ผมมีรถเก่าคันนึงก้ไม่ได้เปลี่ยนฟิล์มหลังเหมือนกันนะ

เเต่มีกล้องบันทึกหลังมองเเทน สะดวกกว่าด้วย

เเต่เอาจริงโดยส่วนตัวปกติไม่ต้องมาสนใจข้างหลังมากนักรึเปล่าหว่า มองเเต่ข้างหน้าเเละด้านข้างให้มันดีก่อนหลังมันจะรอดเอง

ตอนสมัยเรียนขับรถใหม่ๆพ่อผมด่าประจำบอกจะมองกระจกหลังทำไมนักหนา มีหน้าที่ขับก้มองข้างหน้าเป็นหลัก จะเปลี่ยนเลนค่อยมองซ้านขวา จะถอยค่อยมองหลัง เวลาขับรถบนถนนเว้นระยะด้านหลังให้คันหลังเค้าจัดการไป ถ้าเค้าชนเค้าก้ผิดเเค่นั้น

จขม.เป๊ะเว่อร์กำลังขับรถหาที่จอดในเมกะบางนาอยู่เนี่ย

คันข้างหน้ากระจกหลังเป็นฟองทั้งแผงเลย

ยังไงเปลี่ยนมันก็ดีกว่าไม่เปลี่ยนอยู่แล้ว

อุบัติเหตุรอบตัวเรามันจะมาวันไหนก็ไม่รู้

ตอนซื้อรถก็ควรจะคำนวณค่าใช้จ่ายพวกนี้ล่วงหน้ารวมเข้าไปด้วย

บางคนซื้อรถไม่ได้คิดไรมาก คิดว่ามีมีตังผ่อนก็จบ

ยางงี้ รอต้องใกล้เกิดอุบัติเหตุค่อยเปลี่ยน

จริงครับ นั่งรวมแล้วเสียดาย ซื้อบ้านได้เลย

รถผมก็เป็นเฉพาะข้างหลังตอนแรกว่าจะเปลี่ยนแต่ไม่มีเวลา ทำไปทำมาผ่านไป6เดือนละชินละเลยช่างแม่ง5555

ผมเปลี่ยนรอบคันทุก​ 4 5​ ปี​ ก็เอาไม่แพงมาก3-4พัน​ ดีกว่าทนใช้​

ของผมเข้าปีที่ 6 เพิ่งเจอล่าสุดเลยจอดๆไว้ตากแดดดจู่ๆมันเบลอๆเป็นคลื่นๆ คิดว่าไปล้างจะหายนี้ยังไม่หายเลย สงสัยไปละมั้ง

เงินครับ เปลี่ยนที่ต้องเปลี่ยนทั้งคัน ต่ำๆ 4-5000 ต้องมี

คนใน ss น่าจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจเท่าไหร่

อย่างผมกระทบเยอะ รายได้หาย

ตอนนี้ฟิล์มกระจกรถผมยังดีอยู่แหละ แต่ถ้ามันเป็นฟองขึ้นมา ผมคงไม่เปลี่ยนทนใช้เหมือนกัน เพราะต้องเก็บเงินไว้ใช้เรื่องอื่นที่สำคัญกว่า

บางคนอาจจะคิดว่าฟิล์มนี่สำคัญแล้วไหม เป็นเรื่องความปลอดภัย แต่เอาเข้าจริงๆตอนนี้ มันแย่กว่านั้นอีก เก็บเงินไว้ดีกว่าสำหรับผม

กระจกหลังใช้น้อยครับ
ถ้าได้ลองเปลี่ยนมาขับกระบะตอนเดียวตู้ทึบ
หรือรถบรรทุก แล้วจะไม่มองกระจกมองหลังอีกเลย

เพราะว่ามองไปก็ไม่เห็นอะไร ตู้บังมิด

ของผมบานหลังไม่เป็นฟองแต่เป็นคลื่นๆอ่ะ แต่บานอื่นยังไม่เป็นอะไรเลย เลยใช้งั้นไปก่อน รอบานอื่นเป็นค่อยเปลี่ยนพร้อมกันทีเดียว
เพราะไม่รู้ว่าร้านเค้ารับเปลี่ยนบานเดียวไม๊