#SSxKMD | วิกฤตผู้เล่นบาดเจ็บของลิเวอร์พูลเริ่มต้นที่กองกลางก่อนขยายวงกว้างไปตำแหน่งอื่นราวกับเป็นโรคระบาด ดาร์วิน นูนเญซ เป็นนักเตะคนที่ 19 ในซีซันนี้ที่บาดเจ็บทำให้พลาดลงสนามอย่างน้อยหนึ่งนัดทั้งที่เพิ่งผ่านไปได้แค่หนึ่งในสี่ของโปรแกรมแข่งขัน

มีข่าวหนึ่งที่เดอะค็อปหลายคนอาจไม่รู้คือ ลิเวอร์พูลต้องแข่งขันโดยไม่มี “คลับ ด็อกเตอร์” หรือแพทย์ประจำสโมสรที่ทำงานเต็มเวลามาตั้งแต่เดือนสิงหาคมหลังการลาออกของ จิม โมซอน ซึ่งถูกโปรโมทจากแพทย์อะคาเดมีขึ้นมารับตำแหน่งนี้ในฤดูร้อนปี 2020 โดยโมซอนทำหน้าที่ทดแทนแอนดี มาสเซย์ ได้ดีเยี่ยมระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19

เป็นเวลากว่าสามเดือนที่เบวิน แมคคาร์แทน หัวหน้าแพทย์ของอะคาเดมี และซาราห์ ลินด์เซย์ อายุรแพทย์ของสโมสร ปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว คอยดูแลสภาพร่างกายของนักเตะชุดใหญ่ในซีซันนี้ รวมถึงต้องเดินทางไปกับทีมเมื่อมีแมตช์เยือน แม้กระทั่งอันเดรียส ชลุมแบร์เกอร์ หัวหน้าฝ่ายฟื้นฟูสภาพร่างกายและศักยภาพการเล่น ยังต้องลงช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ

แต่ลิเวอร์พูลไม่ได้นิ่งนอนใจและเดินหน้าหาคลับด็อกเตอร์คนใหม่เพียงแต่ยังไม่พบบุคคลที่คุณสมบัติเหมาะสมและตรงตามที่สโมสรต้องการ รวมถึงการพิจารณาบุคลากรภายในแอนฟิลด์ไปพร้อมกัน ในขณะที่สโมสรเองก็ยังไม่กำหนดกรอบเวลาหรือเดธไลน์สำหรับแพทย์ที่จะเข้ามาทำงานเต็มเวลา ซึ่งเวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ ส่งผลต่อสภาพร่างกายนักเตะโดยรวมอย่างเห็นได้ชัดเพราะปัจจุบัน หงส์แดงมีนักเตะซีเนียร์ที่รักษาตัวให้ปลอดภัยเพียง 8 คนเท่านั้น แม้กระทั่งควีวีน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูตัวสำรองชาวไอริช ยังติดลิสต์บาดเจ็บด้วย

จากข้อมูลล่าสุดมีผู้เล่น 3 คนที่ต้องพักยาวได้แก่ ลุยซ์ ดิอาซ ซึ่งบาดเจ็บหัวเข่าจากแมตช์กับอาร์เซนอล และน่าจะกลับมาซ้อมหรือคืนสนามช่วงปลายปีเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมกองหน้า ดีเอโก โซตา ซึ่งบาดเจ็บน่องจากแมตช์กับแมนฯซิตี แต่ก็มีโอกาสเช่นกันลิเวอร์พูลอาจได้ใช้บริการสตาร์โปรตุกีสในปีหน้า แต่ที่รับประกันรอยาวถึงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ก็คือ อาร์ตูร์ เมโล โดยมิดฟิลด์บราซิเลียนตัวยืมมาจากยูเวนตุสบาดเจ็บจากการแข่งขันของยู-21

แกรม ซูเนสส์ อดีตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ซึ่งเล่นให้ทีมระหว่างปี 1978 ถึง 1984 มั่นใจว่าประเด็นความฟิตของนักเตะเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูลตกอยู่ในสภาพปัจจุบัน รั้งอันดับ 11 ของตารางพรีเมียร์ลีก ตามหลังจ่าฝูง อาร์เซนอล 12 คะแนน และแชมป์เก่า แมนฯซิตี 10 คะแนน

อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติสกอตแลนด์วัย 69 ปี ให้สัมภาษณ์ในรายการไวท์แอนด์จอร์แดน โชว์ ว่า มันไม่มีอะไรซับซ้อนเหมือนวิทยาการด้านจรวด เมื่อพิจารณาอายุของกองกลางตัวหลัก สโมสรจำเป็นต้องดูแลพวกเขาอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ เพราะนักเตะที่อายุแตะหลัก 30 ไปแล้วมีความเสี่ยงสูงที่จะบาดเจ็บกล้ามเนื้อ และการต้องเล่นในลีกสูงสุดโหดหินอย่างอังกฤษ การคืนสภาพทั้งร่างกายและจิตใจต้องใช้เวลานาน ส่วนนักเตะอายุน้อยแม้ได้เปรียบเรื่องร่างกาย แต่คำถามคือพวกเขามีจิตใจแข็งแกร่งพอที่จะรับความกดดันอย่างพรีเมียร์ลีกได้ขนาดไหน

เมื่อหันมาดูอายุของกองกลางในทีมชุดใหญ่จะเห็นช่องว่างระหว่างวัยอย่างชัดเจน เอลเลียตต์ 19 ปี, โจนส์ 21 ปี, อาร์ตูร์ 26 ปี, คิเอตา 27 ปี, ฟาบินโญ 29 ปี, ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน 29 ปี, ติเอโก 31 ปี, เฮนเดอร์นสัน 32 ปี และมิลเนอร์ 36 ปี ขณะที่กองหลังกับกองหน้าก็ไม่ได้ดีกว่ามิดฟิลด์

ในเรื่องร้ายก็ยังมีข่าวดี มีนักเตะสามคนอาจกลับมาเป็นตัวเลือกให้คล็อปป์ในแมตช์กลางสัปดาห์กับอาแจ็กซ์คือ นูนเญซ, ติเอโก และโกนาเต ส่วนคิเอตา ซึ่งคืนสนามซ้อมได้แล้ว และมาติป น่าจะต้องรอถึงเดือนพฤศจิกายน

เรียบเรียง: KMD Content Team
อ้างอิง: The Sun England

ประเด็นนี้ไม่ใช่ข้ออ้าง แต่ก็มีปัญหาไม่ใช่น้อย

ไอ้เรื่องไม่มีหมอประจำทีม สำหรับทีมระดับนี้ก็น่าด่า.. แต่ไอ้ที่น่าด่ากว่าคือ เรื่องบาดเจ็บเนี่ยมันมีแววมาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว อายุนักเตะก็เพิ่มขึ้น โปรแกรมเตะก็เยอะฉิบหายวายป่วง ซึ่งตัวคล้อปเองก็น่สจะรู้ดีที่สุด... แต่ไม่รู้จะด้วยเหตุผลอันใด ทีมกลับได้กลางเด็กอย่าง ฟาบิโอ มาคนเดียว... หน้าเพิ่มอีกคนเดียว... และออกไป 2 คน...

ส่วนตัวเชื่อว่าไม่ใช่ความผิด jk เพราะคิดว่า jk น่าจะรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ดี ว่าวันนี้แม่งต้องมาสักวันในฤดูกาลนี้... เพียงแต่แม่งมาถึงเร็วกว่าที่แกคิดแน่ๆ...