ฝนตกที่ “แรมเซย์” กระเซ็นถึง “เทรนท์”

#SSxKMD | สมกับเป็นตัวสร้างคอนเทนต์เบอร์ 1 ในทีมลิเวอร์พูลให้กับนักข่าวจริงๆสำหรับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็คขวาจอมจ่าย ขนาดไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรองในคาราบาวคัพ รอบสาม ยังถูกพาดพิงถึงบนหน้าสื่ออังกฤษ

เป็นเรื่องปกติของเยอร์เกน คลอปป์ ที่จะส่งตัวสำรองชุดใหญ่และผู้เล่นเยาวชนลงสนามอีเอฟแอลคัพเพราะที่ผ่านมา เขาใช้นักเตะรวมแล้ว 80 คน (เฉพาะที่ลงตัวจริง) บวกอีกสี่ในเกมล่าสุดกับดาร์บีคือ คัลวิน แรมเซย์, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ, บ็อบบี คลาร์ก และสเตฟาน บายเซติค

นอกจากแรมเซย์ (19 ปี), คลาร์ก (17 ปี), บายเซติค (18 ปี) ยังมีอีก 2 คนที่เป็นตัวจริงชุดใหญ่ครั้งแรกคือ เมลกามู เฟราเอนดอร์ฟ (18 ปี) และเลย์ตัน สจ๊วร์ต (20 ปี) ส่วนเอาฟิลด์ที่เหลือ 5 คน ลงตัวจริงรวมกันซีซันนี้แค่ 25 นัด ซึ่ง 11 นัดเป็นของโจ โกเมซ ซึ่งรับบทกัปตันทีมในวัย 25 ปี

นักเตะที่ถูกพูดถึงมากที่สุดหนีไม่พ้น ควีวิน เคลเลเฮอร์ ซึ่งป้องกันจุดโทษได้ 3 ลูกหลังจากไม่กี่เดือนก่อน นายด่านไอริชวัย 23 ปี เป็นคนสังหารจุดโทษให้ลิเวอร์พูลชนะเชลซีในนัดชิงชนะเลิศคาราบาวคัพ อีกคนที่นักข่าวหลายสำนัก(เหมือน)พร้อมกันใจกันเขียนถึงคือ แรมเซย์ ดาวรุ่งวัย 19 ปี ที่เพิ่งถูกเรียกตัวขึ้นทีมชาติสกอตแลนด์ชุดใหญ่ โดยนัดนี้ คลอปป์ส่งแรมเซย์ยืนแบ็คขวาแทนเทรนท์และเจมส์ มิลเลอร์ อยู่ใกล้ๆโกเมซที่ยืนเซ็นเตอร์คู่กับนาธาเนียล ฟิลลิปส์

ก่อนหน้านี้ แรมเซย์บาดเจ็บยาวนับตั้งแต่ย้ายจากอเบอร์ดีนในตลาดซัมเมอร์ และกลับมาเรียกความฟิต 3 นัดกับชุดยู-21 ในเดือนตุลาคม เขาเพิ่งได้เล่นให้ลิเวอร์พูลแค่ 3 นาทีท้ายแมตช์ชนะนาโปลี 2-0 ส่วนพรีเมียร์ลีกก็มีชื่อติดสำรองในเกมที่ชนะสเปอร์ส 2-1

คืนวันพุธ แรมเซย์ฉวยโอกาสทองจากคลอปป์ได้คุ้มค่าทีเดียว ได้รับเรตติงเป็นรองแค่เคลเลเฮอร์คนเดียว อย่างเช่น เอียน ดอยล์ (ลิเวอร์พูล เอคโค) ให้เคลเลเฮอร์ 9 ตามด้วยแรมเซย์ 7 เท่ากับคอสตาส ซิมิคาส กับอเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, แจ็ค ลัสบี (ธีส อีส แอนฟิลด์) ให้เคลเลเฮอร์เต็มสิบ รองลงมาคือ แรมเซย์และบายเซติค 7 เท่ากัน, เดวิด โคเมอร์ฟอร์ด (ลิเวอร์พูล ดอท คอม) ให้นายทวารไอริช 10 นำห่างแรมเซย์กับเฟราเอนดอร์ฟ 7 เท่ากัน ซึ่งจะเห็นว่ากูรูทั้งสามเห็นตรงกันเป็นเอกฉันท์ว่า แรมเซย์ทำผลงานได้ดีเป็นอันดับ 2 ในทีมลิเวอร์พูล

ดอยล์เขียนคำนิยมถึงแรมเซย์ไว้ว่า “ประทับใจกับความปราดเปรียวคล่องแคล่ว มีการป้องกันที่เหนียวแน่น ขณะเดียวกันก็กระตือรือร้นที่จะขึ้นไปเติมเกมรุกทางฝั่งขวา”

ลัสบีก็หยอดคำหวานให้เด็กหนุ่มวัย 19 เช่นกัน “แสดงให้เห็นแล้วว่าทำไมเขาถูกซื้อเข้ามาแทนเนโก วิลเลียมส์ เขาสามารถรับมือกับความท้าทายเชิงสภาพร่างกาย และยังสร้างสรรค์การเดินเกมไปข้างหน้า น่าสนใจทีเดียวกับพัฒนาการระหว่างเทรนนิงแคมป์กลางซีซัน”

โคเมอร์ฟอร์ดได้ชื่นชมว่า “มีความมั่นใจทั้งตอนออนและออฟบอล ดูเหมือนเขาพร้อมแล้วที่จะรับบทสำรองของเทรนท์ เขามีส่วนร่วมกับเกมเยอะ พยายามดักในจังหวะที่ผู้รักษาประตูออกมาด้วยการโยนยาว 2-3 ครั้ง โชว์ความแข็งแกร่งด้วยแทคเกิลดีๆบ้าง อาจมีข้อกังขาเรื่องครอสบอลบ้างแต่มีจังหวะหนึ่งที่จ่ายให้ฟีร์มิโนได้สวยทีเดียว”

แม้เป็นเพียงเกมเดียวกับคู่แข่งระดับลีกวัน แถมอายุแค่ 19 เพิ่งย้ายเข้าแอนฟิลด์ไม่กี่เดือน และเพิ่งฟื้นตัวจากบาดเจ็บ แต่สัญญาณแรกจากแรมเซย์ถือเป็นข่าวดีสำหรับลิเวอร์พูลเหมือนอย่างที่ แซม สมิธ (เดลี เอ็กซ์เพรสส์) เขียนไว้ “เทรนท์มีฟอร์มไม่เสมอต้นเสมอปลายในซีซันนี้ แรมเซย์จึงเป็นตัวเลือกที่ดีหากคลอปป์จะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอะไร ทั้งคู่มีสไตล์การเล่นคล้ายกัน ดาวรุ่งสกอตต์โอเคที่จะทะลวงไปยังพื้นที่ว่างหรือผ่านบอลที่ชาญฉลาด นัดนี้แรมเซย์ครอสบอลอันตรายได้หลายครั้งเพียงแต่ลิเวอร์พูลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้เท่านั้นเอง”

เช่นเดียวกับที่ โจแอนนา เดอร์แกน (ธีส อีส แอนฟิลด์) ทิ้งท้ายไว้ว่า “เดอะเรดส์เห็นประโยชน์ที่ให้ซิมิคาสโรเตชันกับโรเบิร์ตสัน มันก็เป็นเรื่องดีสำหรับอีกฝั่งกับอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่มีจำนวนเวลาในสนามมากที่สุดเป็นอันดับ 5 (1,426 นาที) ของลิเวอร์พูลแล้วตอนนี้”

ขนาดไม่ได้นั่งเก้าอี้ข้างสนามแท้ๆ สื่อเมืองผู้ดียังอดใจนึกถึงและเขียนถึงเจ้าของเสื้อหมายเลข 66 ไม่ได้

เรียบเรียง: KMD Content Team
ภาพ: SKY Sports England

หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

โหวตเป็นกระทู้แนะนำ