สรุป ซีเซียม-137 แบบง่ายที่สุด !!
-ซีเซียมคืออะไร?
ซีเซียม (Caesium) คือธาตุธรรมชาติ มีลักษณะเป็นโลหะ อยู่ในหมวดโลหะแอลคาไล ค้นพบในปีค.ศ.1860 โดยกุสตาฟ เคอร์ชอฟฟ์ และ โรเบิร์ต บุนเซน จากตัวอย่างน้ำแร่ที่ได้มาจากเมืองเดอร์คไฮม์ ประเทศเยอรมนี
แล้วแอลคาไลคืออะไร? แอลคาไลประกอบไปด้วย ลิเทียม โซเดียม โพแทสเซียม รูบิเดียม ซีเซียม และแฟรนเซียม คุณสมบัติเหมือนกันของแอลคาไลคือเป็นโลหะที่อ่อน สะท้อนแสงได้ดี และไวต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมี
-ตัวเลข 137 หลังซีเซียม คืออะไร?
เลขหลังธาตุเรียกว่า “เลขมวล” คือจำนวนผลรวมของจำนวนโปรตอนและนิวตรอน ซีเซียม-137 มีจำนวนโปรตอน 55 และนิวตรอน 82 รวมกันได้ 137 จึงเรียกว่า Caesium-137 ซึ่งแต่ละเลขจะทำให้คุณสมบัติและคุณลักษณะต่างกันออกไป
-ซีเซียม-137 ค้นพบจากไหน?
16 กรกฎาคม ค.ศ.1945 ระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลกถูกทดลองในทะเลทรายอะลาโมกอร์โด มลรัฐนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา จากโครงการลับที่ใช้ชื่อว่า “Manhattan Project” หลังจากระเบิด ได้มีการเข้าไปเก็บข้อมูลสารที่ฟุ้งกระจาย และนั่นทำให้เกิดการค้นพบซีเซียม-137 และสารกัมมันตรังสีอื่นๆ
ซีเซียม-137 เป็นผลพลอยได้การค้นพบจากการระเบิดนิวเคลียร์ มันคือสารกัมมันตรังสีที่เกิดได้เฉพาะปฏิกิริยานิวเคลียร์ หรือที่เรียกว่านิวเคลียร์ฟิชชัน เป็นโลหะอ่อนสีขาวเงิน ตีเป็นรูปได้ง่าย เป็นของเหลวที่อุณหภูมิ 28 องศาเซลเซียส มีครึ่งชีวิต 30 ปี
-คำว่า “ครึ่งชีวิต” คืออะไร?
ครึ่งชีวิต คือระยะเวลาที่นิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสี (นิวเคลียสคือส่วนที่อยู่ใจกลางของอะตอมในธาตุ) สลายตัวจนเหลือครึ่งหนึ่งของปริมาณเดิม
ยกตัวอย่างเช่น ซีเซียม 137 จำนวน 100 กรัม มีครึ่งชีวิตที่ 30 ปี หมายความว่าอีก 30 ปี ซีเซียม 137 ตัวนี้จะเหลือ 50 กรัมเนื่องจากนิวเคลียสมีการสลายตัวรังสีออกมา และอีก 30 ต่อมามันจะเหลือครึ่งหนึ่งจากที่เหลือ นั่นคือ 25 กรัม
ครึ่งชีวิตเป็นเลขที่ถูกใช้อธิบายการสลายตัว เนื่องจากเลขตัวนี้มีค่าคงที่ตลอดช่วงชีวิต และบอกเป็นจำนวนได้ง่ายกว่าการสลายตัวทั้งหมดจนเหลือ 0
-ซีเซียม-137 ใช้ทำอะไร?
ซีเซียม-137 เป็นไอโซโทปรังสี (ธาตุที่ปล่อยกัมมันตภาพรังสีออกมาได้เรียกว่า ไอโซโทปรังสี) ที่นิยมมาใช้ในอุตสาหกรรมมากมาย เช่นเครื่องวัดความชื้น เครื่องวัดความหนาแน่น เครื่องวัดระดับการไหล ของเหลวในท่อ เครื่องวัดความหนา และเครื่องตรวจสอบชั้นบาดาล ซีเซียม-137 ยังใช้ทางการแพทย์ โดยเป็นต้นกำเนิดของรังสีแกมมาเพื่อฉายแสงรักษามะเร็ง
-ผลกระทบของซีเซียม-137
ซีเซียม-137 ปล่อยรังสีเบตาและรังสีแกมมาออกมา มีผลคือทำให้เรามีโอกาสเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น ผลกระทบมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ 4 ประการด้วยกัน
1.ความแรงของต้นกำเนิด
2.เวลาที่ได้รับ
3.ระยะทางจากจุดกำเนิดรังสี
4.มีอะไรกั้นระหว่างเรากับต้นกำเนิดรังสีไหม
-เราจะรู้ได้อย่างไรว่ากำลังโดนซีเซียม-137?
ถ้าเป็นการสัมผัสแบบใกล้ชิดโดยตรง ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก และถ้าเกิดขึ้นจริง จะเกิดการไหม้ของผิวหนังและเสียชีวิตต่อมา แต่หากเป็นฝุ่นของกัมมันตภาพรังสี เราจะไม่รู้เลยว่ากำลังโดนรังสี เนื่องจากเราไม่สามารถรู้สึกได้เลยว่าได้รับรังสี ได้รับรส หรือแม้กระทั่งกลิ่นของซีเซียม-137 สิ่งเดียวที่รู้ได้คือเครื่องตรวจจับรังสีเท่านั้น และจะรู้ได้ว่าในร่างกายของเรามีซีเซียม-137 อยู่ไหม ก็ได้จากการตรวจปัสสาวะและอุจจาระ
-เคยมีเหตุการณ์ ซีเซียม-137 กระจายฟุ้งไหม?
มี ใหญ่ที่สุดคือในเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูและเหตุการณ์เชอร์โนบิล ในเหตุการณ์เชอร์โนบิลพบว่า ซีเซียม-137 ปลิวไปไกลถึงประเทศสวีเดนซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 1,000 กิโลเมตร คณะกรรมการป้องกันอันตรายจากรังสีแห่งชาติของอังกฤษทำนายว่า ฝุ่นกัมมันตภาพรังสีของซีเซียม-137 ในเชอร์โนบิล ทำให้คนเกิดมะเร็งมากกว่า 1,000 คน
credit https://www.facebook.com/imfromandromed/posts/782495736568142