วันนี้พิเศษหน่อย พอดีมีเพื่อนสมาชิก SS ท่านนึง เขาจะบวช ผมเลยนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้...


อาจะเป็นเรื่องราวสั้นๆ แต่ด้วยความที่มีที่มาที่ไป ก็จะขอเล่าตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ หนีกันจริงๆ บางรายถึงขั้นผวาเป็นเดือนๆ ชนิดที่แหยงรถไปพักใหญ่ๆเลย...

และแน่นอน เรื่องนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ จังหวัดสุราษฏร์ธานี และเรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจาก วัด...<เอาเป็นว่าวัดๆนึงละกันเพลย์เสพเพื่อคนสุราษฏร์ด้วยกัน>

วัดนี้ถือว่าเป็นวัดที่ได้รับความนิยม จากญาติโยม พอสมควรนะครับ แต่ด้วยเพราะ ความยอดนิยมนี้แหละ มันอาจะทำให้สิ่งที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่าปรากฏขึ้นมา.. และเธอคนนั้นก็... <แต่บางคนเห็นนะเห็นกันเยอะด้วย>

ต้องบอกก่อนนะครับ การขับรถคนเดียวตอนกลางคืน ก็ถือว่าน่ากลัวแล้ว ยิ่งขับผ่านวัดตอนกลางคืน ไม่ต้องถามเลย เป็นไปได้ อยากจะพับกระจกขับกันเลยทีเดียว....



ต่อจากนี้จะขอเล่าเป็นเคสๆนะครับ ว่าแต่ละคนต้องพบเจอเธอคนนั้นอย่างไร และหนีมาได้อย่างไร...






รายแรกที่เห็น

- เป็นเด็กวัยรุ่น อายุปรมาณ 15ปี คือ ปรกติน้องคนนี้เขาชอบกลับบ้านดึกเป็นประจำทุกวันอยู่แล้วหลังเลิกเรียน และในตอนที่น้องเขาขับกลับบ้านในช่วงเวลา 22.00 น. โดยประมาณ

ในจังหวะที่หางตาเหลือบไปที่กำแพงวัด เวปแรกน้องเขาสะดุ้งเลย เหมือนเห็นใคร นั่งห้อยขาโตงเตงอยู่บนกำแพงวัด ตอนแรกน้องนึกว่าตาฝาด แต่ในจังหวะที่เหลือบดูกระจกข้าง มองไปด้านหลังอีกรอบ ก็ยังมีใครก็ไม่รู้ คราวนี้ยืนบนกำแพงแทน...เท่านั้นแหละ เด็กคนนี้ก็รีบขับรถกลับบ้านปิดไฟนอน <คืนนั้นไม่ได้เล่าใคร> ปล.รถมอไซต์นะครับ จะได้ไม่งง



นับจากนี้คือของจริงแล้วนะครับ ขอยกเคสที่แรงๆจริงมาโดยเฉพาะเลย


- เป็นวัยรุ่นชาย 2คน ขับรถมอเตอร์ไซ มากัน 2 คัน ก็นะ ตามประสาเพื่อน ขับไปด้วยคุยไปด้วยตีคู่กันไป แต่ในจังหวะที่ขับรถเลี้ยวเข้าไปในซอย อยู่ๆไฟถนนก็กระพริบพรึบพรับๆทั้งซอยเลย

ตอนนั้นทั้งคู่เริ่มใจไม่ดีแล้ว และในจังหวะที่จะรีบบิดๆเพื่อไปให้พ้นซอย อยู่ๆเพื่อนคนนึงก็ตระโกน เห้ยใครนั่งหลังมึงนั้น... อีกคนก็ทำท่าตกใจ แล้วชี้ไปที่เพื่อนคนแรกว่า หลังรถมึงนั้นใครวะ...

คือต่างคนต่างก็เห็นผู้หญิงนั่งซ้อนท้ายเพื่อนอยู่ เท่านั้นแหละตกใจคุมรถไม่อยู่ แล้วมีคันนึงสะบัดไปเกี่ยวกันล้มโครมมมม สลบจนกู้ภัยต้องมาพาส่ง รพ. เพราะไม่ใส่หมวก หัวฝาดถนน <ทั้งคู่ไม่ตาย >



คราวนี้เป็นกลุ่มวัยรุ่น แต่รายนี้ขับกระบะ และในรถก็มากัน 4 คน ผู้ชายล้วน แต่ก็เป็นปรกติของวัยรุ่นละนะ ช่วงนั้นก็ชอบไปเที่ยวผลับเที่ยวบา กลับดึกกันทุกวัน ตอนออกกลับมาจากผับ ประมาณ ตี 1 คือมันจำเป็นต้องขับผ่านซอยเล็กๆเพื่อ เลี้ยงด่านตรวจ Lกฮ. และแน่นอน มันเป็นซอยวัด... ด้วยความที่คึกคะนอง ไอ้สองคนหลังมันชวนกันคุยเรื่องผู้หญิงในผับ ว่าสวยแบบนั้นแบบนี้อยากพามาจัดที่ห้อง... แล้วอยู่ๆอีกคนก็ตะโกน <น้องพี่ชอบน้องอย่างแรงเลย น้องเฮ่อออ สักทีเอาม้ายยย >


หลังจากสิ้นเสียงตะโกนออกไปปุ๊ป ไม่นานหลังจากนั้น อยู่ๆหลอดไฟนีออนของถนนก็ ช๊อตขึ้นมา... อาการติดๆดับๆ ประมาณว่า ขับผ่านเสาไฟอันไหน เสาอันนั้นก็เหมือนจะช๊อต ติดๆดับๆ ตามหลังรถไปเลย...


ณ เวลานั้น ตัวคนขับดูแล้วมีสติสัมปัชชัญะมากที่สุด ก็เริ่มใจไม่ดี เพราะว่า ด้านซ้ายนี้เป็นวัดนะ...และมันก็ดึกแล้วด้วย ตอนนั้นกำลังเสียอารมณ์ เพราะเพื่อนก็ดันปากปีจอ พูดไรไม่ดูสถานที่ ไม่ดูสถาณการณ์เลย ว่ากำลังขับผ่านวัด...


และในจังหวะที่ขับไปได้ประมาณกลางซอย อยู่ๆคนขับก็หักรถหลบสุดแรง ไม่รู้ตัวอะไรเหมือนมันวิ่งตัดหน้ารถมุ่งเข้าไปในวัด... ตอนนี้ล้อซ้ายนี้ตกร่องขอบถนนละ ด้วยความที่ตกใจและห่วงว่ารถจะเป็นรอยเป็นอะไรไหม ก็พากันลงจากรถ เดินไปดูล้อหน้าซ้ายกัน...


ต้องบอกว่ามีเพียงคนขับเท่านั้น ที่รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง... ว่าที่ตรงนี้ไม่ได้มีแค่พวกเขา 4 คน... ผ่านไปสักพักคนขับเลยตะโกนบอกเพื่อนว่า กลับขึ้นรถดีกว่าพวกเราค่อยไปดูที่หออีกที...


อยู่ๆเพื่อนปากปีจอที่เมาแอ๋ ก็ตะโกนขึ้นมาอีกว่า <ไปๆขึ้นรถมาเลยแถมยังทำมือกวักมือไปทางไหนอีกก็ไม่รู้> ตอนนั้นอีก 2คนก็หัวเราะเฮฮากันดีแหละ มีแต่คนขับไม่ฮาด้วย


และในจังหวะที่ทุกคนกำลังปิดประตู อยู่ๆก็มีเสียง ตุบใหญ่ๆดังมาก และทุกคนรู้สึกได้เหมือนกันหมดว่า ท้ายกระบะยวบลง...ในเวลานั้นทุกคนนี้กลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ๆแล้ว


พอทุกคนหันกลับไปมอง.... ชัดเลยเต็มๆ 4คน 8 ตา เห็นเหมือนกัน มันเป็นผู้หญิงผมยาวสีดำวับ เธอนั่งคุกเข่า เอามือมาทาบตรงกระจกแคปกลาง และเหมือนเธอกำลังยิ้ม พร้อมกรอกลูกตาไปมา ไปมา เธอจ้องหน้าคนในรถทีละคนๆ...


ตอนนั้นในรถทุกคนร้อง เหวอเลย จะเปิดประตูลงก็ไม่ได้ได้แต่ ดิ้นโหยงๆในรถบอกให้เพื่อนรีบขับไปเลย ไปๆๆๆ ร้องตกใจเพราะกลัวกันทุกคน คนขับได้สติก็รีบเหยียบรถออกไปโดยไม่มองหลังกันเลย จนไปถึงเซเว่น ถึงจะกล้าลงกันจากรถ คือถึงขั้นต้องโทรให้ พ่อมารับกลับบ้าน ไม่กล้านั่งรถคันนั้นแล้ว...



ปิดท้ายกับลุงคนนี้ละกันนะครับ เพราะแกถึงขั้นเกือบช๊อคตายคารถกันเลยทีเดียว

ลุงวัยกลางคน แกเป็นเสือผู้หญิง ประมาณว่า ป๋าสายเปย์ เที่ยวผู้หญิง เกือบทุกคืนไรงี้
และช่วงที่แกกำลังขับรถไปหาสาวๆมากินเล่น <ขับรถไปบ้านเด็กป๋า>

มันจำเป็นต้องขับผ่านเข้าซอยวัด ซอยนี้ แต่ด้วยความที่ในหัวไม่มีเรื่องอะไรแบบนี้อยู่เลย ก็ไม่กลัวสิ ก่อนขับเข้าไปในซอย แกหยิบมือถือ โทรไปหา กิ๊ก พูดคุยประมาณว่า ป๋าใกล้ถึงแล้วนะ หยอกล้อประมาณ ถอดผ้ารอเลยอีหนู <คุยเรื่องกามล้วนๆ>

พอเลี้ยวเข้าซอยปุ๊ป คราวนี้ ดับทั้งซอย ไม่กระพริบๆแล้ว แต่ก็นะไฟดับมันเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว ไฟตกแน่นอน ในเมืองไฟมันใช้กันเยอะอยู่แล้วนี้ ก็เลยไม่ได้สนใจอะไรขับไปเรื่อยๆ

คราวนี้ป๋าแกรู้สึกได้เลย ลมอะไรไม่รู้ เหมือนทะลุหน้ากระจกรถเก๋งเข้ามาเลย ตอนนั้นแกผงะไปครู่นึง คือสะดุ้งกับเหตุการณ์อะไรบางอย่างเมื่อกี้ แกเลยผ่อนคันเร่ง ขับช้าลงกว่าเดิม

พอขับไปสักพัก ไฟหน้ารถแกเหมือนเห็นตัวอะไรนอนขวางถนนอยู่ไกลๆ ใช่คนหรือเปล่า <แกใช้ไฟสูงเพราะถนนไฟดับไม่มีรถสวนทำให้มองเห็นตั้งแต่ไกลๆ>


พอขับเข้าไปใกล้เรื่อยๆ ชัดเลยคราวนี้... เป็นคนแน่ๆ ผู้หญิงใส่ชุดนอนสีชมพู นอนคว่ำหน้าอยู่บนถนน ตอนนั้นป๋าแกคิดในใจ รถชนแน่ๆ ชนแล้วหนี หรือที่ไฟดับเพราะคนขับรถชนเสาไฟ ป๋าแกไม่คิดไรมากด้วยความมากประสบการณ์ แกเลยตับไฟขอทาง แล้วลงจากรถเพื่อไปดู ผู้หญิงคนนั้น...

หลังจากป๋าแก ลงจากรถปุ๊ป พอแกเดินไปด้านหน้ารถ ถึงกับอุทาน อ้าวเห้ย... เธอหายไปไหนแล้ววะ ? เมื่อกี้ยังเห็นนอนอยู่เลย หรือจะเป็นคนเมาเธอลุกขึ้นเดินหายไปแล้วงั้นหรอ ? คือ ไฟถนนดับมันมืดมาก อาจทำให้แกมองไม่เห็นว่าผู้หญิงคนนี้เขาคงลุกเดินไปแล้ว...

ในความมึนงง ป๋าแกก็เดินกลับขึ้นรถแบบอึ้งๆ ว่านี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน งง เลยตู แต่ก็นะ ด้วยความเสียอารมณ์ ป๋าแกเลยยก บรั่นดีมามึกเฮือกนึง แล้วก็ขับรถออกไปช้าๆ...เหมือนไม่มีอะไรเกิดึ้น และเป้าหมายอย่างเดียวของป๋าแก คือ อีหนู

และในช่วงเวลานั้นเอง ป๋าแกได้ยินหอมๆ อะไรสักอย่าง เหมือนกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิง ตอนนั้นแกบอกว่ารู้สึกเคลิ้มมาก เหมือนกับกำลังละมุนไปกับเด็กแรกแย้ม อะไรทำนองนี้

แต่ก็ฟินได้ไม่นาน อยู่ๆหูแกได้ยิงเสียงหัวเราะเบาๆ อิอิ คือ ตอนนั้นป๋าแกคงเริ่มตื่นตัวจากอาการฟินชั่วครู่ จนได้สติดีแล้ว และ แกก็รู้สึกได้ว่า ทำไมรถมันเอียงขวากว่าเดิม ยังกับมีคนนั่งอยู่เบาะหลังด้านขวาแบบแก ยังไงยังงั้น...

เอาละคราวนี้ อยู่ๆก็รู้สึกเหมือน ใครสักคนผิวลมเบาๆใส่ต้นคอ ยังกับ ทะลุด้านบนของเบาะมาเลย ตอนนั้นบอกเลยว่าขนลุกสู่ เลยเหลือบไปมอง กระจกประตูหลังว่าขึ้นสนิทหรือเปล่า ก็ขึ้นสนิทนี้ กด ขึ้นลง ตื้ดด-ชึงง ก็แน่นดีนี่ สงสัยคิดไปเอง

และในจังหวะที่กำลังจะพ้นซอย อยู่ๆก็มีแขนใครไรก็ไม่รู้ มาโอบต้นคอแกสะงั้น คือรู้สึกได้เลยเป็นแขนเล็กของผู้หญิงแน่ๆ ด้วยความตกใจ ป๋าแกเหว๋อไปพักนึง สายตาแกกลอกไปมาๆที่แขนขาวจั๊วะ เย็นๆแขนนั้น ยังไม่พอ...

อยู่ๆก็มีเสียงพูดขึ้นมาว่า พี่ขา พี่ขา พี่ขา... พูดวนไปอยู่แบบนี้ ดังก้องอยู่ในรถ จากนั้นแกก็เหยียบเบรคจนรถจอดสนิท คือ แกพยามสะบัดแขนเล็กๆนั้นออกก็ไม่ยอมหลุด พยามจะเอื้มมือไปเปิดประตูรถก็เปิดไม่ได้ เหมือนมีใครดันประตูอยู่ข้างนอกไม่ให้ออก

คือ พยามเอามืองัดแขนนั้นให้หลุดๆออกไป แต่ทำยังไงก็ไม่ออก กลัวก็กลัว งงก็งง ทำไมแขนเล็กๆถึงได้มีแรงเยอะขนาดนี้ ยิ่งงัดก็ยิ่งแน่นกว่าเดิม...

และในจังหวะที่แกหันหน้าไปทางขวามือของแก มองไปยังกระจกใสๆของประตูรถ ภาพเงาสะท้อนให้เห็นเต็มๆตาเลย ผู้หญิงหน้าตาใช้ได้อยู่ เอาคอมาตั้งที่เบาะด้านขวา พร้อมสีหน้ายิ้มแย้ม กับชุดนอนสีชมพู... คือแกจะขาดใจตายอยู่แล้วเพราะความกลัว ไหนจะเสียง เรียก พี่ขา.. พี่ขา.. พี่ขา.. ที่ก้องอยู่ในหัวแกตลอด

คงเป็นบุญของแก รถเท็กซี่ขับสวนมาในซอยพอดี แกจำได้เลยเท็กซี่ตบไฟสูงปุ๊ปปั๊ปๆ ประมาณว่า ให้แกตบไฟต่ำให้หน่อยไรงี้ <แกตบไฟสูงอยู่> ตอนนั้นแกมีความหวังขึ้นมาแล้ว พยามสุดแรงอีกรอบที่จะเปิดประตูลงไป อยู่ๆแขนนั้นก็คลายออก จนแกเปิดประตูลงไปได้ แกกระโดดเหยงๆ เรียกเท็กซี่ให้จอดใหญ่เลย... สรุปแกทิ้งรถขึ้นเท็กซี่กลับบ้านเลยคืนนั้น <แกเล่าเท็กซี่ให้ฟังหมดเลยว่าเจออะไรบ้าง>


ขอสรุปเหตุการณ์ ก่อน และ หลัง จากเหตุการณ์ทั้งหมด ให้ได้รับฟังกันนะครับ

- เด็กนักเรียน เอาไปเล่าต่อให้เพื่อนๆที่โรงเรียนฟัง จนกลายเป็นข่าวลือต่อกันไปเรื่อยๆลามไปโรงเรียนอื่นๆ
- สองวัยรุ่นที่รถเกี่ยวกันล้มรอดตาย แต่ก็ต้องนอนหยอดข้าวต้ม เกือบเดือน และยังจำความได้ทั้งหมด ถึงขั้นจำหน้าผู้หญิงคนนั้นได้กันเลยทีเดียว และหลังจากหายดี ก็เปลี่ยนสันดานตัวเองหันมาใส่หมวกหุ้มทั้งใบ ถึงกับแหยงถนนกันเลยทีเดียว...
- ป๋าเปย์หญิง หลังจากเท็กซี่ไปส่งแกที่บ้าน สรุปแก ออกปากเพื่อนให้ไปเอารถกลับกันคืนนั้นเลย ก็นั่งเท็กซี่คันเดิมนี้แหละกลับไป คือไปกันหลายคนไง ขากลับไปเอารถไม่เจออะไรนะครับ

#เมื่อนำเรื่องทั้ง3เหตุการณ์หลักๆมาประติดประต่อกัน มันก็กลายเป็นเรื่องที่โด่งดังกันมา จากข่าวลือกลายเป็นเรื่องจริง เจอกันจริงๆ หนีกันจริงๆ แล้วคนที่เจอเธอคนนี้ ก็ดัเป็นผู้ชายหมดเลยด้วย...




...THE END...



มันมีสตอรี่ สั้นๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ

หลังจากที่ข่าวลือมันโด่งดังพักใหญ่ๆ จนไปเข้าหูเจ้าอาวาท ประมาณว่าชาวบ้านกลัวไม่กล้ามาทำบุญ แกเลยทำพิธีอะไรสักอย่างของแก ผมก็ไม่รู้นะ แต่ที่รู้ๆ แกชี้เป้าได้ พื้นดินข้างกำแพงเนี่ย มีถุงผ้ายันต์สีแดงฝังดินอยู่ พอไปขุดขึ้นมาจริงๆด้วย เป็นผ้ายันต์สีแดง ห่อเถ้นกระดูกเล็กๆของใครก็ไม่รู้อยู่ด้วย... หลังจากนั้นก็นำไปเก็บรวมกับกระดูกของคนอื่นๆ รอชาปนกิจ สวดส่งวิญญาน ประมาณพิธีล้างป่าช้าศพไร้ญาติอ่ะครับ

ปล. นี้ข่าวลือนะครับ บางคนบอกว่า เป้นศพผู้หญิงที่โดน อุ้มไปฆ่านั่งยาง แล้วเกิดเฮี้ยนขึ้นมาเลย จ้างหมอผีมาทำพิธีสกดวิญญานแล้วเอามาทิ้งไว้ที่วัดแห่งนี้ นี้ข่าวลือนะครับ ผมไม่ฟันธงและก็ไม่อยากสืบด้วยว่า เธอคนนั้น คือใคร...





ลงดึกหน่อยนะครับไม่อยากลงไวกลัวเด็กอ่านแล้วคิดมาก นอนไม่หลับ...



ปล.เรื่องนี้เหนื่อยเลยครับ แถมวัดยังอยู่ใกล้ตัวผมอีก คนสราษฏร์ ลำบากหน่อยนะครับ ถ้าท่านนอ่านเรื่องนี้แล้วอย่าโกรธผมนะ รู้ไว้ดีกว่านะผมคิดงี้ ยังไงก็เลี่ยงๆซอยนั้นด้วยละกัน โชคดีครับ

คำเตือน!!! ด่านล่างมีปอยด์...


......
....
...
..
.


[สปอยด์]

[/สปอยด์]

มาซะดึก

หลอนรูปปปปปป

อันไหนครับ อันนี้หรอ

หลอน

แค่รูปปลากรอบก็ขนลุกแล้ว
กดสปอยเข้าไป สยองเลยครับ

พูดแล้วไม่อยากขับรถคนเดียวเลย ตอนนี้ผม

สปอย

ขับคนเดียว ดีกว่ามี...เธอคนนั้น...อยู่บนรถด้วยนะครับ
ผมก็ทั้งขับและขี่รถคนเดียวตอนดึกๆตลอด
ถนนช่วงใกล้ๆบ้านก็เปลี่ยวซะด้วย

สั้นเลยๆ โชคดีนะครับ

ปักไว้อ่านพรุ่งนี้

เด็ก15ปีให้ขับรถได้ยังไง

มาเหอะอยากเจอ จะขอ 6 ตัวเน้นๆ ถ้าไม่ถูกจะกลับไปทวง

มอไซต์ ผมขับเป็นตั้งแต่ ป.5 เลยนะครับ จะบอกว่าเด็กบ้านๆทั่วไปขับรถเป็นตั้งแต่ยังเด็กๆเลยนะครับ แต่มันผิดกฏหมายเพราะไม่มีใบขับขี่ไง...

หลังไมค์มาเดียวผมบอกชื่อวัดให้

รายแรกไม่เห็นมีบอกว่าขับมอไซด์ แต่รายที่วัยรุ่น2คนบอกว่าขับมอไซด์

ผมพิมพ์เองกับมือนะครับ มันก็มีหลงมีอะไรอยู่แล้ว เพราะไม่ได้ก๊อบวางๆ เอาจริงๆเด็ก 15 ปี ก็ควรจะตีความได้สองอย่าง เรื่องความน่าจะเป็น นั้นก็คือ จักรยาน กับ มอเตอร์ไซต์

หรือว่าผมต้องกลับไปแก้ไหมเนี่ยว่าเป็นรถมอเตอร์ไซต์ เดี๋ยวสงสัยเรื่องรถกันอีก

ถึงกับอยากรู้ วัดไหน

ขนลุกเลยครับ

ในสุราฏร์ ผมให้วัดวิภาวดี(ข้างค่าย) ที่สุดเเล้ว

เป็นเกียร์ติ์มากๆครับ ตอบ 7777 พอดี

สปอยยย

ทำไม ฟังชั่น สปอยด์ ใช้ไม่ได้ครับ

วัดนั้นไง ในเมืองอ่ะ

ทางกลับบ้านผมก็เปลี่ยว เลิกงานตีสามตีสี่ด้วยนะช่วงนี้ น้องผมมีเซนส์บอกเจอมานั่งด้วยเลยที่เบาะหลัง วันก่อนขับมาไม่ถึงสองทุ่มหลาน 5 ขวบบอกนั่นผีๆๆอีก ดีที่ผมไม่มีเซนส์ไม่เคยเจอ แต่ขับมาเส้นนี้ทีไรหนาวๆทุกที

เห็นว่ากันว่าถ้าเราอยู่ๆรู้สึกหนาวแปลกๆ นั้นคือวิญญานลอยตามมาหรือเราขับผ่านทะลุวิญญาน อ่ะ

วัดหลวงพ่อๆ อะไรรึป่าวเนี้ย

เรื่องนี้รูปอย่างหลอน

หมายถึง กดแล้วมันหลอนน

อ้าว ขอโทษด้วยครับ คราวหน้าจะพยามหาให้ประทับใจดีกว่านี้

หลอนจริง

เคยอยากเขียนเรื่องพวกนี้ลงในss แต่พอเขียนไปได้ซักพักก็ต้องลบไม่กดส่ง เพราะเรื่องราวอยู่ใกล้บ้านมาก เอ่ยถึงไปอาจมีวันไหนดวงไม่ดี เจอกับตัวคงรับไม่ไหว

ผมกลัวนะ แต่อยากให้คนอื่นกลัวไปกับผมด้วย ผมจะได้ไม่ต้องกลัวคนเดียว พูดแล้วเสียวสันหลังวาบเลย

กลัวเหมือนกัน เพราะมันมีโอกาสที่จะเจอโดยไร้แรงจูงใจ ดังนั้นเลยไม่เล่าดีกว่า

เรื่องสุดท้ายดูเว่อวังไปหน่อย แต่โดยรวมสนุกดีครับ