะไรก็ว่าไป

สมมุติว่ามีจริงนะมันจะอธิบายยังไงในเมื่อเรายังไม่เข้้าใจมันเอาง่ายๆ แรงโนเมถ่วงเนี่ยทุกคนรู้ว่ามีแต่ลองอธิบายถึงหลักการทำงาน หรือสร้างแรงโน้มถ่วงจำลองขึ้นมาให้ดูหน่อยสิ ผมไม่รู้ว่าผีมีจริงใหมแต่ผมคิดว่ามีหลายอย่างที่อยู่เหนือความเข้าใจของเราในยุคปัจจุบัน

จริงๆปัจจุบันวิทยศาสตร์ก็พอได้พิสูจน์ให้เห็นและอธิบายเรื่องพวกนี้ได้เกือบทั้งนั้น

ยิ่งในโลกปัจจุบันการliveสดแทบจะเป็นปฎิกิริยาตอบสนองทันทีกับคนเลยไม่ว่าจะเจอกับเหตุการณ์ร้ายแรงขนาดไหนก็ยังมีสติหยิบโทรศัพท์มาliveได้ แถมยังมีสมาธิคุยโต้ตอบกับแชทได้อีกเรื่องความกลัวเกือบจะหายไปเลยทำไมถึงไม่ทำแบบนี้เวลาที่คิดว่าเจอผีกันบ้าง

เรื่องแรงโน้มถ่วงใน10นาที

ผีมันอยู่หลังชั้นหนังสือ ในมิติควันตั้มจะตรวจเจอได้ไง
ใช้แค่กล้องคินเนก ก็พอแล้ว
https://youtu.be/plzGpzSw0NY

เค้าถึงเรียกว่าไสยศาตร์น่ะสิครับ
มันอยู่เหนือธรรมชาติ(ถ้ามีจริง)
วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องธรรมชาติ พิสูจน์ได้
เเต่ผีมันเรื่องของเหนือธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องของวิทยาศาสตร์

...สมมติว่าผีมีจริงนะครับ...
คนเชื่อเค้าก็เชื่อ
คนไม่เชื่อเค้าก็ไม่เชื่อ ทำไงก็ไม่เชื่อหรอกครับ
เเต่บางคนไม่เชื่อเเต่ไปก้าวล่วงความเชื่อคนอื่น อันนี้ผมว่าไม่น่ารัก

ละถ้าผีไม่มีอนุภาคล่ะ

ถ้าผีเป็นวิญญาณที่อยู่อีกมิติกับเรา. แต่จะซ้อนทับได้ในบางเวลาล่ะ

ผมเคยเห็นตอนกลางวันนะเด็กๆ เขาเดินผ่านหน้าผม ทะลุประตูไปเลย น่าจะเป็นเจ้าที่อะ เสียดายยุคนั้นมือถือยังไม่มีกล้องด้วย แล้วก็เด็กๆไม่มีมือถือด้วย ถ้าเป็นตอนนี้จะลองหยิบมาถ่ายละว่าติดไหม แต่ไม่เจอเลยนี่ดิ