ตอนนี้อยากรุ้ว่า

ถ้าone ลดค่าตัวนักมวยต่อไฟต์ลงมา แต่ให้ต่อยบ่อยขึ้น ซักเท่าตัว

จะดีขึ้นมั้ย ยกเว้นตัวเจ็บหนักๆนะ

เมือก่อนมวย5ยก มันพักกันกี่อาทิตย์ต่อยอีกที ตอนนี้มวยone เฉลี่ย น่าจะ3-4 เดือนต่อยที ปีนึงต่อย3-4 นัดเอง

ถ้าให้ต่อยเยอะขึ้นกว่านี้ ในวันลุมพินีนะ ให้ตัวเก่งๆวนกันมาต่อยเยอะขึ้น แล้วมีรายการ วันเล็กกว่าอีกซักวัน ให้ตัวเพิ่งเริ่มไปสร้างชื่อก่อน


มันจะดีกว่านี้ปะ หรือร่างกายนักมวยมันจะไม่ไหวถ้าต่อนถี่กว่านี้



อยากรุ้ว่าตอนนี้ นักมวย อั้น หรือรายการมันอั้น หรือเงินไม่พอจะจ่ายค่าตัวมวยระดับกลางให้มาต่อยได้บ่อยกว่านี้


สมมติได้ดูพวก สุริยันเล็ก เพชร1-3 อดัม หรือแม้พวก รองมาอีกนิด ต่อนสองเดือนครั้งน่าจะต่อเนื่องกว่านี้มั้ยหว่่

แต่อาจจะลดค่าตัวซักหน่อย เช่น ปกติทุกวันนี้ได้3 แสน

ถ้าให้ต่อยบ่อยอาจจะซัก2 แสน แต่บ่อยขึ้น

เอาแบบความจริงมาพูดกัน สถานการณ์ one ปัจจุบันยังจะเอาตัวไม่รอดเลย นับแค่วันลุมพินีปีแรกก้อขาดทุนไปเกือบ 300 ล้าน ปีที่2 คิดว่าน่าจะหนักกว่าปีแรกนะ เห็นยังไม่ยิ่นงบหรือยังไงเพราะยังไม่ลงในกรมพัฒนาธุรกิจ แล้วบริษัทแม่ไม่ต้องพูดถึง จะอยู่ถึงปีไหนเหอะ ชาตรีอ้างสตาร์ทอัพ ระดับเดียวกับ NBA F1 คนไทยฟังแล้วเคลิ้ม ตอนนี้ตัดงบรัดเข็มขัดย้ายฐานมาไทย เพราะฉะนั้นเรื่องให้เพิ่มความถี่คงยาก ยกเว้นไปได้งบที่ไหนมาถลุงเพิ่มอีก

ยังทำกำไรไมไ่ด้เลย ตอนนี้ จ่ายโอเว่อเกินไปมกา

มวยไทย 5 ยก
ึคนแพ้ ถ้าไม่โดนน๊อก พัก 21 วัน ถ้าโดนน๊อคพัก 30 วัน

คนชนะ ชนะน๊อคยก 1 พัก 7 วัน ชนะน๊อคภายใน 3 ยก พัก 14 วัน ชนะน๊อคเกินกว่า 3 ยก หรือ ชนะคะแนน พัก 21 วัน

เอาความเห็นส่วนตัวนะ ผมว่า 3-4เดือนต่อยที แต่รายได้เน้นๆ เป็นโมเดลที่เหมาะสมกว่ามาก
ซึ่งมันคือโมเดลที่เหมาะสมในระยะยาว เพื่อสร้างสมรรถนะของนักกีฬาที่เพียงพอ และรายได้ที่ไปได้

เอาเล่นๆง่ายๆเลยนะ สมมติต่อยไฟท์นึง สมมติว่าไม่ได้น็อคเร็วๆชิลๆ แต่ต่อยกันดุๆโหดๆ
แบบนี้กว่าจะกลับมา 100% แผลแตกหาย แผลช้ำหาย บลาๆๆ เผลอๆเกือบเดือนแล้ว
กลับมาเรียกความฟิต ว่าจะไปได้ระดับ 70-90% ปาไปอีกเป็นเดือน

การจะพัฒนา ก็ต้องอาศัยเวลาต่างกันไป เช่นพัฒนาความฟิต พัฒนากล้ามเนื้อ พัฒนาฝีมือ พัฒนาความเร็ว
เอาแค่นี้ เอาว่า4เดือนต่อยที ต่อยเสร็จพัก1 ซ้อม3 แค่นี้ก็จัดตารางไม่ง่ายแล้วนะ รวมๆคือมีเวลาซ้อมแค่3เดือน

จัดตารางยังไงเอาแค่นี้ก็โหดแล้ว ความฟิตeasy, tempo, interval ก็พัฒนาต่างกัน
ต้องเสริมกล้ามเนื้อ หาจุดที่ imbalance เสริมจุดอ่อน เพิ่มจุดแข็ง ก็ต้องเวทไม่น้อย
ความเร็วก็ต้องพัฒนา ด้วยโปรแกรม บลาๆๆ ก็ว่าไป
เซสชั่นมายเซ็ท จิตใจ สรุปรวมๆคือร่างกายทางความคิด/สมอง ก็สำคัญไม่แพ้ทางร่างกาย

สมมติให้ 2เดือนต่อยที 1เดือนต่อยที ทั้งหมดนี้มันจะได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสมได้ยังไง
ถ้าต้องพัก1เดือน อีกเดือนจะมีต่อย เบสิคมันก็ต้องคุมน้ำหนัก เสริมความฟิต ก็ไปได้เท่านั้น
ละสรุปมันจะพัฒนาอะไรได้ คือมันก็ได้ แต่น้อยมากๆถูกไหมครับ

กลับกัน ถ้าต่อยทุก 4เดือน พัก1ซ้อม 3เดือน ผมว่ามันง่ายกว่ากันเยอะมากๆ
- เดือนแรกพัก
- เดือนสองเสริมเวท สลับวิ่งไม่หนักมาก เสริมฝีมือทักษะ
- เดือนสาม เน้นพัฒนาทักษะ เวทน้อยลง เพิ่มความฟิตเยอะขึ้น
- เดือนสี่ เน้นความฟิต คาดิโอ เน้นความอึด ลดน้ำหนัก

ถ้าระยะนี้มันเลี้ยงตัวเองได้ ผมว่าก็เมคเซนส์กว่ามากอะ ถ้าไปถูกทาง ความรู้สมัยนี้ยืนระยะยาวๆไปได้ยัน40
น้องโอ๋ เพชรทนง บังขาวก็ทำให้เห็นมาแล้ว ว่ามันไปได้
ให้ขี้เหร่ยังไง เอาเพชรทนงล่าสุดเลย เจอเด็กห่างกัน1รอบ 12ปี เอารวมๆใช้คำว่ายังเอาอยู่ได้เลย
หลับตา เซ็นเซอร์ไป5-6ชอต ชูเสมอยังไม่น่าเกลียดเลย (ย้ำว่าหลับตา5-6ช็อตนะ)

เพราะงั้นรุ่นใหม่ๆ ความรู้มันไปไกลแล้ว ยิ่งใช้วิทยาศาสตร์ ยิ่งต่อยน้อยยิ่งดี less is more
เพราะมันเพิ่มเวลาในการพัฒนาร่างกายในหลายๆด้านได้
ลดอาการบาดเจ็บได้ เพราะเจ็บหนักๆมาที มันเรื่องใหญ่ กว่าจะกลับมาเท่าเดิม อาจจะไม่ง่ายเลย
อาการแหยงจนฟอร์มเสียไปทั้งชีวิต งานวิจัยก็มีให้เห็นว่า มันก็จะเรียกว่าส่วนมากก็ได้เลย

สรุปเลยคือ ถ้าจะอยากผลักให้เป็นรายการระดับท้อปจริงๆของโลก มันก็ต้องไปทางนี้
หาตลาดเพิ่ม เสริมรายได้ ต่อยไม่มากเกินไม่น้อยเกิน อยู่ในเกรดCอยู่ได้ เกินกว่านั้นต้องมีตัง ไปถึงรวย

และถ้าใครกลัวว่าจะไม่มีตัง จะหาเงินเพิ่มไม่ได้ ก็พอดีได้ข่าวแว่วๆมาแล้วครับ
ว่านายทุนหลายฝ่าย ยังให้ไปต่ออีกยาวๆครับ