++5 เรื่องแปลก!! ของสภาวะไร้น้ำหนัก!!++
5.เปลวไฟจะกลายเป็นทรงกลม
ในสภาพที่มีแรงโน้มถ่วง ไฟจะทำให้อากาศร้อน ลอยสูงขึ้น ดังนั้นอากาศที่
ไหม้ไปแล้วจะเคลื่อนที่ออกไปจากเชื้อเพลิงเพราะเบากว่า อากาศที่อุดมด้วย
อ็อกซิเจนที่เย็นกว่าจะเคลื่อนที่เข้ามาแทนที่ จะเลี้ยงไฟให้ติดได้ต่อเนื่อง
แต่ในสถานที่ไร้แรงโน้มถ่วง จะไม่มีคำว่าของหนักหรือเบา เพราะทุกอย่าง
ไร้น้ำหนัก ดังนั้น เมื่อไฟลุกอากาศร้อนและใช้ออกซิเจนไปแล้วก็ไม่มีการ
เคลื่อนที่ไปไหน ยังคงล้อมรอบเปลวไฟ
เช่นเดียวกับ น้ำที่เดือด ก็ส่งผลคล้ายๆกันครับ
4. แรงตึงผิวของน้ำจะเยอะมาก
จากภาพคือการทดลองนำเอาน้ำ มากักไว้ในลวดวงกลม (คล้ายๆกับที่เราเป่าสบู่นั่นแหล่ะ)
ที่เป็นแบบนี้ เพราะว่า น้ำในสภาพปกติบนโลก มีแรงโน้มถ่วง ที่ทำให้น้ำต้องตกลงสู้พื้น
แต่ในอวกาศ ปราศจากแรงโน้มถ่วง ทำให้แรงตึงผิว ไม่มีแรงอื่นมากระทำ
ซึ่งส่งผลให้น้ำเกาะตัวกัน ไม่ขยับเขยื่อน ยกเว้นแต่ว่า จะใช้มือสะบัดน้ำให้หลุดออกแรงๆ
(แต่ภาพข้างบนแสดงให้เห็นว่า แม้แต่สะบัดไปมาไม่แรงพอ น้ำก็ยังเกาะอยู่ได้)
ข้างล่างนี้ ลองทดลองหยดสีลงไปในผิวน้ำ เป็นภาพที่แปลกดีใช่มั้ยครับ
3.เสียงมีสภาพทางกายภาพ
ชายในภาพคือนายDonald Pettit นักบินอวกาศเก่าแก่ของนาซ่าและเป็นวิศวกรเคมี
ขณะกำลังถือที่ดูดฝุ่น(พิเศษที่ใช้บนอวกาศ)แต่ดัดแปลงมาทำเป็นเครื่องดนตรีที่มีลักษณะคล้ายปี่
เพื่อที่จะทดลอง เป่าใส่ น้ำทรงกลม ผลที่ได้คือ..
เนื่องจากน้ำ อยู่ในสภาพที่ไม่มีน้ำหนักเลย ความถี่ของเสียงเลยพลานุภาพพอที่จะทำให้น้ำแตกกระจัดกระจายได้ (อ้อ ลืมบอกว่า น้ำในภาพข้างบนนั่นคือฉี่นะครับ เอิ๊กๆ)
และด้วยความถี่ต่างๆของเสียง สามารถที่จะสร้างอะไรแปลกๆมากมาย จากของเหลวหรืออะไรก็ได้ที่บอบบาง
ข้างล่างนี้เป็นน้ำแป้งข้าวโพดเหนียวๆครับ
2.ไฟฟ้าสถิตมีแรงดึงดูด
การทดลองข้างบน คือ การนำเอาเข็มถักนิตติ้ง มาถูกกับกระดาษ ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต
แล้วนำหยดน้ำมาหยดใกล้ๆ ผลที่ได้จึงเป็นดังรูป
ประจุทั้งสองของทั้งน้ำและเข็มถักนิตติ้งได้สร้างแรงดึงดูดจำลองขึ้นมาเอง
ภาพข้างบน นาย Donald เจ้าเก่า ผู้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับ การทดลองโดยบังเอิญมาแล้วหลายครั้ง
ได้ลองนำเอาเกลือมาใส่ในถุงแล้วเขย่า จนเกิดไฟฟ้าสถิตขึ้น ทำให้เกิดผลอย่างในภาพครับ
หลังจากคลิปวีดีโอนี้ถูกนาย Donald ถ่าย แล้วส่งไปให้นักวิทยาศาสตร์ทางโลกดู
ทำให้พบว่า การทดลองเล่นๆนั้น นำมาสู่การไขคำตอบที่ยิ่งใหญ่ของจักรวาลข้อหนึ่งเลยทีเดียว
เพราะมันทำให้เกิดทฤษฎีที่ว่า การเกิดดาวเคราะห์หรือดาวต่างๆในจักรวาลนั้น
เกิดจาก อนุภาคเล็กๆวิ่งชนกันจนเกิดไฟฟ้าสถิต แล้วทำให้อนุภาคเหล่านั้นดึงดูดเข้าหากัน เกาะกันเรื่อยๆ จนดาวต่างๆเกิดเป็นรูปร่างขึ้นมา
1.สิ่งมีชีวิตต่างๆจะวิวัฒนาการกลายพันธุ์
สิ่งมีชีวิตที่เราเห็นปกติ มันเป็นแบบที่เราเห็นนั้น ส่วนหนึ่งเพราะว่ามันเติบโตในลักษณะบนโลกที่มีแรงโน้มถ่วง
ถ้าลองนำสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น ไปอาศัยอยู่ที่ที่ปราศจากแรงโน้มถ่วง สิ่งมีชีวิตต่างๆ อาจจะมีลักษณะไม่เหมือนเดิม
อย่างเช่น ปลาจะว่ายน้ำวนเป็นวงกลมเล็กๆ โดยไม่มีสาเหตุ
หรือแม้แต่ สิ่งมีชีวิตระดับจุลชีวะก็ตาม อย่างเช่น มอส
มอส ก็เหมือน พืชทั่วไป ที่ในสภาพปกติ เติบโตสวนทางกับแรงโน้มถ่วงโลก และเติบโตเข้าหาแสงอาทิตย์
แต่ในสภาพไร้น้ำหนัก พบว่า มอส จะเจริญตอบโต รอบทิศทาง เป็นเกลียวในทิศตามเข็มนาฬิกา
ภาพข้างบน เป็นภาพของแบคทีเรีย ที่เจริญเติบโตในสองสภาวะ ด้านขวา เป็นสภาพไร้น้ำหนัก
พบว่า แบคทีเรีย เจริญเติบโต่ได้ดีกว่าสภาวะปกติที่มีแรงโน้มถ่วงครับ
สิ่งมีชีวิตอีกประเภท ที่หลายๆคนคงไม่เชื่อว่า จะเคยไปอาศัยอยู่ในอวกาศ นั่นก็คือ แมลงสาบ!!!
ครั้งนึง มันเคยอยู่บนยานอวกาศของรัสเซีย และพบว่า มันมีวิวัฒนาการ ทำให้มัน แข็งแรง อึดขึ้น และมีความเร็วมากขึ้น
เหล่านักบินอวกาศ จึงต้องทำงานหนัก และมีโปรแกรมมากขึ้นเพื่อที่กำจัด แมลงสาบกลายพันธุ์เหล่านี้ครับ
หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วมนุษย์อย่างเราล่ะ จะกลายเป็นยอดมนุษย์ แบบในหนัง man of steel มั้ย
คงไม่ใช่แน่นอนครับ แต่มนุษย์เราก็มีการเปลี่ยนแปลง เหมือนสิ่งมีชีวิตอื่นเช่นกัน
เพราะ ร่างกายของเราประกอบด้วยของเหลว เมื่ออยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก
ของเหลวเหล่านี้ จะวิ่งกระจาย อย่างไร้ทิศทาง ส่งผลให้อวัยวะบางส่วน อาจจะบวมผิดปกติ
อย่างในรูปข้างล่างนี้ ที่นักบินอวกาศ มีขนาดของศีรษะที่บวมและโตขึ้น
ที่มา cracked.com