กาตาร์เวิลด์ คัพ : ประวัติศาสตร์เปาหญิง
มหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 เริ่มต้นขึ้นไปแล้ว หนึ่งในส่วนสำคัญของการแข่งขันรายการนี้ นอกจากบรรดานักฟุตบอล, กองเชียร์, เจ้าหน้าที่ต่าง ๆ แล้วยังหนีไม่พ้นบรรดาผู้ตัดสิน ที่จะลงสนามห้ามทัพอีกหนึ่งกำลังสำคัญ
การทำหน้าที่ "เชิ้ตดำ" นั้นเปรียบเสมือนทำดีเสมอตัวทำชั่วโดนด่า อย่างที่เห็นๆ กันมาตลอด หากเกมดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ท่านเปาก็มักไม่ค่อยได้รับคำชื่นชมว่าทำหน้าที่ได้แบบเนียนกริบกันเสียเท่าไหร่
ตรงกันข้าม หากมีการตัดสินค้านสายตา หรือการเป่าไม่โดนใจทีมใดทีมหนึ่ง พวกเขาและเธอ ก็จะตกเป็นตำบลกระสุนตกของจากทั้งนักเตะ, กุนซือ รวมไปถึงแฟนบอล และยิ่งในปัจจุบัน สาวกลูกหนังออนไลน์ มีบทบาทมากขึ้นทุกที
สำหรับการแข่งขัน เวิลด์ คัพ 2022 หนนี้ ฟีฟ่า เปิดเผยรายชื่อผู้ตัดสินออกมาทั้งหมด 36 คน, ผู้ช่วยผู้ตัดสิน 69 คน และเจ้าหน้าที่ดูแลระบบ VAR อีก 24 ราย ซึ่งนี่เป็นหนแรกที่จะมีผู้ตัดสินหญิง ทำหน้าที่ในเกมอันทรงเกียรตินี้ในรอบกว่า 92 ปีของทัวร์นาเมนต์
6 ผู้ตัดสินหญิง นำมาโดย สเตฟานี่ แฟรปปาร์ท (ฝรั่งเศส), ซาลิม่า มูคานซาญ่า (รวันด้า) และ โยชิมิ ยามาชิตะ (ญี่ปุ่น) คือผู้รับบทผู้ตัดสิน ส่วนผู้ช่วยนั้น ประกอบด้วย เนอูซา แบ็ค (บราซิล), คาเรน ดิอาซ เมดิน่า (เม็กซิโก) และ แคธีน เนสบิตต์ (สหรัฐฯ)
จากรายชื่อที่ปรากฏ ท่านเปาสาวจากรวันดา ได้รับคำยกย่องค่อนข้างสูง โดยเธอ เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้ตัดสินหญิงคนแรกที่ทำหน้าที่ในศึกแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ ชาย ช่วงต้นปีที่ผ่านมานี่เอง
มูคานซาญ่า หวังว่า หากเธอได้รับเลือกให้ลงสนามทำหน้าที่ จะเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าที่ช่วยเปิดกว้างให้สาวๆ ได้ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่ในเกมฟุตบอลชาย ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลกในอนาคตข้างหน้า
สาววัย 34 ปี กล่าวว่า "มันเป็นเกียรติและสิทธิพิเศษ เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย"
"มันหมายความว่า คุณกำลังจะเป็นคนแรก และจะเปิดประตูให้กับผู้หญิงคนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปแอฟริกา"
"คุณแบกรับอะไรหลายอย่างอยู่บนหัวไหล่ และคุณต้องแบกมันไว้ให้ดี เพื่อที่คนอื่นจะได้เห็นว่าประตูมันถูกเปิดออกแล้ว และพวกเธอก็จะสามารถก้าวข้ามมาได้เช่นเดียวกัน"
"มันหมายความว่ามีโอกาสอยู่ตรงนั้น มันเปิดกว้างให้เราได้ฉวยเอาไว้ และทำให้สำเร็จ"
ก่อนหน้าสร้างประวัติศาสตร์ที่แอฟคอน เปาสาวผิวดำ เป็นผู้หญิงคนแรกจากบ้านเกิดของตัวเอง ที่ได้ตัดสินเกม ฟุตบอลโลกหญิงมาแล้วด้วย
ตอนสมัยเด็ก เธอเลือกที่จะพุ่งสมาธิไปที่เกมฟุตบอล หลังได้รับการบอกกล่าวว่าอายุไม่ถึงที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการแข่งขันบาสเก็ตบอล รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในระดับชาติ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นคราวนี้ กลายเป็นตัวจุดเชื้อไฟให้เธอมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า
"ตอนที่ฉันไปดูเกม ฉันเห็นคนเหล่านั้นที่อยู่ในสนามถูกเรียกว่ากรรมการ"
"พวกเขาสามารถตัดสินใจและเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างของเกมการเล่น ฉันตื่นเต้นมาก และตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่ฉันยังอยู่ในชั้นประถมศึกษา ฉันก็เริ่มคิดถึงคนเหล่านั้น"
ซาลิม่า เริ่มต้นทำหน้าที่ในเกมฟุตบอลระดับมัธยม ก่อนกราฟแห่งการเรียนรู้ของเธอก็พุ่งขึ้นแบบไม่หยุดยั้ง
"ฉันไม่รู้จริงๆ ว่ามันมีอะไรต้องทำมากมาย มีกฏต่างๆ ให้ติดตาม ต้องติดตามเรื่องหัวจิตหัวใจ ความเป็นมืออาชีพภายในตัว แต่ฉันก็เริ่มที่จะเรียนรู้ไปทีละขั้น"
"มันลำบากลำบนมากจริงๆนะ เมื่อคุณกำลังอ่านกฎระเบียบของเกมการแข่งขัน มันทำความเข้าใจได้ง่าย แต่ระหว่างเกมการเล่น มันต้องใช้เวลาในการปรับตัว"
หลังจากเป็นนักฟุตบอลสมัครเล่นไม่นาน เธอก็ข้ามสายงานมาเรียนคอร์สการเป็นผู้ตัดสิน แต่หลังจากที่พยายามติดต่อสมาคมฟุตบอลรวันด้า เกี่ยวกับการลงทะเบียนเรียนทันทีหลังจบชั้นมัธยม เธอก็โดนปฏิเสธเพราะว่าอายุน้อยเกินไป
แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอหมดหวัง ซาลิม่า เริ่มทำการเรียนรู้กฎต่างๆ ของฟีฟ่าด้วยตัวเอง และความพยายามก็ออกดอกออกผล เมื่อสุดท้ายเธอได้รับโอกาสเข้าชั้นเรียนพร้อมกับกรรมการที่มีความทะเยอทะยานคนอื่นๆ จากเฟอร์ฟาต้า (สมาคมฟุตบอลรวันด้า)
ซาลิม่า ค่อยๆ เดินหน้าบนเส้นทางของตัวเองจากการเป็นผู้ตัดสินเกมลีกฟุตบอลชายภายในประเทศ และก้าวมาทำหน้าที่ใน วีเมนส์ เนชั่นส์ คัพ 2016, วีเมนส์ เวิลด์ คัพ 2019 และโอลิมปิก เกมส์ ที่กรุงโตเกียว
เมื่อวันที่ 18 มกราคม เปรียบเสมือนหมุดหมายสำคัญในชีวิตของเปาหญิงรายนี้ ที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ระหว่างเกมที่ ซิมบับเว ชนะ กีนี ในศึก เนชั่นส์ คัพ ชาย ที่ประเทศแคเมอรูน โดยเกมดังกล่าว เธอแจกไป 6 ใบเหลือง และยังโชว์ลีลาห้ามนักเตะที่กำลังมีปากเสียงกัน จนได้รับคำชื่นชมว่าทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี
"หลังเสียงนกหวีดสุดท้าย ฉันตื้นตันมากจริงๆ ฉันมีความสุขมากๆ" เธอ กล่าวในตอนนั้น
"ฉันไม่ได้โดดเดี่ยวภายในสนามแห่งนี้ ความรู้สึกตื้นตันมาจากเพื่อนร่วมอาชีพ และมันทำให้มีความสุข เพราะเราได้สร้างประวัติศาสตร์ และทำให้เกมดำเนินไปอย่างลื่นไหล"
"พวกเราสมควรมาอยู่ตรงนี้แล้ว เรามีพื้นเพของตัวเอง และจากจุดนั้นมันก็มีแพสชั่น การทำงานอย่างหนัก และมันก็ออกดอกออกผล"
หลังทำหน้าที่ในศึกเนชั่นส์ คัพ ไม่นาน มูคานซาญ่า ที่ไม่ได้ทำงานอื่นนอกจากเป่านกหวีด ยอมรับว่าเธอต้องเจอความท้าทายต่างๆ ที่คาดกันได้อยู่แล้ว
"เรามีช่วงเวลาของเรา ดังนั้นบางทีคุณก็อาจไม่สามารถวิ่ง หรือทำหน้าที่ตัดสินได้"
"หากท้อง คุณก็วิ่งไม่ได้ เราคลอดลูก ก็ต้องการเวลาพักฟื้น และเตรียมพร้อมร่างกายสำหรับการเดินทางครั้งต่อไปอีก"
"ความเร็วของผู้ชายในระดับท็อปนั้น บางทีฉันก็วิ่งได้ไม่เหมือนผู้ชาย แต่ฉันสามารถทำได้มากกว่า ผลักดันมากกว่าเพื่ออย่างน้อยก็วิ่งให้ได้ในความเร็วระดับเดียวกันเพื่อไปใกล้ชิดกับนักเตะ และมีมุมมองที่ดี"
สำหรับการซ้อมและการทดสอบความฟิตของซาลิน่านั้น ก็เหมือนกับผู้ชาย โดยเธอรู้สึกขอบคุณฟีฟ่า และสมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกา (ซีเอเอฟ) ที่ช่วยจัดการทุกอย่างให้เธอ
"ในสนามที่เต็มไปด้วยผู้ชาย คุณต้องทำงานหนักเป็นสองเท่า จากนั้นก็ต้องมีแพสชั่น เพราะหากไม่มีแพสชั่นคุณก็จะอ่อนล้า แล้วก็จะหันหลังออกไป"
"แต่เราไม่ต้องการเลิก เราจำเป็นต้องเหนือกว่าหนึ่งก้าว และทำงาน ประสบความสำเร็จ สู้ไปด้วยกัน"
ทางด้าน เจโรม ดาม่อน หัวหน้าผู้ฝึกสอนผู้ตัดสินของซีเอเอฟ ให้ความเห็นเกี่ยวกับลูกศิษย์รายนี้ว่า "เป็นหลักไมล์ที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง เธออยู่ในสถานะที่พิเศษ ซึ่งเธอคือหนึ่งในคนไม่กี่คนที่สามารถไปยังการแข่งขันฟุตบอลโลกชายระดับซีเนียร์ และฟุตบอลโลกหญิงระดับซีเนียร์ได้"
"มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย มันบ่งบอกถึงการตัดสินและการพัฒนาในทวีปแอฟริกา"
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ฟีฟ่า ระบุว่าการแต่งตั้งผู้ตัดสินหญิงในการแข่งขันที่กาตาร์ คือ "บทสรุปของกระบวนการอันยาวนาน"
"สำหรับเราแล้ว มันอยู่ที่คุณภาพไม่เกี่ยวกับเพศ" ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินของฟีฟ่า กล่าว
"ผมหวังว่าในอนาคต การเลือกผู้ตัดสินระดับสูงเพื่อทำหน้าที่ในการแข่งขันสำคัญของผู้ชาย จะถูกรับรู้ว่าเป็นสิ่งปกติธรรมดา"
"พวกเธอสมควรได้ไปฟุตบอลโลก เพราะพวกเธอทำผลงานในระดับสูงได้อย่างต่อเนื่อง" อดีตเปาคนดัง กล่าวทิ้งท้าย
มูคานซาญ่า เดินทางมากาตาร์ พร้อมผู้ตัดสินคนอื่นๆ ซึ่งเธอก็ให้กำลังใจกันและกันในการทำหน้าที่สำคัญครั้งนี้
"เราจะทำงานร่วมกันเพื่อความสำเร็จของผู้หญิง" มูคานซาญ่า เผยความตั้งใจ
"หากผู้หญิงคนหนึ่ง สนับสนุนผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แน่นอนว่าคุณก็จะเห็นความสำเร็จ"
"มันมีขวางหนาม อุปสรรค และความท้าทาย สำหรับเราแล้วไม่มีอะไรอื่นต้องทำนอกจากต่อสู้ด้วยหัวจิตหัวใจที่เข้มแข็ง มีความมุ่งมั่น ทำงานอย่างหนัก แล้วจากนั้นเราก็จะก้าวผ่านมันไปได้"
"ผู้คนจะไม่มีวันแฮปปี้กับคุณหรอกนะ ดังนั้นมันขึ้นอยู่กับคุณว่าจะต้องทำในสิ่งที่คุณต้องทำ อยู่ในกรอบ อย่าทำนอกเหนือกฏของเกมการแข่งขัน และสิ่งที่เกมต้องการ"
"แล้วจากนั้น ท้ายที่สุด ผู้คนก็จะพูดว่า "ใช่ เธอทำถูกแล้ว"
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Wed Nov 23, 2022 14:21, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker
