จิตวิทยา พลังแฝงพาแท็คติกสู่ชัยชนะ

#SSxKMD | ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางสำหรับแท็คติกไฮไลน์และการดักล้ำหน้าที่มีส่วนทำให้ซาอุดิอาระเบียหักปากกาเซียนเฉือนชนะอาร์เจนตินา 2-1 ซึ่งคุณท็อป-ณัฐวุฒิ บอสใหญ่เจ้าสำนัก KMD ได้โพสต์รีวิวไปแล้วหลังจบเกมไม่นาน

แอร์กเว เรอนาร์ กุนซือฝรั่งเศสวัย 54 รู้ว่าเสี่ยงแต่ต้องขอลอง วางหมากได้ถูกและลูกทีม “กรีน ฟอลคอนส์” สามารถสนองตอบได้ดี โดยนัดนี้ อาร์เจนฯล้ำหน้าถึง 10 นัด รวมถึง 3 ครั้งที่ทำให้พวกเขาไม่ได้ประตูในครึ่งแรก และซาอุฯทำฟาวล์ทั้งเกม 21 ครั้งเทียบกับอาร์เจนฯ 7 ครั้ง หรือมากกว่าถึงสามเท่า

แต่นอกจากกลยุทธ์แล้ว การพูดกระตุ้นปลุกเร้าของอดีตกุนซือแชมป์แอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 2 สมัย ก็มีส่วนสำคัญในสร้างประวัติศาสตร์ให้ซาอุฯอย่างมาก เพราะนักเตะอาจถอดใจได้ง่ายๆเมื่อลงสนามกับอาร์เจนตินาแถมยังโดนนำเร็วจากลูกโทษของลิโอเนล เมสซี

อับดูเลลาห์ อัล-มัลกี เล่าผ่านสื่อโทรทัศน์ Alkass Sports ว่าระหว่างการประชุมทีมก่อนเกม โค้ชพูดโมติเวทจนนักเตะรู้สึกกระหายที่จะออกไปแข่งขันกับอาร์เจนฯตอนนั้นเลย และยังยอมรับว่าคำพูดของโค้ชทำให้เขาถึงกับน้ำตาคลอเบ้า

มิดฟิลด์วัย 28 ยังบอกนักข่าวต่อว่า หลังกลับเข้าห้องพักขณะเป็นรอง 0-1 โค้ชยังได้ปลุกเร้ากระตุ้นจนผู้เล่นเกิดความฮึกเฮิมเพื่อกลับลงสนามและทวงประตูคืน ก่อนหยอดมุกแบบขำๆว่า “พวกเรามีโค้ชที่บ้ามากๆ” ซึ่งทีมเหยี่ยวมรกตก็ทำสำเร็จราวกับปาฏิหาริย์จากซาเลห์ อัล-เชห์รี นาทีที่ 48 และซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี นาทีที่ 53

สภาพจิตใจของนักเตะซาอุฯเป็นอย่างไรสามารถบอกได้จากอากัปกิริยาของอาลี อัล-บูไลฮี ซึ่งแสดงออกหลังจากทีมได้ประตูแซงขึ้นนำ แทนที่กองหลังจอมเก๋าวัย 33 จะร่วมดีใจกับเพื่อนร่วมทีม เขากลับเดินตรงเข้าไปแตะหลังเมสซีเพื่อเรียกความสนใจ อัล-บูไลฮี พูดอะไรบางอย่างพร้อมกับตบหน้าอกตัวเอง ซึ่งเขาเปิดเผยภายหลังว่า ประโยคที่พูดกับเจ้าของบัลลงดอร์ 7 สมัยคือ “นายไม่ชนะหรอก นายไม่ชนะหรอก”

เมสซีอึ้งไปเสี้ยววินาทีก่อนยิ้มน้อยๆแล้วเดินจากไป อัล-บูไลฮี คงไม่ได้ตั้งใจทำสงครามจิตวิทยาเพื่อหวังให้กัปตันทีมอาร์เจนฯเสียสมาธิเพราะหงุดหงิดหรือโมโห แต่คงเป็นแค่ปฏิกิริยาที่บ่งถึงความมั่นใจอย่างสูงของตัวเขา ซึ่งรวมถึงเพื่อนๆภายในทีมด้วย

ช่วงเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เรอนาร์เล่นตำแหน่งกองหลังในประเทศบ้านเกิดระหว่างปี 1983 ถึง 1998 มีโอกาสเล่นบอลลีกแค่ 215 นัดเท่านั้น หลังจากแขวนสตั๊ดก็ยังทำงานกับทีมดรากีญองตอนเย็น และเป็นพนักงานทำความสะอาดช่วงเช้าจนสามารถเปิดบริษัททำความสะอาด

ไม่พบข้อมูลว่าธุรกิจส่วนตัวเป็นอย่างไรต่อไปแต่บนเส้นทางอาชีพโค้ช เรอนาร์เริ่มต้นที่สโมสรสุดท้ายของเขา ดรากีญอง เมื่อปี 1999 ก่อนไปเป็นผู้ช่วยของเฮดโค้ช โคลด เลอ รัว ที่เซี่ยงไฮ้ คอสโก (หรือปักกิ่ง เฉิงเฟิง ในปัจจุบัน) และเคมบริดจ์ ยูไนเต็ด ตามลำดับ เรอนาร์มีโอกาสคุมทีมเคมบริดจ์ช่วงสั้นๆก่อนโดนไล่ออกเมื่อทีมตกชั้นลีกทูลงไปเล่นฟุตบอลคอนเฟอเรนซ์

กุนซือฝรั่งเศสยังมีงานใหม่เข้ามาเรื่อยๆ จากนัม ดินห์ ในเวียดนาม และเฌอบูร์ก ในฝรั่งเศส ก่อนยกระดับขึ้นไปเป็นหัวหน้าโค้ชทีมชาติครั้งแรก สามารถพาแซมเบียเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของแอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปีเมื่อปี 2010 แล้วก็ลาออกไปคุมทีมแองโกลาและสโมสรยูเอสเอ็ม อัลเจอร์ ในอัลจีเรีย และกลับมาทำงานกับแซมเบียอีกครั้ง

เรอนาร์จัดเป็นโค้ชชีพจรลงเท้าเนื่องจากในช่วงเวลา 23 ปี เขาคุมทีมใน 9 ประเทศ เป็นระดับสโมสร 7 ทีม และระดับชาติ 5 ประเทศคือ แซมเบีย (2 ครั้ง), แองโกลา, ไอวอรี โคสต์, โมร็อคโก และซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเซ็นสัญญาเริ่มงานในเดือนกรกฎาคม 2019 จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2022 เขาก็พาทีมเหยี่ยวมรกตเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้สำเร็จ

นอกจากเพิ่งล้มยักษ์ใหญ่ชนิดโลกตะลึงแล้ว เรอนาร์ยังเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่พาทีมชาติ 2 ประเทศครองแชมป์ทวีปแอฟริกาได้แก่ แซมเบีย ปี 2012 และไอวอรี โคสต์ ปี 2015

กุนซือวัย 54 กล่าวหลังชนะอาร์เจนฯ 2-1 ว่า “เมื่อมาเวิลด์คัพ คุณจำเป็นต้องเชื่อมั่นในตัวเอง อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้กับฟุตบอล” ซึ่งหากดูจากสีหน้าท่าทางของผู้เล่นซาอุฯที่แสดงออกตลอดเกม ต้องยอมรับว่า พวกเขาเปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ

เรียบเรียง: KMD Content Team
ภาพ: The Sun England

หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

Ewzaghi , Oakyman

โหวตเป็นกระทู้แนะนำ