แกรี่ ลินิเกอร์ ตั้งคำถามถึงใบแดงของ มอยเซส ไคเซโด้ ในเกมที่ เชลซี เสมอกับ อาร์เซนอล 1-1 พร้อมเรียกร้องให้นำภาพรีเพลย์แบบสโลว์โมชั่นออก เมื่อผู้ตัดสินต้องเช็คภาพ VAR

อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษและท็อตแนม กล่าวว่าเขา "เข้าใจ" ว่าทำไมผู้ตัดสิน เทย์เลอร์ ถึงตัดสินใจไล่ ไคเซโด้ ออกจากสนามหลังจากที่ VAR เข้ามาแทรกแซง

แต่อดีตพิธีกรรายการ Match of the Day แย้งว่าควรนำภาพรีเพลย์แบบสโลว์โมชันออกจากกระบวนการตัดสิน เนื่องจากภาพรีเพลย์ดังกล่าว "บิดเบือน" สิ่งที่ "เกิดขึ้นจริง" แบบเรียลไทม์

"ผมคิดว่าไม่ควรใช้ภาพสโลว์โมชันกับเรื่องแบบนี้ มันเหมือนกับการเห็นภาพนิ่งเท้าของนักเตะ" ลินิเกอร์ แสดงความเห็น

“เท้าเขาไม่ได้ยกขึ้นนะ และอยู่ติดพื้น เขาแค่มาถึงบอลช้าไปแค่เสี้ยววินาที แต่ในภาพสโลว์โมชั่นทำให้ดูรุนแรงไปมาก”

“ผมเข้าใจดีว่าทำไมพวกเขาถึงกลับคำตัดสิน แต่เราจะเอาแบบนี้จริงๆ เหรอ?!’

ลินิเกอร์ ยังเสริมว่าการเข้าสกัดของ ไคเซโด้ ใส่ เมริโน่ คงไม่ถูกเป่าฟาวล์ในสมัยที่เขายังเล่นอยู่อย่างแน่นอน

“ผมไม่คิดว่านั่นจะเป็นการฟาวล์ในยุคของผมนะ แล้วนับประสาอะไรกับใบแดง” เขากล่าวเสริม

“ผมแค่คิดว่าสโลว์โมชันมันบิดเบือนสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เพราะเหตุการณ์จริงเหมือนกับว่า เข้าแย่งบอล ตุ้บ ตุ้บ... แล้วเท้าก็กระดอนจากพื้น”

“ถ้าเขายกเท้าขึ้นเหนือลูกบอล แบบยกสูงมาเลย อย่างนั้นใบแดงแน่นอน”

“แต่ตอนนี้... ผมหมายถึงว่าในภาพสโลว์โมชันมันดูแย่มาก ผมเข้าใจนะ แต่เวลาเห็นมัน ผมดูมันหลายครั้งด้วยความเร็วปกติ มันก็แค่เศษเสี้ยววินาทีเท่านั้น”

อาวววเรื่องง

เห็นด้วยนะ พอเป็นภาพสโลโมชั่น แล้วดูรุนแรงขึ้นเยอะเลย

ดูจังหวะปกติเหมือนเข้าบอลกัน 50/50 อยู่ที่ว่าใครจะถึงก่อน

แล้วไคเซโด้ไม่มีท่าทีเจตนาจะทำร้ายคู่แข่งด้วย

เวลาเสียบแล้วหัก มันก็เสี้ยววิทั้งนั้นอะ ต้องรอหักก่อนเหรอ?

เห็นด้วยนะประเด็นนี้

ผมเข้าใจมุมลินิเกอร์นะ บางทีเรื่องราวมันเกิดขึ้นเร็วมาก นักเตะไม่ได้จงใจเข้าบอลหนักเกินความจำเป็น การสโลว์วีดีโอ เห็นชัดขึ้นเลยดูรุนแรงขึ้นตาม

แต่ผมว่ายังไงก็ยังต้องมีครับ สิ่งที่ต้องพัฒนาคือดุลพินิจของกรรมการมากกว่า ให้ตัดสินให้เป็นมาตรฐานเดียวกันให้ได้ก่อน

บางครั้ง บางเคส กรรมการก็ต้องพึ่งการ slow ภาพช่วยครับ แล้วก็เอากติกามาจับว่าผิดจริงไหม ผิดถึงแค่ไหนครับ

นึกถึงตาฟาน นัดเชลซีสเปอบอกยกสูงเลยข้อเท้า ไม่แดงหรอก แต่พอเปิดโดนข้อเท้าบอกแดง ไม่รู้มาตรฐานเป็นมาตรฐานไหน ไคเซโด้ภาพช้ามันดูรุนแรงจริง ตัดสินว่าไปตามเหตุการณ์ แต่ไม่ใช่ว่า action แบบนี้แมงคนละมาตรฐานมั่วกันไปหมด แล้วเชื่อเถอะ จะมีเหตุการณ์ยังงี้แต่ไม่แดงหรือแดงสลับมาอีกเรื่อยๆ ทีมไหนได้ผลประโยชน์ก็เงียบกันไป เวลาเสียผลประโยชน์ก็ออกมาบ่น

จริงๆเห็นด้วยนะแต่ว่าหลักๆคือมาตรฐานกรรมการมันกระจอก ไอ้แอนโทนี่ ฟักกลิ้ง เทย์เลอร์ นี่ก็ครั้งแล้ว ไม่เคยโดนลดขั้นลงโทษบ้าบออะไรทั้งนั้นไม่ว่าจะตัดสินพลาดทีมไหนก็ตาม
ตอนเชลซีโดนที่เบนทันคูร์ย่ำ ตำแหน่งเดียวกันเลยแต่ถ้าดูรีเพลคือชัดเจนว่าเจตนาย่ำไม่ใช้ถึงบอลช้า แต่ก็รอดชิวๆ เพราะไม่ใช่เทย์เลอร์
หลายๆดอกที่เชลซีโดนแดงที่ผ่านมา หรือควรได้ใบแดงจากคู่ต่อสู้หรือเสียประตูแบบควรได้ฟาล์วก่อน (ไม่ใช่ทุกครั้งนะ)
มันมีเคสตัวอย่างที่ทีมๆรอดกันชิวๆไม่รู้กี่เคส ส่วนตัวถ้าขีดเส้นว่าเข้าอันตรายขั้นสุดจริงๆ...จะตั้งใจหรือไม่ ก็แดงไปตามกฏ สิ่งที่ควรเปลี่ยนและพัฒนาคือกรรมการทั้งในสนามและในห้อง VAR ดุลยพินิจต้องมาคนเคยเล่นบอล เข้าใจอะไรในหลายๆแง่มุมกว่านี้ ถ้าจะตัดสินกันแบบนี้พัฒนาระบบ AI มาใช้เลยก็ได้นะ

เอาจริงมันก็ควรพัฒนาได้แล้ว เพื่อเซฟนักเตะด้วย เวลาเข้าอันตรายก็ควรรับผมที่ตามมาด้วย ถ้าคลีนแทคเคิ้ลก็รอดตัวไป ไม่งั้นก็ติดดาบเหมือนยุคก่อน คือดูเอามันก็มันแหละผมก็ชอบด้วย แต่ก็ต้องคิดถึงนักเตะด้วย เข้าแบบไหนเสี่ยงจะทำคู่ต่อสู้เจ็บยาวก็ลงโทษให้หนัก ที่สำคัญคือมาตรฐานนี่แหละ ควรเอาไปอบรมให้ตรงกันด้วย ถ้าอบรมแล้วยังผิดพลาดก็ควรมีระบบลงโทษกรรมการด้วย ที่จริงมันไม่น่าพลาดเพราะมีทั้งกรรมการในสนามทั้งVAR น่าจะเตือนกันได้

ผมว่าจริงๆควรต้องดูทั้งวีดิโอปกติและภาพช้าประกอบกัน

ภาพช้ามันช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้น โฟกัสได้มากขึ้น

ว่าโดนตรงไหน โดยยังไง จังหวะไหนที่ต้องหยุดภาพดู

แต่มันก็สู้วีดิโอความเร็วปกติไม่ได้ในบางเรื่อง

เช่น ความรุนแรงการปะทะ การเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ จังหวะต่อเนื่องที่ไม่โดนตัดทิ้ง

เพราะงั้นควรต้องดู 2 อย่างมาวิเคราะห์ร่วมกัน ไม่ใช่เอารีเพลย์ภาพสโลว์อย่างเดียว

เจตนาไม่มีแต่มันคาดหมายได้ว่าจะทำให้คู่แข่งเจ็บ ก็เหมือนเสียบขาหักหลายๆเคสไม่มีใครตั้งใจหรอกมันเป็นจังหวะเสี้ยววิตั้งใจเล่นที่บอลแต่เข้าแรงก็สมควรแดง