สรุปแล้ว Man City ก็ไม่ได้ผิดจริงๆ จากเอกสาร 93 หน้าของ CAS
เท่าที่เห็นคือข่าวนี้เงียบมาก และมีหลายแห่งที่แปลข้อมูลจากเอกสารของ CAS มาแบบผิดพลาด เลยอยากจะใช้กระทู้นี้เป็นที่แก้ต่าง-แถลงข้อเท็จจริง ให้กับสโมสรสักหน่อย
EDIT: เพิ่มเติมลิงก์เอกสารครับ
https://www.tas-cas.org/fileadmin/user_upload/CAS_Award_6785___internet__.pdf
1. Man City ส่งเอกสารอีเมล์จริงๆ ให้ CAS
แทบไม่มีสื่อไหนนำเสนอในจุดนี้ ว่า Man City ก็ส่งอีเมล์จริงๆ ไปให้กับ CAS เพื่อพิจารณาคดีเทียบกับของที่โดนแฮ็ก
2. อ่าว ไหนว่าอีเมล์ที่โดนแฮ็กไม่ถูกใช้เป็นหลักฐาน
ข้อนี้เข้าใจผิด อีเมล์ที่โดนแฮ็ก ก็ถูกนำมาใช้พิจารณาด้วย แต่ติดปัญหาประมาณนี้ครับ...
ข้อแรก เพราะเมื่อเทียบกับอีเมล์จริง มันมีการตัดต่อข้อความบางส่วน แล้วคงเหลือบางส่วน (เพื่อผลประโยชน์ของใครรึเปล่า?)
ข้อสอง มีการดัดแปลงหลักฐานที่ถูกแฮ็ก เช่น พอเทียบกับแล้ว มันคือการเอาเนื้อหาเมล์ 2 อัน มารวมเป็นอันเดียว
ใช้หลักฐานที่แฮ็กมายังไม่พอ ยังเป็นหลักฐานที่ปลอมแปลงมาอีก
3. ไม่ผิดแล้วทำไมยังโดนปรับ!?
แยกกันก่อนว่าค่าปรับ 10 ล้าน เป็นคนละส่วนกับค่าปรับเรื่องทำผิด
ไม่มีหลักฐานเอาผิดเรื่องแหกกฎ FFP ได้ แต่ปรับเพราะไม่ให้ความร่วมมือกับ UEFA ที่สอบสวนตั้งแต่แรก ซึ่ง EUFA ตั้งค่าปรับไว้ 30 ล้าน
CAS มาพิจารณาแล้วคิดว่าควรลดโทษให้เหลือเพียง 10 ล้านเท่านั้น
4. แล้วทำไมไม่ให้ความร่วมมือ!?
อันนี้ผู้บริหาร Man City มองว่า EUFA ตั้งธงเอาผิดตั้งแต่แรกแล้ว แถมเป็นการตรวจสอบเพราะมีสำนักข่าวเอาเรื่องอีเมล์ที่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ มาทำข่าวในปี 2018
สโมสรเลยนิ่งเฉย รอเกือบ 2 ปี เพื่อไว้ว่ากันทีเดียวที่ CAS ไปเลย
5. เรื่องเอกสารหรือคดีหมดอายุความ!? (ที่โดนแซวๆกัน)
เอกสารที่นำมาใช้ประกอบการพิจารณา มีตั้งแต่ปี 2012-2016
ซึ่งทาง CAS ก็ยังได้พิจารณาเอกสารของปี 2014 ด้วย (ไม่เกี่ยวกับหมดอายุ 5 ปีเลย)
แต่ปัดตกเอกสารของปี 2012-2013 ที่ทาง EUFA อยากให้พิจารณาทิ้งไป เพราะเป็นความผิดที่ลงโทษไปแล้ว
จำได้ไหมว่าทีม Man City เคยรับโทษโดนปรับ โดนจำกัดเงินซื้อตัว ในช่วงปี 2015 มาครั้งหนึ่งแล้ว
6. อ่าว แล้วแบบนี้ Man City ทำผิดกฎจริงไหม!?
จริง และในปี 2014 ก็โดนลงโทษจาก EUFA ไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งการโดนปรับ โดนส่งสำรองลง UCL น้อยลง และห้ามซื้อตัวเกินเงินที่กำหนดไว้
ซึ่งหลังจากนั้นมา ทีมก็ปฏิบัติตามกฎ FFP มาโดยตลอด
เพราะฉะนั้น หลังจากโดนลงโทษมาแล้วในปี 2014 ทีมก็ไม่ได้โดนลงโทษอะไรอีกเลย
คำพูดที่ว่า "โกงแล้วรอด" จึงเป็นข้อกล่าวหาลอยๆ ในตอนนี้เท่านั้น...
ข้อมูลทั้งหมดนี้ มาจากอ่าน Skim เอกสาร 93 หน้า แล้วอ่านสรุปโดยคร่าวซ้ำอีกรอบหนึ่ง
พอดีผมเองเห็นว่าเว็บ SS ยังลงข่าวที่ไม่ค่อยตรงกับเนื้อหาเอกสารจาก CAS สักเท่าไร เลยถือโอกาสตั้งกระทู้มาชี้แจงแต่ละข้ออีกครั้ง
ใครยังมีข้อสงสัยหรือจะสอบถามอะไร สามารถมาคุยต่อกันได้เลยนะครับ