ของผมหลังจากได้ตั้งกระทู้ปรึกษาเพื่อนๆใน ss และไปปรึกษาตามอู่ที่ต่างๆ
อ้างอิง
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1969746 กระทู้ที่ผมตั้งถาม สาเหตุเข้าเกียร์ D แล้วรถไม่ขยับ (เข้าอู่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์แล้ว)
-------------------
หลังจากปรึกษาหลายๆที่ +ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม กรณีเกียร์มีปัญหา สาเหตุมาจากอะไร ไล่สเตปมาเรื่อยๆ เลยลองทำจากราคาถูกมาแพง
ถูกสุด
- ถ้าน้ำมันเกียร์ไม่ได้เปลี่ยนนาน เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ อาจจะหาย งบไม่เกิน พัน
กลางๆ
- เอารถไปฟัชชิ่งเกียร์ + เปิดอ่างล้างเกียร์ 3,000-5,000 ถ้าเปลี่ยนกรองเกียร์ + 1,500 แล้วแต่ร้าน
ฟัชชิ่งคืออะไร
ใช้น้ำมันใหม่ไล่ดันน้ำมันเกียร์เก่าที่อยู่ในระบบทิ้ง ใช้เครื่องฟลัชชิ่งลำเลียงน้ำมันเกียร์ใหม่ ไล่ดันน้ำมันเกียร์ที่อยู่ในระบบให้ไหลออกอีกทางหนึ่ง รอดูจนน้ำมันเกียร์ใหม่ใสสด แล้วค่อยหยุดการทำงาน
ขั้นหนักก็
- Overhaul เกียร์ (ความหมายคือ เอาเกียร์ออกมาผ่าดูอะไรเสีย อะไรสึกหรอ ก็จับเปลี่ยนจับซ่อมเพื่อให้เครื่องมันกลับมาทำงานได้ใกล้เคียงของใหม่) ราคาประมาณ 28,000 ราคาอู่แถวเกษตร 25,000 อู่แถวพระราม 2
หนักสุดคือ
- เปลี่ยนเกียร์ยกลูก รถผม 30,000 ถึง 40,000
-------------------------------------------------------
สรุปของผม
ลองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ใหม่แล้ว ไม่หาย อาการยังเหมือนเดิมคือ เข้า D รถไม่ออก รอ15-20 นาที ถึงไปได้
ต่อมา
ลองไปฟัชชิ่งเกียร์ ลองคุยกับทางร้าน ทางร้านมีหลายระดับ ของผมเอาตัวดีสุดคือทำทุกอย่าง
- ฟัชชิ่งเกียร์ หรือฟอกเกียร์ เต็มระบบ 3,500
- เปลี่ยนกรองเกียร์ 1,500 + เปิดอ่างทำความสะอาดภายใน ยอมให้ถอด+ประเก็นเกียร์
- เอาน้ำมันเกียร์เกรดดีที่สุดของร้าน ไม่รู้แบรนด์อะไร เห็นบอกว่าเป็นสังเคราะห์แท้ + มีสารบำรุงเกียร์
ได้คุยกับช่าง ช่างบอกว่าหลังจากทำให้ขับรถไปไกลที่สุดเท่าที่ทำได้ วิ่งเยอะๆ วันที่ทำผมวิ่งเล่นอยู่เส้นนครชัยศรี จากบ่ายๆ ถึง 5 โมงเย็น รับรู้ได้ถึงเกียร์ดีขึ้น ถึงไม่เท่ากับตอนสมัยใหม่ๆ เอาเป็นว่า เกียร์อยู่ในสภาพ 90 เปอร์เซ็น
ต่อมาอีกวันนึง เข้า D รอประมาณ 5 วิ รถออกได้เลยไม่ต้องรอนาน
------------------------------------------------------------
หน้าตาเครื่องฟัชชิ่งเกียร์ (ยืมรูปคนอื่นมา) รถผมไม่ได้เข้าไปถ่าย กลัวไปขัดจังหวะทำงานของช่าง
-----------------------------------------------------------
ได้รู้เทคนิคถนอมเกียร์มาด้วยครับ (จากคนที่ขับรถมาอู่เหมือนๆกัน)
- รถผมเป็นเกียร์สายพาน ควรปล่อยเบรกให้รถไหล ก่อนเติมคันเร่ง
- เลิกคิ๊กดาว ถ้าไม่จำเป็น ของผมมักคิ๊กดาวน์เวลาเปลี่ยนจากเหลือง เป็นเขียว เพื่อให้ออกตัวไว / คิ๊กดาวตอนอยู่เลนกลางไปช่องขวาเพื่อให้ความเร็วเพิ่ม+หลังติดเบาะ
---------------------------------------------------------
ขอบคุณมากๆครับ รถผมกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิมละ ดีใจมากมาย