ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status: YNWA
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Mar 2010
ตอบ: 48264
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 17, 2013 13:47
คุซานางิ..ตำนานดาบศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิ.



ถ้าจะพูดถึงดาบในตำนานของญี่ปุ่นแล้วนั้น ชื่อ คุซานางิ คงจะต้องถูกยกขึ้นมาเป็นลำดับแรกสุด คุซานางินั้นอาจจะเป็นชื่อที่คุ้นหูวัยรุ่นไทยเป็นอย่างมาก เพราะการ์ตูนญี่ปุ่นไม่ว่าเรื่องอะไร ก็มีชื่อหรือดาบชื่อนี้ปรากฎเป็นตำนานอยู่เสมอ!!
ดาบคุซานางิ (Kusanagi-no-Tsurugi) หรือแปลเป็นไทยว่า ดาบตัดหญ้า โดยมีชื่อเรียกอีกหนึ่งชื่อว่าดาบอาเมโนะมุราคุโม (Amenomurakumo-no-Tsurugi) แปลว่าดาบเมฆสวรรค์ชุมนุม!!! เป็น 1 ใน 3 เครื่องราชศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวจักรพรรดิญี่ปุ่นร่วมกับแก้วยาซากะนิ (Yasakani-no-Magatama) และกระจกยาตะ (Yata-no-Kagami) ซึ่งหมายถึงองค์ธรรมสามประการคือ ดาบแทนความกล้า แก้วแทนความเมตตา และกระจกแทนสติปัญญานั่นเอง


ดาบคุซานางิ แก้วยาซากะนิ กระจกยาตะ



ดาบคุซานางินั้นมีที่มาตามตำนานว่า เทพซูซาโนโอะ (Susanoo-no-Mikoto ) ที่ถูกเนรเทศลงมายังโลกมนุษย์นั้นได้เข้าช่วยเหลือหญิงสาวจากหมู่บ้านหนึ่งจากงูใหญ่ 8 หัวที่มีชื่อว่ายามาตะโนะโอโรจิ (Yamata-no-Orochi) ซึ่งเจ้างูใหญ่ตัวนี้ได้ลักพาตัวหญิงสาวไปจากหมู่บ้านถึง 7 คนแล้ว และกำลังกลับมาเอาตัวคนที่ 8 ไป เทพซูซาโนโอะจึงใช้ค่ายกลประตู 8 บาน โดยวางไหเหล้าสาเกไว้ทุกๆบานและเอาหญิงสาวซ่อนไว้ด้านในสุดและทำให้เงาของหญิงสาวตกลงมาในไหเหล้าทั้งแปดเพื่อล่องูยักษ์ เมื่องูยักษ์มาถึงก็หลงกลเข้า โดยโผล่หัวเข้าไปในประตูทุกๆบานเพื่องับไหเหล้า เป็นการเปิดโอกาสให้เทพซูซาโนโอะตัดหัวได้จนครบโดยไม่ต้องเหนื่อยมาก ครั้นเมื่องูยักษ์ตายลงแล้ว เทพซูซาโนโอะก็ได้สังเกตเห็นแสงสว่างที่ปลายหางของงูยักษ์ จึงผ่าออกมาดูและก็ได้เจอดาบคุซานางิจึงได้เอาไปถวายเทพีแห่งดวงอาทิตย์เพื่อไถ่โทษ และในเมื่อว่ากันว่าเทพีอามาเทราสุ (Amaterasu) นั้นเป็นต้นตระกูลของจักรพรรดิญี่ปุ่น ดาบคุซานางินี้จึงได้เป็นของวิเศษที่ตกทอดสู่จักรพรรดิญี่ปุ่นเรื่อยมาจากรุ่นสู่รุ่น

เทพซูซาโนโอะ กำลังสู้กับงูยักษ์ 8 หัวที่มีชื่อว่ายามาตะโนะโอโรจิ



ภาพจากนารุโตะ




ตามตำนานเล่าว่าจักรพรรดิเคโก (Keiko-Tenno) ที่ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นจักรพรรดิญี่ปุ่นองค์ที่ 12 นั้นมีลูกชายฝาแฝดอยู่คู่หนึ่งชื่อ ทาเครุ ยามาโตะ ทั้งคู่เลย เมื่อทั้งคู่อายุครบ 15 พรรษา ทาเครุผู้น้องได้สังหารทาเครุผู้พี่อย่างไม่ทราบด้วยเหตุผลว่าเพราะอะไร จักพรรดิเคโกผู้เป็นบิดาทรงกริ้วทาเครุผู้น้องมาก แต่ถ้าจะประหารให้สิ้นไปก็เกรงว่าจะไม่มีโอรสสืบราชวงศ์ จึงได้ส่งโอรสไปปราบชนเผ่าคูมาโซทางตอนใต้สุดของอาณาจักร ก่อนออกเดินทางนั้นเจ้าชายทาเครุก็ได้ไปขอพรจากเจ้าป้าที่บวชเป็นชีอยู่ที่เมืองอิเซะ เจ้าป้าจึงได้ถวายดาบ เสื้อคลุม และผ้านุ่งไว้เป็นเครื่องมือในการออกศึก




หลังจากปราบชนเผ่าคูมาโซสำเร็จแล้วเจ้าชายทาเครุก็ได้เสด็จกลับพระนคร แต่พระบิดาก็ยังไม่หายกริ้วจึงออกคำสั่งให้เจ้าชายนั้นออกไปปราบชนเผ่าเอมิชิทางตะวันออกทันที แม้ว่าเจ้าชายจะแสนเจ็บปวดและเหนื่อยล้าจากการศึกก็จำยอมออกศึกตามคำสั่งของบิดา แต่ก่อนออกศึกนั้นก็ได้ไปคารวะเจ้าป้าอีกครั้งพร้อมทั้งพูดคุยระบายความแค้นในใจให้ได้ทราบว่า พระบิดาตั้งใจจะกำจัดตนเองแน่นอน ผู้เป็นป้าได้ฟังแล้วก็เป็นห่วงและให้อภัยในบาปกรรมที่หลานได้ก่อไว้ ก็ได้แต่ปลอบใจและมอบเทพศาสตราแห่งแผ่นดินแก่เจ้าชาย ศาสตราวุธชิ้นนั้ก็คือ ดาบคุซานางิ หลังจากได้ดาบมาแล้วเจ้าชายจึงนำทัพออกเดินทาง เมื่อถึงแคว้นซาคามิ หัวหน้าแคว้นได้วางอุบายหลอกเจ้าชายว่าในทุ่งหญ้ารอบๆหมู่บ้านนั้นมีปิศาจร้ายซ่อนตัวอยู่ ได้โปรดช่วยกำจัดปิศาจร้ายให้กับประชาชนของแคว้นด้วย ได้ยินดังนั้นเจ้าชายจึงรีบมุ่งหน้าไปที่ทุ่งหญ้าเพียงลำพัง หัวหน้าแคว้นจึงรีบสั่งให้จุดไฟรอบทุ่งหญ้าเพื่อจะเผาเจ้าชายให้ตายไปทันที พอเจ้าชายได้สติก็ชักดาบคุซานางิออกจากฝัก ทันใดนั้นพลังของดาบก็แผ่รัศมีเป็นวงกว้างตัดต้นไม้และต้นหญ้าทุกต้นที่ขวางรัศมีของมันจนราบเป็นหน้ากลอง นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ ดาบตัดหญ้า หลังจากนั้นเจ้าชายก็ได้ปราบทั้งหัวหน้าแคว้นซาคามิและเผ่าเอชิมิ


ที่มาของชื่อ ดาบตัดหญ้าคุซานางิ



เรื่องเล่าของดาบคุซานางิยังไม่จบเพียงเท่านี้ ในครั้งสงครามเก็นเป (Genpeigassen) ซึ่งเป็นการแย่งชิงอำนาจระหว่างตระกูลมินาโมโตะและตรกูลไทระ เหล่าตระกูลไทระพ่ายแพ้และนำดาบคุซานางิไปด้วย กองทัพของตระกูลมินาโมโตะจึงยกทัพตามไปจนถึงทะเลสาบอิสึโมะพระชายาและรัชทายาทแห่งจักรพรรดิญี่ปุ่นที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลไทระก็ได้กอดดาบคุซานางิและกระโดดน้ำตายไป ดาบคุซานางิก็ได้หายสาบสูญไปนับตั้งแต่บัดนั้น


สงครามเก็นเป



แต่หลังจากนั้นดาบคุซานางิก็ได้ถูกทำขึ้นมาใหม่และถูกนำไปประดิษฐานไว้ที่ศาลเจ้าอัตสึตะ (Atsuta-Jingu) เมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิในปัจจุบัน




อ้างอิงจาก:
http://anngle.org/th/j-culture/history/kusanagi.html  




แถมเป็นดาบของซาสึเกะด้วย







#ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล


โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2010
ตอบ: 4834
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 17, 2013 13:53
[RE: คุซานางิ..ตำนานดาบศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิ.]
ดาบซาสึเกะ แต่ก็ยังแพ้ นารูโตะ ก๊ากๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 943
ที่อยู่: ต่างดาว
โพสเมื่อ: Thu Oct 17, 2013 13:59
[RE: คุซานางิ..ตำนานดาบศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิ.]
ฉันจะต้องเป็น ราชาโจรสลัด ให้ได้เลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Sep 2013
ตอบ: 6689
ที่อยู่: บนเก้าอี้
โพสเมื่อ: Thu Oct 17, 2013 14:03
ถูกแบนแล้ว
[RE: คุซานางิ..ตำนานดาบศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิ.]
น่าค้นหา แหละ ว่า ดาบแท้ๆ อยู่ที่ไหน


นึกถึงดาบ ก้อดนึกถึง ไอ้ดาบ มูรามาสะ (เขียนประมาณนี้เปล่าว่า ที่อยู่ในแร็คอ่ะ)
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status: ผมผ่านมาเยอะ เจ็บมาเยอะ อยากให้ทุกคนเจ็บแบบผม
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Sep 2013
ตอบ: 853
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 17, 2013 14:06
[RE: คุซานางิ..ตำนานดาบศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิ.]
ดาบตัดหญ้า icon6
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 948
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 17, 2013 14:07
[RE: คุซานางิ..ตำนานดาบศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิ.]
นึกว่า คุซานางิ คนนี้ ได้ยินชื่อแล้วนึกถึงคนนี้ทุกที

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1531
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Oct 17, 2013 14:09
[RE: คุซานางิ..ตำนานดาบศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิ.]
ซาซึเกะ มีอาวุทธเทพ ร่างเทพ .สกิลเพลิงของเทพ เฮ้อออ โตะมีแต่ปีศาจ ในตำนานเท่านั้น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: จำได้ว่าเกิดมาผมก็เป็นเด็กผี
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Jan 2010
ตอบ: 13385
ที่อยู่: อาณาจักรล้านนา
โพสเมื่อ: Thu Oct 17, 2013 16:24
[RE: คุซานางิ..ตำนานดาบศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิ.]
บ้านผมมีเล่มนึง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1170
ที่อยู่: Homeless
โพสเมื่อ: Sun Mar 09, 2014 10:06
[RE: คุซานางิ..ตำนานดาบศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิ.]
beamkung11 พิมพ์ว่า:



ถ้าจะพูดถึงดาบในตำนานของญี่ปุ่นแล้วนั้น ชื่อ คุซานางิ คงจะต้องถูกยกขึ้นมาเป็นลำดับแรกสุด คุซานางินั้นอาจจะเป็นชื่อที่คุ้นหูวัยรุ่นไทยเป็นอย่างมาก เพราะการ์ตูนญี่ปุ่นไม่ว่าเรื่องอะไร ก็มีชื่อหรือดาบชื่อนี้ปรากฎเป็นตำนานอยู่เสมอ!!
ดาบคุซานางิ (Kusanagi-no-Tsurugi) หรือแปลเป็นไทยว่า ดาบตัดหญ้า โดยมีชื่อเรียกอีกหนึ่งชื่อว่าดาบอาเมโนะมุราคุโม (Amenomurakumo-no-Tsurugi) แปลว่าดาบเมฆสวรรค์ชุมนุม!!! เป็น 1 ใน 3 เครื่องราชศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวจักรพรรดิญี่ปุ่นร่วมกับแก้วยาซากะนิ (Yasakani-no-Magatama) และกระจกยาตะ (Yata-no-Kagami) ซึ่งหมายถึงองค์ธรรมสามประการคือ ดาบแทนความกล้า แก้วแทนความเมตตา และกระจกแทนสติปัญญานั่นเอง


ดาบคุซานางิ แก้วยาซากะนิ กระจกยาตะ



ดาบคุซานางินั้นมีที่มาตามตำนานว่า เทพซูซาโนโอะ (Susanoo-no-Mikoto ) ที่ถูกเนรเทศลงมายังโลกมนุษย์นั้นได้เข้าช่วยเหลือหญิงสาวจากหมู่บ้านหนึ่งจากงูใหญ่ 8 หัวที่มีชื่อว่ายามาตะโนะโอโรจิ (Yamata-no-Orochi) ซึ่งเจ้างูใหญ่ตัวนี้ได้ลักพาตัวหญิงสาวไปจากหมู่บ้านถึง 7 คนแล้ว และกำลังกลับมาเอาตัวคนที่ 8 ไป เทพซูซาโนโอะจึงใช้ค่ายกลประตู 8 บาน โดยวางไหเหล้าสาเกไว้ทุกๆบานและเอาหญิงสาวซ่อนไว้ด้านในสุดและทำให้เงาของหญิงสาวตกลงมาในไหเหล้าทั้งแปดเพื่อล่องูยักษ์ เมื่องูยักษ์มาถึงก็หลงกลเข้า โดยโผล่หัวเข้าไปในประตูทุกๆบานเพื่องับไหเหล้า เป็นการเปิดโอกาสให้เทพซูซาโนโอะตัดหัวได้จนครบโดยไม่ต้องเหนื่อยมาก ครั้นเมื่องูยักษ์ตายลงแล้ว เทพซูซาโนโอะก็ได้สังเกตเห็นแสงสว่างที่ปลายหางของงูยักษ์ จึงผ่าออกมาดูและก็ได้เจอดาบคุซานางิจึงได้เอาไปถวายเทพีแห่งดวงอาทิตย์เพื่อไถ่โทษ และในเมื่อว่ากันว่าเทพีอามาเทราสุ (Amaterasu) นั้นเป็นต้นตระกูลของจักรพรรดิญี่ปุ่น ดาบคุซานางินี้จึงได้เป็นของวิเศษที่ตกทอดสู่จักรพรรดิญี่ปุ่นเรื่อยมาจากรุ่นสู่รุ่น

เทพซูซาโนโอะ กำลังสู้กับงูยักษ์ 8 หัวที่มีชื่อว่ายามาตะโนะโอโรจิ



ภาพจากนารุโตะ




ตามตำนานเล่าว่าจักรพรรดิเคโก (Keiko-Tenno) ที่ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นจักรพรรดิญี่ปุ่นองค์ที่ 12 นั้นมีลูกชายฝาแฝดอยู่คู่หนึ่งชื่อ ทาเครุ ยามาโตะ ทั้งคู่เลย เมื่อทั้งคู่อายุครบ 15 พรรษา ทาเครุผู้น้องได้สังหารทาเครุผู้พี่อย่างไม่ทราบด้วยเหตุผลว่าเพราะอะไร จักพรรดิเคโกผู้เป็นบิดาทรงกริ้วทาเครุผู้น้องมาก แต่ถ้าจะประหารให้สิ้นไปก็เกรงว่าจะไม่มีโอรสสืบราชวงศ์ จึงได้ส่งโอรสไปปราบชนเผ่าคูมาโซทางตอนใต้สุดของอาณาจักร ก่อนออกเดินทางนั้นเจ้าชายทาเครุก็ได้ไปขอพรจากเจ้าป้าที่บวชเป็นชีอยู่ที่เมืองอิเซะ เจ้าป้าจึงได้ถวายดาบ เสื้อคลุม และผ้านุ่งไว้เป็นเครื่องมือในการออกศึก




หลังจากปราบชนเผ่าคูมาโซสำเร็จแล้วเจ้าชายทาเครุก็ได้เสด็จกลับพระนคร แต่พระบิดาก็ยังไม่หายกริ้วจึงออกคำสั่งให้เจ้าชายนั้นออกไปปราบชนเผ่าเอมิชิทางตะวันออกทันที แม้ว่าเจ้าชายจะแสนเจ็บปวดและเหนื่อยล้าจากการศึกก็จำยอมออกศึกตามคำสั่งของบิดา แต่ก่อนออกศึกนั้นก็ได้ไปคารวะเจ้าป้าอีกครั้งพร้อมทั้งพูดคุยระบายความแค้นในใจให้ได้ทราบว่า พระบิดาตั้งใจจะกำจัดตนเองแน่นอน ผู้เป็นป้าได้ฟังแล้วก็เป็นห่วงและให้อภัยในบาปกรรมที่หลานได้ก่อไว้ ก็ได้แต่ปลอบใจและมอบเทพศาสตราแห่งแผ่นดินแก่เจ้าชาย ศาสตราวุธชิ้นนั้ก็คือ ดาบคุซานางิ หลังจากได้ดาบมาแล้วเจ้าชายจึงนำทัพออกเดินทาง เมื่อถึงแคว้นซาคามิ หัวหน้าแคว้นได้วางอุบายหลอกเจ้าชายว่าในทุ่งหญ้ารอบๆหมู่บ้านนั้นมีปิศาจร้ายซ่อนตัวอยู่ ได้โปรดช่วยกำจัดปิศาจร้ายให้กับประชาชนของแคว้นด้วย ได้ยินดังนั้นเจ้าชายจึงรีบมุ่งหน้าไปที่ทุ่งหญ้าเพียงลำพัง หัวหน้าแคว้นจึงรีบสั่งให้จุดไฟรอบทุ่งหญ้าเพื่อจะเผาเจ้าชายให้ตายไปทันที พอเจ้าชายได้สติก็ชักดาบคุซานางิออกจากฝัก ทันใดนั้นพลังของดาบก็แผ่รัศมีเป็นวงกว้างตัดต้นไม้และต้นหญ้าทุกต้นที่ขวางรัศมีของมันจนราบเป็นหน้ากลอง นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ ดาบตัดหญ้า หลังจากนั้นเจ้าชายก็ได้ปราบทั้งหัวหน้าแคว้นซาคามิและเผ่าเอชิมิ


ที่มาของชื่อ ดาบตัดหญ้าคุซานางิ



เรื่องเล่าของดาบคุซานางิยังไม่จบเพียงเท่านี้ ในครั้งสงครามเก็นเป (Genpeigassen) ซึ่งเป็นการแย่งชิงอำนาจระหว่างตระกูลมินาโมโตะและตรกูลไทระ เหล่าตระกูลไทระพ่ายแพ้และนำดาบคุซานางิไปด้วย กองทัพของตระกูลมินาโมโตะจึงยกทัพตามไปจนถึงทะเลสาบอิสึโมะพระชายาและรัชทายาทแห่งจักรพรรดิญี่ปุ่นที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลไทระก็ได้กอดดาบคุซานางิและกระโดดน้ำตายไป ดาบคุซานางิก็ได้หายสาบสูญไปนับตั้งแต่บัดนั้น


สงครามเก็นเป



แต่หลังจากนั้นดาบคุซานางิก็ได้ถูกทำขึ้นมาใหม่และถูกนำไปประดิษฐานไว้ที่ศาลเจ้าอัตสึตะ (Atsuta-Jingu) เมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิในปัจจุบัน




อ้างอิงจาก:
http://anngle.org/th/j-culture/history/kusanagi.html  




แถมเป็นดาบของซาสึเกะด้วย







#ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล


 
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน



ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel