BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 409
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:16
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
StobJeve พิมพ์ว่า:
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
StobJeve พิมพ์ว่า:
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
StobJeve พิมพ์ว่า:
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
โสยบอย ไม่เคย ไม่กล้า พิมพ์ว่า:
แล้วทำไมถึงไม่ให้ความร่วมมือแต่แรกครับ ถึงต้องรอ 2 ปีถึงเริ่มทำ
ผมสงสัยเฉยๆ  


ปากบอกไม่โกง แต่ไม่ยอมให้ตรวจสอบโมเดลคุ้นๆไหม

 


ไปอ่านมาใหม่ครับ

ตอน CAS ขอสอบสวนทีม Man City ร่วมมือโดยดีครับ

 


ให้ความร่วมมือหลังจากผ่านไป 2 ปี ??

มีอะไรหมกเม็ดก็คงเคลียร์ไปหมดแล้ว

ถ้าบริสุทธิ์ใจ คงยอมให้ความร่วมมือตั้งแต่แรกละ


ปล.ไหนๆแล้วช่วยตอบคำถามของท้อปเม้นกระทู้นี้หน่อยครับ


http://www.soccersuck.com/boards/topic/1900903/1

 


อ่านหนังสือไม่แตกหรือยังไงคุณณณ

2 ปีมันคือระยะเวลาหลังมีข่าวอีเมล์หลุด แล้วยูฟ่าก็มาตั้งธงสอบสวน


แต่ CAS เพิ่งมามีบทบาทตอนอุทธรณ์ปีนี้เนี่ยยยย ซึ่งพอเรื่องอุทธรณ์ CAS ขอเอกสารอะไรมาก็ให้ความร่วมมือหมดอ่ะ


 


สรุป CAS ตรวจสอบแมนซิ หลังจากที่ Uefa โดนปฏิเสธไม่ให้ความร่วมกี่ปีครับ

ปล.ยังรอคำตอบจากมู้นั้นอยู่นะครับ
 


คำถามล่างผมโคว้ทตอบในเมนต์ล่าสุดให้แล้วนะครับ

ส่วนเรื่องเวลา จะบอกว่าทีม City ติดต่อ CAS ไปเองตั้งแต่โดนสอบแรกๆ แล้วครับ

 


ติดต่อตั้งแต่แรก แล้วส่งหลักฐานการเงินให้ CAS ดูตอนไหน พอจะมีข้อมูลไหมครับ  


หลักฐานอื่นๆ นั้นเพิ่งส่งครับ

ลองนึกภาพตามนะครับ ติดต่อไปแล้ว แต่ CAS ปัดตก บอกให้รอยูฟ่าตัดสินก่อน

แล้วก็ลากยาวมาเกือบ 2 ปี

พอยูฟ่าตัดสินปุ๊บ ก็เลยไปอุทธรณ์ CAS ทันทีครับ

ลำดับเหตุการณ์เข้าใจตรงกันอยู่ใช่ไหมครับ!?
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีมชั่วคราว
Status: ʕ•ᴥ•ʔノLFC.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 52600
ที่อยู่: ปีหน้าเรามาแน่ !!!!!!!!!!!! เข้าร่วม: 14 Feb 1993
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:16
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
สปอนเซอร์คงเล็งเห็นว่าในอนาคต น่าจะเป็นยอดทีมของโลกแหละ

ไม่งั้นคงไม่กล้าอัดสปอนเซอร์มาขนาดนี้(คนเล่นหุ้นน่าจะรู้) นับว่าตาถึงสุดๆ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 2731
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:21
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
StobJeve พิมพ์ว่า:
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
StobJeve พิมพ์ว่า:
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
StobJeve พิมพ์ว่า:
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
โสยบอย ไม่เคย ไม่กล้า พิมพ์ว่า:
แล้วทำไมถึงไม่ให้ความร่วมมือแต่แรกครับ ถึงต้องรอ 2 ปีถึงเริ่มทำ
ผมสงสัยเฉยๆ  


ปากบอกไม่โกง แต่ไม่ยอมให้ตรวจสอบโมเดลคุ้นๆไหม

 


ไปอ่านมาใหม่ครับ

ตอน CAS ขอสอบสวนทีม Man City ร่วมมือโดยดีครับ

 


ให้ความร่วมมือหลังจากผ่านไป 2 ปี ??

มีอะไรหมกเม็ดก็คงเคลียร์ไปหมดแล้ว

ถ้าบริสุทธิ์ใจ คงยอมให้ความร่วมมือตั้งแต่แรกละ


ปล.ไหนๆแล้วช่วยตอบคำถามของท้อปเม้นกระทู้นี้หน่อยครับ


http://www.soccersuck.com/boards/topic/1900903/1

 


อ่านหนังสือไม่แตกหรือยังไงคุณณณ

2 ปีมันคือระยะเวลาหลังมีข่าวอีเมล์หลุด แล้วยูฟ่าก็มาตั้งธงสอบสวน


แต่ CAS เพิ่งมามีบทบาทตอนอุทธรณ์ปีนี้เนี่ยยยย ซึ่งพอเรื่องอุทธรณ์ CAS ขอเอกสารอะไรมาก็ให้ความร่วมมือหมดอ่ะ


 


สรุป CAS ตรวจสอบแมนซิ หลังจากที่ Uefa โดนปฏิเสธไม่ให้ความร่วมกี่ปีครับ

ปล.ยังรอคำตอบจากมู้นั้นอยู่นะครับ
 


คำถามล่างผมโคว้ทตอบในเมนต์ล่าสุดให้แล้วนะครับ

ส่วนเรื่องเวลา จะบอกว่าทีม City ติดต่อ CAS ไปเองตั้งแต่โดนสอบแรกๆ แล้วครับ

 


ติดต่อตั้งแต่แรก แล้วส่งหลักฐานการเงินให้ CAS ดูตอนไหน พอจะมีข้อมูลไหมครับ  


ตอนไหนครับ ถ้าส่งตั้งแต่แรก ทำไมโดนปรับฐานให้ความร่วมมือ ขอหลักฐานอีกคน ภาาไทยหรือ อังกฤษก็ได้
ประเด็นนี้น่าสน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Apr 2010
ตอบ: 5506
ที่อยู่: Stamford bridge
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:22
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
หลังจากซิตี้เคลียเรืองนี้จบก็น่าจะบินสูงยาวๆแล้วละครับ เพราะรายได้ตอนนี้ก็สูงพอที่จะจับจ่ายใช้สอยแล้วละผมว่า อันดับด้านรายได้ช่วงหลังๆก็ท็อป5 เด่วก็เหมือนเชลซีที่ใช้เงินหมุนไม่จำเป็นต้องให้เจ้าของอัดเงินแล้ว ส่วนเรืองรอบนี้ในเมื่อศาลตัดสินแล้วก็คือจบไปแล้วครับ
มองในมุมแฟนแมนซิก็คงเซงแหละศาลตัดสินไปแล้วแฟนทีมอื่นจะเอาอะไรอีก ส่วนเรืองอัดฉีดเงินผมมองว่ามีแต่ถ้ามันเป็นไปตามกระบวนการก็ทำอะไรไม่ได้ครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมสำรอง
Status: ไม่ได้มากมายเลย !!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 44601
ที่อยู่: เกาะแคนดี้
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:23
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
StobJeve พิมพ์ว่า:

หลักฐานอื่นๆ นั้นเพิ่งส่งครับ

ลองนึกภาพตามนะครับ ติดต่อไปแล้ว แต่ CAS ปัดตก บอกให้รอยูฟ่าตัดสินก่อน

แล้วก็ลากยาวมาเกือบ 2 ปี

พอยูฟ่าตัดสินปุ๊บ ก็เลยไปอุทธรณ์ CAS ทันทีครับ

ลำดับเหตุการณ์เข้าใจตรงกันอยู่ใช่ไหมครับ!?  


โอเคครับ สรุปว่าหลังจากที่แมนซิปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือกับ Uefa

2 ปีจากนั้น CAS ถึงได้ตรวจสอบเอกสารการเงิน


ปล.ถ้าว่างรบกวนตอบเนื้อหาในข่าว PPTV
ที่ผมแนบลิ้งในโคว้ทก่อนด้วยครับ ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: I hear you say.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 19066
ที่อยู่: อยู่ในใจเสมอ
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:24
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
เรื่องเจ้าของเอาเงินไปให้สปอนเซอร์มาอัดทีมมันไม่มีหลักฐานไง

เอาที่เห็นชัดช่วงมาใหม่ๆ เซ็นชื่อสนามเอติฮัต แพงกว่าเอมิเรตสนามน่อลหลายเท่าเลยล่ะ

แต่มี 10 สโมสรแหละ ใน EPL ที่ออกมาบอกว่าควรลงโทษซิตี้ แต่ศาลโลกสวนทันควันเลยว่า ไม่มีหลักฐาน จบเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน





ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 409
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:29
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
codenameq พิมพ์ว่า:
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
StobJeve พิมพ์ว่า:
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
StobJeve พิมพ์ว่า:
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
StobJeve พิมพ์ว่า:
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
โสยบอย ไม่เคย ไม่กล้า พิมพ์ว่า:
แล้วทำไมถึงไม่ให้ความร่วมมือแต่แรกครับ ถึงต้องรอ 2 ปีถึงเริ่มทำ
ผมสงสัยเฉยๆ  


ปากบอกไม่โกง แต่ไม่ยอมให้ตรวจสอบโมเดลคุ้นๆไหม

 


ไปอ่านมาใหม่ครับ

ตอน CAS ขอสอบสวนทีม Man City ร่วมมือโดยดีครับ

 


ให้ความร่วมมือหลังจากผ่านไป 2 ปี ??

มีอะไรหมกเม็ดก็คงเคลียร์ไปหมดแล้ว

ถ้าบริสุทธิ์ใจ คงยอมให้ความร่วมมือตั้งแต่แรกละ


ปล.ไหนๆแล้วช่วยตอบคำถามของท้อปเม้นกระทู้นี้หน่อยครับ


http://www.soccersuck.com/boards/topic/1900903/1

 


อ่านหนังสือไม่แตกหรือยังไงคุณณณ

2 ปีมันคือระยะเวลาหลังมีข่าวอีเมล์หลุด แล้วยูฟ่าก็มาตั้งธงสอบสวน


แต่ CAS เพิ่งมามีบทบาทตอนอุทธรณ์ปีนี้เนี่ยยยย ซึ่งพอเรื่องอุทธรณ์ CAS ขอเอกสารอะไรมาก็ให้ความร่วมมือหมดอ่ะ


 


สรุป CAS ตรวจสอบแมนซิ หลังจากที่ Uefa โดนปฏิเสธไม่ให้ความร่วมกี่ปีครับ

ปล.ยังรอคำตอบจากมู้นั้นอยู่นะครับ
 


คำถามล่างผมโคว้ทตอบในเมนต์ล่าสุดให้แล้วนะครับ

ส่วนเรื่องเวลา จะบอกว่าทีม City ติดต่อ CAS ไปเองตั้งแต่โดนสอบแรกๆ แล้วครับ

 


ติดต่อตั้งแต่แรก แล้วส่งหลักฐานการเงินให้ CAS ดูตอนไหน พอจะมีข้อมูลไหมครับ  


ตอนไหนครับ ถ้าส่งตั้งแต่แรก ทำไมโดนปรับฐานให้ความร่วมมือ ขอหลักฐานอีกคน ภาาไทยหรือ อังกฤษก็ได้
ประเด็นนี้น่าสน  



เดี๋ยวผมค่อยๆ อธิบายลำดับเหตุการณ์ จะได้ไม่สับสนครับ

เริ่มจากยูฟ่าสอบ Man City (จากข่าวหลุด)

Man City มองว่าเคยโดนลงโทษไปแล้ว มาสอบอะไรอีก เลยไม่ให้ความร่วมมือ

Man City ร้องไปทาง CAS ทาง CAS ปัดตก บอกเอ็งรอยูฟ่าตัดสินก่อน

ยูฟ่าสอบยาวๆ มาตัดสินแบน พร้อมปรับเงิน 30 ล้าน ในปีนี้

Man City เลยยื่นเรื่องไป CAS อีกรอบ คราวนี้รับเรื่องละ

หลังสอบสวนไปมา CAS ยกเลิกโทษแยน พร้อมลดเงินปรับจาก 30 เหลือ 10 ล้าน

ที่โดนปรับนั้น ตอนแรกยูฟ่าปรับเพราะเป็นสโมสรในยุโรป ต้องให้ความร่วมมือในการสอบสวน พอไม่ร่วมมือเลยปรับ 30 ล้าน

แต่ CAS มองว่าไม่ได้ผิด แต่เป็นทีมยุโรป ควรร่วมมือกับยูฟ่าตั้งแต่แรก เลยยังคงให้ปรับอยู่ แค่ลดเงินลงมา

สรุปเรื่องผิดการเงิน FFP กับปรับเงินเพราะไม่ร่วมมือ คนละเรื่องกันครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 24285
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:30
ถูกแบนแล้ว
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
StobJeve พิมพ์ว่า:
DeJesus พิมพ์ว่า:
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
DeJesus พิมพ์ว่า:
เอาไรมากตอนมีข่าวว่ามีแฮ็กเกอร์ขโมยเมลแมนซิไม่มีคนสงสัยเลยว่ามันมีการปลอมแปลงเอกสารหรือเปล่า พอข่าวออกมาล่าสุดว่าแมนซิให้เมลฉบับจริงไปตรวจสอบกลับมีคนตั้งข้อสงสัยว่าไปแอบตกแต่งเมลก่อนหรือเปล่า สรุปคือจะให้ผิดให้ได้แหละ  


ช่วยตอบคำถามของท้อปเม้นกระทู้นี้หน่อยครับ

http://www.soccersuck.com/boards/topic/1900903/1  

ผมข้อมูลไม่แน่นพอที่จะตอบหรอกครับ ผมแค่คนดูบอลสนุกๆ แต่อ่านแล้วผมว่ายูฟ่าไม่น่าไปเสียตังจ้างทีมทนาย 6 คนเลย น่าจะมาจ้างชาว ss เรา ดูแล้วรู้ข้อมูลแน่นกว่าเยอะ  


มาๆ เดี๋ยวผมตอบให้แทน 55

ถ้าทอปเมนต์อันนั้น ก็ต้องตอบว่า “จริง” ที่ว่าดีลของ Etihad มันดูเวอร์ไปเมื่อเทียบกับทีมอื่นๆ ในยุคนั้น ซึ่งมันตั้งแต่ก่อน FFP จะบังคับใช้เต็มตัว

เป็นการทำสัญญายาว 10 ปี 400 ล้าน

ซึ่งตอนนั้นมันแพงมากแหละ แต่มาดูตอนนี้จะพบว่าเป็นดีลที่ไม่แพงมาก หากเทียบกับมูลค่าทีมในปัจจุบัน (คนเล่นหุ้นน่าจะพอเข้าใจเรื่องนี้อยู่นะครับ)

แต่ตอนหลังก็ใช่ว่าจะรอด โดนยูฟ่าสอบเรื่องละเมิดกฎ จนโดนลงโทษไปครั้งหนึ่งตอนปี 2014 แล้ว

ผมเขียนไว้ในข้อ 6 ถ้าเค้าอ่านบ้างเค้าคงเห็นแล้ว (แต่ดูเหมือนไม่ได้อ่าน)

ซึ่งดีลก็กำลังจะหมดแล้ว มารอดูกันครับว่าต่อสัญญาใหม่รอบนี้จะได้เท่าไร


อ่ะ ผมตอบคำถามทอปเมนต่ของกระทู้นั้นให้แล้วนะ มีข้อมูลตรงไหนจะถกอีก พร้อมมมมม  



"ผมเขียนไว้ในข้อ 6 ถ้าเค้าอ่านบ้างเค้าคงเห็นแล้ว (แต่ดูเหมือนไม่ได้อ่าน)" ตรงนี้ หมายถึงผมใช่มั้ย?

มาสิ คุณบอกว่าซิตี้โดนลงโทษแล้วในปี 2014 ใช่มั้ย? ถ้าคุณบอกผมไม่อ่าน ผมแนะนำว่าคุณไปดูก่อนว่าซิตี้โดนลงโทษตอนนั้นคือข้อหาอะไร?

ตอนปี 2014 ซิตี้โดนลงโทษตามกฏ FFP ที่ห้ามขาดทุนติดต่อกัน 3 ฤดูกาล

อ้างอิงข้อมูลจาก Forbes
------ Value --- Revenue --- Operating Income
ปี 2012 $443M --- $246M --- -$123M
ปี 2013 $689M --- $362M --- -$53M
ปี 2014 $863M --- $411M --- -$18M

ตั้งแต่กฏ FFP เริ่มใช้มาตั้งแต่ตอนปี 2011 ตรงนี้ซิตี้ขาดทุนจริง 3 ฤดูกาล ทำให้โดนลงโทษ ปรับเงินรางวัลและลดโควต้าส่งรายชื่อลงแข่งรายการในฟุตบอลยุโรป



ส่วนรอบหลังมาปี 2020 ที่ผ่านมานี้ มันคนละเรื่องกันที่ยูฟ่าเอาผิดซิตี้ในครั้งนี้

รอบนี้ยูฟ่าได้หลักฐานมาว่าเงินรายได้ของซิตี้นั้นมาด้วยการแอบแฝงอัดฉีดจากเงินทุนในเครือของชีค มานซูร์

จะผิดไม่ผิดเพราะอะไรก็แล้วแต่มุมมองเลย ซึ่งยูฟ่าตัดสินว่าผิด แต่ CAS ก็ตัดสินใหม่ไปแล้วว่าไม่ผิด เรื่องก็แค่นี้
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 409
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:34
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
Shiroyasha พิมพ์ว่า:
StobJeve พิมพ์ว่า:
DeJesus พิมพ์ว่า:
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
DeJesus พิมพ์ว่า:
เอาไรมากตอนมีข่าวว่ามีแฮ็กเกอร์ขโมยเมลแมนซิไม่มีคนสงสัยเลยว่ามันมีการปลอมแปลงเอกสารหรือเปล่า พอข่าวออกมาล่าสุดว่าแมนซิให้เมลฉบับจริงไปตรวจสอบกลับมีคนตั้งข้อสงสัยว่าไปแอบตกแต่งเมลก่อนหรือเปล่า สรุปคือจะให้ผิดให้ได้แหละ  


ช่วยตอบคำถามของท้อปเม้นกระทู้นี้หน่อยครับ

http://www.soccersuck.com/boards/topic/1900903/1  

ผมข้อมูลไม่แน่นพอที่จะตอบหรอกครับ ผมแค่คนดูบอลสนุกๆ แต่อ่านแล้วผมว่ายูฟ่าไม่น่าไปเสียตังจ้างทีมทนาย 6 คนเลย น่าจะมาจ้างชาว ss เรา ดูแล้วรู้ข้อมูลแน่นกว่าเยอะ  


มาๆ เดี๋ยวผมตอบให้แทน 55

ถ้าทอปเมนต์อันนั้น ก็ต้องตอบว่า “จริง” ที่ว่าดีลของ Etihad มันดูเวอร์ไปเมื่อเทียบกับทีมอื่นๆ ในยุคนั้น ซึ่งมันตั้งแต่ก่อน FFP จะบังคับใช้เต็มตัว

เป็นการทำสัญญายาว 10 ปี 400 ล้าน

ซึ่งตอนนั้นมันแพงมากแหละ แต่มาดูตอนนี้จะพบว่าเป็นดีลที่ไม่แพงมาก หากเทียบกับมูลค่าทีมในปัจจุบัน (คนเล่นหุ้นน่าจะพอเข้าใจเรื่องนี้อยู่นะครับ)

แต่ตอนหลังก็ใช่ว่าจะรอด โดนยูฟ่าสอบเรื่องละเมิดกฎ จนโดนลงโทษไปครั้งหนึ่งตอนปี 2014 แล้ว

ผมเขียนไว้ในข้อ 6 ถ้าเค้าอ่านบ้างเค้าคงเห็นแล้ว (แต่ดูเหมือนไม่ได้อ่าน)

ซึ่งดีลก็กำลังจะหมดแล้ว มารอดูกันครับว่าต่อสัญญาใหม่รอบนี้จะได้เท่าไร


อ่ะ ผมตอบคำถามทอปเมนต่ของกระทู้นั้นให้แล้วนะ มีข้อมูลตรงไหนจะถกอีก พร้อมมมมม  



"ผมเขียนไว้ในข้อ 6 ถ้าเค้าอ่านบ้างเค้าคงเห็นแล้ว (แต่ดูเหมือนไม่ได้อ่าน)" ตรงนี้ หมายถึงผมใช่มั้ย?

มาสิ คุณบอกว่าซิตี้โดนลงโทษแล้วในปี 2014 ใช่มั้ย? ถ้าคุณบอกผมไม่อ่าน ผมแนะนำว่าคุณไปดูก่อนว่าซิตี้โดนลงโทษตอนนั้นคือข้อหาอะไร?

ตอนปี 2014 ซิตี้โดนลงโทษตามกฏ FFP ที่ห้ามขาดทุนติดต่อกัน 3 ฤดูกาล

อ้างอิงข้อมูลจาก Forbes
------ Value --- Revenue --- Operating Income
ปี 2012 $443M --- $246M --- -$123M
ปี 2013 $689M --- $362M --- -$53M
ปี 2014 $863M --- $411M --- -$18M

ตั้งแต่กฏ FFP เริ่มใช้มาตั้งแต่ตอนปี 2011 ตรงนี้ซิตี้ขาดทุนจริง 3 ฤดูกาล ทำให้โดนลงโทษ ปรับเงินรางวัลและลดโควต้าส่งรายชื่อลงแข่งรายการในฟุตบอลยุโรป



ส่วนรอบหลังมาปี 2020 ที่ผ่านมานี้ มันคนละเรื่องกันที่ยูฟ่าเอาผิดซิตี้ในครั้งนี้

รอบนี้ยูฟ่าได้หลักฐานมาว่าเงินรายได้ของซิตี้นั้นมาด้วยการแอบแฝงอัดฉีดจากเงินทุนในเครือของชีค มานซูร์

จะผิดไม่ผิดเพราะอะไรก็แล้วแต่มุมมองเลย ซึ่งยูฟ่าตัดสินว่าผิด แต่ CAS ก็ตัดสินใหม่ไปแล้วว่าไม่ผิด เรื่องก็แค่นี้  


เดี๋ยวๆ เคลียร์กันก่อน ผมหมายถึงอีกเมนต์ ผมไม่ได้หมายถึงคุณนะครับ

ตรงนี้ต้องเคลียรืใจก่อนเลย ว่าผมไม่ได้หมายถึงคุณจริงๆ (เดี่ยวแผล่บให้อันนึง ดีกันก่อนนะครับ )
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 May 2011
ตอบ: 12422
ที่อยู่: เมี๊ยววว!!
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:34
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ผู้จัดการทีมชาติ
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Oct 2005
ตอบ: 42697
ที่อยู่: Kanagawa, Japan
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:35
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
StobJeve พิมพ์ว่า:
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
Spoil
StobJeve พิมพ์ว่า:
Before&After พิมพ์ว่า:
อ่านจากโพสของเพจ law inspiration เค้าว่างี้....

CAS ปล่อยคำพิพากษาคดีแมนซิ กับ ยูฟ่า ออกมาแล้วนะครับ

ตอนแรกเข้าใจว่า CAS ไม่รับฟังว่าอีเมล์ที่ถูกแฮกเกอร์ขโมยมา

แต่ความจริงแล้ว CAS รับฟัง แต่หลัก ๆ ประเด็นที่ทำให้แมนซิชนะ คือ สัญญาที่แมนซิ ทำกับสปอนเซอร์นั้นมีผลทางกฎหมาย ไม่มีหลักฐานว่าเป็นมันเป็นนิติกรรมอำพราง

เคสนี้น่าจะเป็นกรณีศึกษาได้เลยครับ

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า มีเงินอย่างเดียวไม่พอนะครับ .. ต้องจ้างทนายที่เก่ง ๆ ไว้ด้วย

ใครสนใจไปอ่านคำพิพากษาตัวเต็มได้ที่ https://www.tas-cas.org/fileadmin/user_upload/CAS_Award_6785___internet__.pdf

@Harvey

ปล. คดีนี้เป็นคดีในอนุญาโตตุลาการ อาจจะต้องใช้คำว่า #คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ แทนคำว่า คำพิพากษานะครับ แต่ให้เข้าใจง่าย ๆ ผมเลยเรียกว่าคำพิพากษาแทน

ข้อความข้างล่างเป็นการเม้นตอบลูกเพจของแอดมิน

แมนซิต้องหาเงินให้พอกับจำนวนเงินที่จ่ายไป .. แต่ห้ามเอาเงินเจ้าของมาครับ

แมนซิก็เลยให้บริษัทของญาติมาเป็นสปอนเซอร์ให้ โดยให้จ่ายเงินค่าสปอนเซอร์แพง ๆ (แต่จริง ๆ เจ้าของแอบเอาเงินตัวเองไปจ่ายคืนให้สปอนเซอร์)

ทีนี้ มันไม่มีหลักฐานที่บอกว่า สัญญาสปอนเซอร์นั้นเป็นนิติกรรมอำพราง หรือทำหลอก ๆ

อนุญาโตก็เลยบอกว่าสัญญาสปอนเซอร์มันมีผลทางกฏหมาย แมนซิหาเงินมาได้โดยชอบ ไม่ใช่เจ้าของแอบเอาเงินมาให้ครับ

Cr. เพจ Iaw inspiration  


แผล่บให้นะครับ ขอบคุณที่ช่วยเพิ่มเติมข้อมูล

แต่อยากจะแก้วรรคที่ว่า.. จริง ๆ เจ้าของแอบเอาเงินตัวเองไปจ่ายคืนให้สปอนเซอร์

ถ้ายัดตรงๆ แบบนั้น EUFA เค้าเอาผิดได้นะครับ

กฎ FFP ไม่ได้หยอมแหยม และเขียนมาครอบคลุมการยัดเงินรูปแบบนี้อยู่

ในวงเล็บจึงทำให้เข้าใจผิดได้นิดหน่อยครับ  
 


ขออนุญาตนะครับ

หน้าไหนในรายงานที่ CAS ไปตรวจสอบบัญชี,นิติกรรม ของบริษัทฯที่เป็นสปอนเซอร์หรอครับ

ผมอยากอ่านรายละเอียดอ่ะฮะ..

 


จะมีสรุปอยุ่ข้อ 289 ครับ

ส่วนที่ไปตรวจสอบพวกนิติกรรมอำพราง ที่ว่าจ้างสปอนเซอร์ แล้วจ่ายคืน อะไรพวกนั้น มันไม่มีข้อมูลอ่ะครับ  


ขอบคุณครับ..อันนั้นแหละฮะเป็นส่วนที่ผมอยากจะสื่อถึงอ่ะฮะ

ที่บอร์ดเราถกเถียงกันอย่างเดือด..ประเด็นจุดยอดของปัญหามันแค่ตรงนี้แหละฮะ..คือเงินสปอนเซอร์มาจากไหน(ตั้งเยอะ)??

ในข้อ 289 ที่ท่านแนะนำมาผมอ่านดูแล้วนะฮะ..



ประเด็นในข้อนี้มันชี้แจงได้แค่ MCFC, HHSM(คือท่านชีค), ADUG(คือ Abu Dhabi United Group ที่ท่านชีคเป็น owner)

และ ETIHAD(บริษัทสปอนเซอร์ ตัวปัญหาของเรื่องราวทั้งหมดนี้) ไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกัน..แค่นั้นเองฮะ..

เป็นการตรวจสอบที่เบาบางมากเลยอะ..ผมทำงาน e-bidding กับราชการบ่อยมาก นี่เป็นข้อพื้นฐานก่อนเข้าประมูลเลยฮะ..

ขออนุญาติแปะให้ดูนะครับ

Spoil
 

ถามว่าทุกๆวันนี้การ bidding ในงานราชการที่เงื่อนไขด้านบนต้องถูกกรรมการเปิดซองตรวจสอบ"ทุกครั้ง" มีการทุจริต(ฮั้วประมูล)กันมั๊ยครับ??

ตอบตรงนี้ได้เลยฮะว่า เยอะมากกกกกกกกกกกก..ไอ้การตรวจสอบพวกนี้มันเช็คแค่เงื่อนไขว่าแต่ละบริษัทไม่ได้มีกรรมการร่วมกันฮะ

ซึ่งก็ไม่ผิดนะฮะ มันตรวจสอบมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ถ้าไม่ได้เจาะละเอียดเข้าไปถึงธุรกรรม,บัญชีข้างในบริษัทฯ ก็จะได้ข้อมูลเพื่อเช็คแค่นี้แหละฮะ

และบริษัทที่ต้องการทุจริต ก็ไม่โง่พอที่จะตายน้ำตื้นให้จุดนี้โดนจับหรอกฮะ..

ซึ่งเมื่อศาลไม่มีอำนาจตรวจสอบธุรกรรม รวมถึงบัญชีภายในบริษัทฯของ ETIHAD ได้ ก็ไม่มีทางรู้แหล่งที่มาของเงินรายได้

และศาลไม่มีสิทธิ์จะไปยุ่มย่าม business ของ ETIHAD ว่าทำไมถึงกล้าลงทุนในสิ่งที่ดูยังงัยก็ไม่คุ้มทุน (แล้วทำเพื่ออะไร?)

==================================================================

ในกรณีเรื่องเมลล์ที่ leaked (โดนแฮค)ออกมา กับเอกสารจริงที่ศาลให้น้ำหนัก (และท่านกล่าวในข้อ 1. ว่าเอกสารมันไม่ตรงกัน)

อันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากเช่นกันอ่ะครับ เพราะมันคือเอกสารภายใน..ระหว่างซิตี้กับ ETIHAD (และรวมถึง HHSM, ADUG)

ซึ่งมันก็เคสเดียวกับกรณี non-related parties ด้านบนแหละฮะ..มันจับมือใครดมไม่ได้หรอกฮะ..ว่าอันไหนเป็น original

(ผมยังเคย make เอกสารรายงานการประชุมสามัญประจำปีของบริษัทฯใหม่เลยฮะ เพื่อให้มันสอดคล้องกับงบดุลปลายปี)

แต่ยังงัยศาลต้องให้น้ำหนักเอกสารที่เป็น official เป็นอันดับแรกอยู่แล้ว..เพราะเอกสารแฮคมันไม่น่าเชื่อถือตั้งแต่ที่มาของมัน

==================================================================


ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมไม่ได้เห็นคัดค้านที่ศาลยกฟ้องซิตี้ (เรื่องโทษแบน) นะฮะ..

เพราะเข้าใจจริงๆ ในเมื่อหลักฐานเอาผิดมันหาไม่ได้ มันต้องยกประโยชน์ให้จำเลยอยู่แล้ว สิ่งนี้เป็นสากลมากๆ

(ในมู้เก่าๆผมยังด่า UEFA มากกว่าด้วยซ้ำ..ที่ออกกฏนี่ แต่กลับปล่อยช่องโหว่เบ้อเร่อที่ทีมใดๆก็สามารถใช้ช่องนี้ได้

แต่กลับไม่มีปัญญาเอาผิด ต้องไปหาเศษเรอจากแฮคเกอร์เพื่อมาฟ้อง..ต่อให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกกับทีมอื่นๆ ก็ทำไรไม่ได้ฮะ)



แต่ท่านเองก็ต้องเข้าใจนะฮะ ที่บอร์ดเดือดๆ นั่นก็เพราะแฟนซิตี้บางท่านพยายามบอกว่าทีมตรูไม่ได้ทำ แล้วข้อมูลต่างๆมา

แทนที่จะยอมรับตรงๆว่า ทำรึเปล่าไม่รู้..รู้แต่มันไม่มีหลักฐานที่ศาลสามารถใช้เอาผิดได้ ก็แค่นั้นอ่ะฮะ

(ลึกๆต้องถามใจตัวเองว่าคิดว่า ETIHAD กับชีคทำจริงมั๊ยฮะ..ผมเชื่อว่าแม้แต่แฟนซิตี้เอง ส่วนใหญ่ก็คิดแหละฮะว่าเรื่องนี้มันเทาๆ)


ออนไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 24285
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:37
ถูกแบนแล้ว
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
StobJeve พิมพ์ว่า:


2. อ่าว ไหนว่าอีเมล์ที่โดนแฮ็กไม่ถูกใช้เป็นหลักฐาน

ข้อนี้เข้าใจผิด อีเมล์ที่โดนแฮ็ก ก็ถูกนำมาใช้พิจารณาด้วย แต่ติดปัญหาประมาณนี้ครับ...

ข้อแรก เพราะเมื่อเทียบกับอีเมล์จริง มันมีการตัดต่อข้อความบางส่วน แล้วคงเหลือบางส่วน (เพื่อผลประโยชน์ของใครรึเปล่า?)

ข้อสอง มีการดัดแปลงหลักฐานที่ถูกแฮ็ก เช่น พอเทียบกับแล้ว มันคือการเอาเนื้อหาเมล์ 2 อัน มารวมเป็นอันเดียว

ใช้หลักฐานที่แฮ็กมายังไม่พอ ยังเป็นหลักฐานที่ปลอมแปลงมาอีก

 




อันนี้อ่านจากตรงไหนครับว่าหลักฐานอีเมลมีการดัดแปลง ผมพยายามกวาดดูยังไม่เจอ อยู่หน้าไหนครับ เดี๋ยวผมไปอ่าน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 409
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:38
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
StobJeve พิมพ์ว่า:

หลักฐานอื่นๆ นั้นเพิ่งส่งครับ

ลองนึกภาพตามนะครับ ติดต่อไปแล้ว แต่ CAS ปัดตก บอกให้รอยูฟ่าตัดสินก่อน

แล้วก็ลากยาวมาเกือบ 2 ปี

พอยูฟ่าตัดสินปุ๊บ ก็เลยไปอุทธรณ์ CAS ทันทีครับ

ลำดับเหตุการณ์เข้าใจตรงกันอยู่ใช่ไหมครับ!?  


โอเคครับ สรุปว่าหลังจากที่แมนซิปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือกับ Uefa

2 ปีจากนั้น CAS ถึงได้ตรวจสอบเอกสารการเงิน


ปล.ถ้าว่างรบกวนตอบเนื้อหาในข่าว PPTV
ที่ผมแนบลิ้งในโคว้ทก่อนด้วยครับ ขอบคุณครับ
 


โทษทีครับผมเลื่อนผ่านไป

ในข่าว PPTV อ้างอิงจาก de spiegel ซึ่งตั้งธงเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก (อันนี้ไม่ได้ตอบกวนเด้อ)

แต่นอกจากหลักฐานแค่เนื้อข่าวเขียนไว้ ไม่มีข้อมูลอื่นๆที่น่าเชื่อถือ หรือกระทั่งแผนที่เส้นทางการเงินให้วิเคราะาห์เลยอ่ะครับ

ถ้ามีข้อมูลเท่านี้จะถือว่า spiegel นั่งเทียนไว้ก่อนนะครับ

แต่ถ้ามีข้อมูลเดิ่มเติม จะถกตรงนี้ต่อได้ครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 409
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:40
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
Shiroyasha พิมพ์ว่า:
StobJeve พิมพ์ว่า:


2. อ่าว ไหนว่าอีเมล์ที่โดนแฮ็กไม่ถูกใช้เป็นหลักฐาน

ข้อนี้เข้าใจผิด อีเมล์ที่โดนแฮ็ก ก็ถูกนำมาใช้พิจารณาด้วย แต่ติดปัญหาประมาณนี้ครับ...

ข้อแรก เพราะเมื่อเทียบกับอีเมล์จริง มันมีการตัดต่อข้อความบางส่วน แล้วคงเหลือบางส่วน (เพื่อผลประโยชน์ของใครรึเปล่า?)

ข้อสอง มีการดัดแปลงหลักฐานที่ถูกแฮ็ก เช่น พอเทียบกับแล้ว มันคือการเอาเนื้อหาเมล์ 2 อัน มารวมเป็นอันเดียว

ใช้หลักฐานที่แฮ็กมายังไม่พอ ยังเป็นหลักฐานที่ปลอมแปลงมาอีก

 




อันนี้อ่านจากตรงไหนครับว่าหลักฐานอีเมลมีการดัดแปลง ผมพยายามกวาดดูยังไม่เจอ อยู่หน้าไหนครับ เดี๋ยวผมไปอ่าน  


หน้า 38 เป็นต้นไปครับ

แต่จะมีหน้า 58 อีกรอบนะครับ

ปล.คุณรับคำขอโทษผมด้วยนะ ที่ว่าไม่อ่านนั่นไม่ได้หมายถึงคุณจริงๆครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Oct 2010
ตอบ: 1035
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 29, 2020 22:41
[RE: สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS]
newredkop พิมพ์ว่า:
ถ้าไม่ผิดจริง ก็ต้องชื่นชมทีมบริหารแมนซิที่หาเงินเก่งมากๆแหละ 5 ปีหลังสุดใช้ไป 600 ลป.

 


ตั้งแต่ปี 24 Mar 2017 ที่ CFCB/UEFA ออก release statement ให้ City ว่าหลุดพ้นจากการลงโทษตามข้อตกลง settlement agreement ที่ทำเมื่อ 16 May 2014 UEFA ไม่เคยกล่าวโทษ MCFC อีกเลยว่าละเมิด FFP regulations

การที่ MCFCจะใช้เงินเท่าไหร่ หากอยู่ในข้อกำหนดเรื่อง break even และที่มีของเงิน ไม่ขัดกับ FFP ของ UEFA ก็เหมือนทุกทีมที่มีกำลังจ่ายครับ

ในทางกลับกัน หาก MCFC ฉ้อฉล ด้วยจำนวนเงินมากมายขนาดนี้แล้ว CFCB/UEFA ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ น่าจะต้องสรุปว่าผู้ตรวจสอบไร้ความสามารถมากกว่าครับ ที่ออกกฎแล้วกลับไม่สามารถตรวจสอบเอาผิดได้
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel