โธมัส แฟรงค์ กำลังถูกทดสอบศรัทธา
- โธมัส แฟรงค์ วัย 52 ปี เฮดโค้ชชาวเดนมาร์กของท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ อยู่ท่ามกลาง “เคสศึกษา” ที่ร้อนแรงสุดเคสหนึ่งของพรีเมียร์ลีก ณ ตอนนี้ ตัวเลขรวมผลงาน 21 นัด ชนะ 8 เสมอ 5 แพ้ 8 ดูไม่เลวร้ายเมื่อมองแบบผิวเผิน แต่บริบทจริงคือสเปอร์สรูดลงไปกลางตาราง และฟอร์มในบ้านที่เลวร้ายลากยาวมาตั้งแต่ก่อนเขาเข้ามาคุมทีม จนปี 2025 กลายเป็นหนึ่งในปีที่สโมสรแพ้เกมลีกในบ้านมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรร่วม 10 นัดเข้าไปแล้ว
- สิ่งที่สเปอร์สจ้างแฟรงค์มาจากเบรนท์ฟอร์ดคือ “โค้ชระบบ” ที่เน้นแท็กติกเพรสซิ่งเป็นบล็อก, เกมรุกจากโครงสร้าง และการพัฒนาในระยะยาว มากกว่าจะเป็นกุนซือสไตล์คอนเทนต์ที่มาเพื่อสร้างภาพลักษณ์ระยะสั้น เขาเคยทำทีมเล็กอย่างเบรนท์ฟอร์ดให้ยืนระยะบนพรีเมียร์ลีกได้อย่างมีเอกลักษณ์ จนถูกมองว่าเหมาะจะพาสเปอร์สเข้าสู่ยุคใหม่ที่เน้นความยั่งยืนมากกว่าความหวือหวาในตลาดซื้อขายเพียงอย่างเดียว
- แต่บริบทที่ลอนดอนเหนือไม่ใช่เบรนท์ฟอร์ดอีกต่อไป – สเปอร์สวันนี้คือทีมที่แฟนจ่ายค่าตั๋วแพงระดับท็อปของลีก สเตเดียมพันล้านปอนด์ และความคาดหวังระดับ “ต้องไปถ้วยยุโรป” เป็นอย่างน้อย เมื่อผลงานในบ้านชนะเพียงนัดเดียวในลีกทั้งซีซัน และเพิ่งแพ้ฟูแล่มต่อหน้ากองเชียร์ตัวเองอีกครั้ง ความไม่พอใจจึงระเบิดออกมาเป็นเสียงโห่ ทั้งต่อตัวแฟรงค์และลูกทีม
- จุดเดือดล่าสุดคือเกมแพ้ฟูแล่ม 1-2 ที่ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม เมื่อแฟนบอลโห่ใส่ กูลเยลโม่ วิการิโอ นายทวารของทีมแทบทุกครั้งที่จับบอลหลังพลาดจังหวะนำไปสู่ประตูของแฮร์รี่ วิลสัน ทำให้แฟรงค์ออกมาตำหนิเดือดว่าแฟนกลุ่มที่โห่ใส่นักเตะว่า “ไม่ใช่แฟนสเปอร์สตัวจริง” และเรียกการกระทำดังกล่าวว่า “รับไม่ได้” กลายเป็นประโยคที่ถูกหยิบไปขยายต่อทั้งสื่ออังกฤษและโซเชียลแบบมหาศาล
- ภายในทีมเองบรรยากาศก็ไม่ได้ราบรื่นนัก รายงานจากอังกฤษระบุว่านักเตะสเปอร์สมีการจัด “ประชุมฉุกเฉินในห้องแต่งตัว” หลังความพ่ายแพ้ต่อเชลซีเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน หัวข้อหลักคือ “ช่องว่างระหว่างทีมกับแฟน” ที่ถูกมองว่าเป็นปัญหาระดับวิกฤต พร้อมตกลงกันว่าจะเดินออกสนามพร้อมกัน และไม่ออกไปปรบมือขอบคุณแฟนแบบเดิมจนกว่าสถานการณ์จะกลับมาดีขึ้น ซึ่งสะท้อนว่าทีมกำลังรู้สึกว่าบรรยากาศในสนามเหย้ากลายเป็นภาระมากกว่าข้อได้เปรียบไปแล้ว
- ในมุมแท็กติก มีรายงานตามมาจากหลายสำนักว่าผู้เล่นบางส่วนเริ่ม “งง” กับแนวทางของแฟรงค์ ทั้งเรื่องการเปลี่ยนแผนและบทบาทในนาทีสุดท้ายก่อนลงสนาม หรือการสลับโครงสร้างระหว่างเกมซึ่งทำให้บางคนไม่ชัดเจนว่าหน้าที่ตัวเองคืออะไร เสียงกระซิบในห้องแต่งตัวเรื่องความไม่มั่นใจในแผน และความรู้สึกว่าโครงสร้างทีมยัง “ไม่มีบาลานซ์” ถูกโยนเข้ากองไฟข่าวทุกสัปดาห์ ขนานไปกับฟอร์มที่สะดุดต่อเนื่องในลีกและยุโรป
- อย่างไรก็ดี ฝั่งบอร์ดบริหารและเจ้าของใหม่ของสเปอร์สยังส่งสัญญาณ “ให้เวลา” แฟรงค์อย่างชัดเจน หลายสำนักรายงานตรงกันว่า กลุ่มเจ้าของและซีอีโอคนใหม่อย่าง Vinai Venkatesham มองแฟรงค์เป็นโปรเจ็กต์ระยะกลาง–ยาว และเข้าใจว่าการสร้าง “ไดนาสตี้” ในระดับสโมสรใหญ่ต้องใช้เวลา พวกเขาเน้นคำว่า sustainability มากกว่าการเปลี่ยนโค้ชแบบรีเฟรชภาพลักษณ์เร็ว ๆ แม้ฟอร์มช่วงออกสตาร์ตฤดูกาลจะกำลังดร็อปลงอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม
- แน่นอนว่าตัวแฟรงค์เองก็เริ่มปรับน้ำเสียงต่อหน้าสื่อ จากเดิมที่ดุแฟนสุดแรงเรื่องการโห่วิการิโอ วันนี้เขาเน้นย้ำคำว่า “เราคือ nothing without the fans – เราไม่มีอะไรเลยถ้าไม่มีแฟน” และยอมรับว่าความหงุดหงิดของแฟนเป็นเรื่องเข้าใจได้ เมื่อทีมไม่ชนะในบ้านและหลุดจากมาตรฐานที่ควรจะเป็น เขาจึงพยายามรีเซ็ตข้อความใหม่ว่า “ระหว่างเกมเราต้องอยู่ข้างกัน หลังเกมคุณจะโห่ยังไงก็เป็นสิทธิ์ของคุณ” เพื่อดึงฐานเสียงส่วนใหญ่กลับมา
- เกมเยือนนิวคาสเซิลต่อจากนี้จึงไม่ใช่แค่แมตช์สามแต้มธรรมดา แต่คือบททดสอบความเชื่อมั่นในโปรเจ็กต์ของโค้ชเดนส์คนนี้ ถ้าทีมยังวูบต่อเนื่อง เสียงวิจารณ์เรื่องแท็กติก, ความสับสนในห้องแต่งตัว และดราม่ากับแฟนจะยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน