สิทธิเด็กอยู่ไหนเมื่อถูกคุกคามจากโรงเรียน
ครูยึดโทรศัพท์, เอาตำรวจเข้ามาในโรงเรียน, ดึงโบว์ออก, ขู่ว่าจะไล่ออก ตัดคะแนน ไม่ให้เรียนต่อที่เดิม ฯลฯ คือสารพัดปรากฏการณ์ที่นักเรียนทั่วประเทศไทยขณะนี้พบเจอเมื่อแสดงออกสัญลักษณ์ทางการเมือง
เมื่อเจอเหตุการณ์เหล่านี้จะรับมืออย่างไรได้บ้าง ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรวบรวมคำตอบจากหลายคำถามที่เด็กนักเรียนทั่วประเทศกำลังสงสัย เพื่อยืนยันว่าสิทธิเด็กมีที่ทางและได้รับการคุ้มครองมากกว่าที่คิด เช่นเดียวกับวิชาชีพครูที่มีกลไกถ่วงดุล ตรวจสอบ เพื่อที่ครูจะปฏิบัติต่อนักเรียนตามหลักกฎหมาย หลักวิชาชีพ และหลักสิทธิมนุษยชนมากกว่าที่คิดเช่นกัน
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รวบรวมคำถาม-คำตอบ เกี่ยวกับการคุกคามในโรงเรียน ไว้ในรูปแบบ Q&A ดังนี้
Q: สิทธิเด็กอยู่ไหน? เมื่อถูกคุกคามจากโรงเรียน
A:
อยู่ในกฎกระทรวงฯ และหนังสือของกระทรวงศึกษาธิการ
Q: ในกฎกระทรวงฯ ให้อำนาจครูลงโทษนักเรียนเพราะนักเรียนแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือไม่ ?
A: นักเรียน-นักศึกษา จะได้รับการลงโทษเมื่อกระทำผิดด้วยเหตุผลใด สิ่งเหล่านี้ได้ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนแล้วในกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 และ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2562 ซึ่งออกตามอำนาจพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 64
ซึ่งกฎกระทรวงทั้งสองฉบับนี้ ไม่ได้ให้อำนาจสถานศึกษาและโรงเรียนลงโทษนักเรียนและนักศึกษาจากการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง การจัดการชุมนุม รวมกลุ่ม เข้าร่วมการชุมนุมโดยสงบในพื้นที่โรงเรียน สถานการศึกษา และพื้นที่สาธารณะแต่อย่างใด
Q: หากครูลงโทษนักเรียนด้วยเหตุเกินกว่าที่กฎกระทรวงฯ กำหนด จะเกิดอะไรขึ้น ?
A: โรงเรียนสามารถกำหนดระเบียบด้วยว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษาได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎกระทรวง หากโรงเรียนลงโทษนอกเหนือไปจากกฎกระทรวงที่ระบุไว้ ย่อมเป็นการกระทำทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและอาจมีสิทธิฟ้องเพิกถอนการลงโทษดังกล่าวต่อศาลปกครองต่อไป ยกตัวอย่างคดีฟ้องเพิกถอนคำสั่งให้พ้นสถานภาพจากการเป็นนักเรียนประจำของโรงเรียนจุฬาภรณ์วิทยาลัย จ.ตรัง โรงเรียนแพ้คดีเนื่องจากไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการลงโทษนักเรียน (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดหมายเลขแดงที่ อ.1606/2559)
Q: นอกจากฟ้องเพิกถอนคำสั่งที่ครูลงโทษเราแล้ว เราเอาผิดครูได้ไหม
A: ในกรณีเป็นโรงเรียนในกำกับรัฐบาล หากนักเรียนถูกลงโทษนอกเหนือจากกฎกระทรวงที่ระบุไว้ หากเกิดความเสียหายขึ้นแก่เนื้อตัวร่างกาย ชื่อเสียง ทรัพย์สิน เสรีภาพ อาจเป็นการกระทำโดยละเมิด ครูมีสิทธิถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายหรือถูกสอบสวนวินัยได้ เพราะครูถือเป็นอาชีพที่มีการกำหนด “วินัยของวิชาชีพ” ในระดับที่สูงและเข้มงวด ทั้งจรรยาบรรณวิชาชีพตามคุรุสภาและพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา 82-97 เช่น ส่วนหนึ่งของมาตรา 84 ระบุว่าข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความ “เสมอภาคและเที่ยงธรรม” และ “ปฏิบัติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพอย่างเคร่งครัด”
มีกรณีที่ครูเคยถูกลงโทษมาแล้วจากการเหยียดหยามนักเรียนว่าโง่เป็นควาย โง่ทั้งตระกูล สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณาว่าการกระทำของครูเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และปิดกั้นพัฒนาการของผู้เรียน มีคำสั่งลงโทษ ตามมาตรา 88 วรรคสอง ที่กำหนดว่า “การกลั่นแกล้ง ดูหมิ่นเหยียดหยาม กดขี่ หรือข่มเหงผู้เรียนหรือประชาชนผู้มาติดต่อราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง” กรณีที่เข้าองค์ประกอบความผิดไม่ได้มีเพียงเท่านี้ แต่มีหลายกรณี เช่น มีความประพฤติอันไม่เหมาะสมโดยกระทำการกลั่นแกล้ง ดูหมิ่น เหยียดหยาม กดขี่หรือข่มเหงอย่างร้ายแรงต่อผู้เรียน
Q: เราสามารถร้องเรียนไปที่ไหนได้บ้างหากครูฝ่าฝืนกฎกระทรวงฯ หรือทำผิดวินัยครู
A: หากครูฝ่าฝืนกฎกระทรวงฯ นักเรียนอาจร้องเรียนกับผู้บังคับบัญชาของครู หรือผู้อำนวยการโรงเรียนก่อน โดยพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด เพื่อให้ผู้อำนวยการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยครูคนนั้น หากคิดว่าผลการสอบสวนยังไม่เป็นธรรม ให้ยื่นหนังสือต่อ “สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา” (สำนักงาน ก.ค.ศ.) เพื่อให้มีการสอบสวนและสั่งลงโทษทางวินัยต่อไป และยังมีอีกวิธีการหนึ่งคือยื่นหนังสือต่อ “คณะกรรมการฯ เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู คุรุสภา” ซึ่งวิธีหลังนี้ใช้ได้ทั้งกับครูโรงเรียนรัฐและเอกชน
การยื่นหนังสือนี้สามารถอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.วินัยข้าราชการครู มาตรา 51 พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา กำหนดให้บุคคลผู้ได้รับความเสียหายจากการประพฤติผิดจรรยาบรรณครู มีสิทธิกล่าวหาครูต่อคุรุสภาเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ดูได้ในข้อบังคับคุรุสภาหมวด 3 เป็นต้น) ส่วนหนึ่งใน พ.ร.บ. ฉบับนี้ระบุว่า “ครูต้องไม่เลือกปฏิบัติ ไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางสติปัญญาและทางสังคมของศิษย์ ช่วยเหลือ ส่งเสริม และให้กำลังใจแก่ศิษย์”
อ่านแบบเต็มๆ ทุกรายละเอียดตามลิ้งค์ด้านล่าง
https://www.tlhr2014.com/?p=20482
FYI สำหรับเด็กและผู้ปกครองทุกท่านนะครับ
ถ้าใครอยากฟ้องศาลปกครองจากกรณีถูกโรงเรียนคุกคามสามารถติดต่อปรึกษาทางศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้ที่
โทร: 092-271-3172, 096-789-3173
Facebook: ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (TH), Thai Lawyers for Human Rights(EN)
Twitter: @TLHR2014