“เบนนาเซอร์” สุดเซ็งมิลานเหมือนปล่อยจอยตั้งแต่โดนสิงห์ยิงลูกสอง
อิสมาเอล เบนนาเซอร์ กองกลางของ เอซี มิลาน ยอมรับว่าทีมของเขาเหมือนถอดใจง่าย ๆ หลังจาก เชลซี ทำประตูที่สองได้ ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา
เบนนาเซอร์ โอดครวญว่า มิลาน ไม่มีความหิวกระหายที่มากพอจนทำให้พวกเขาบุกไปพ่าย เชลซี ถึงถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แบบขาดลอยด้วยสกอร์ 3-0
เกมนี้รอสโซเนรี่ขาดผู้เล่นถึง 12 คนจากอาการบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามพวกเขาดูไร้ความเฉียบคมในเกมที่ไปเยือนลอนดอน แม้ว่าจะครองบอลได้มากกว่า แต่หาโอกาสทำประตูแบบจริงจังได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นเมื่อ ชาร์ลส์ เดอ เคตลาร์ ยิงไปติดเซฟ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า และ ราเด้ ครูนิช ซ้ำข้ามคาน
"ความพ่ายแพ้แบบนี้มันเจ็บปวดจริง ๆ เพราะเราไม่มีจิตวิญญาณและความหิวกระหายที่ถูกต้อง" เบนนาเซอร์ กล่าวกับ Amazon Prime Italia
"เรารู้ว่าแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นอีกระดับหนึ่ง และเราต้องทุ่มเทให้มากกว่านี้ เราต้องเรียนรู้จากสิ่งนี้ ทำงานหนักในสิ่งที่เราทำได้ไม่ดีพอและลุกขึ้นสู้ต่อไป"
ถือเป็นความพ่ายแพ้ที่น่าผิดหวังสำหรับ มิลาน ซึ่งเกมก่อนหน้านั้นในลีกพวกเขาสามารถเอาชนะ เอ็มโปลี ได้แบบสุดดราม่า 3-1 แม้ว่าจะโดนคู่แข่งยิงตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บแล้วก็ตาม แต่ก็ยิงคืนรวด 2 ประตูชนะไปได้
"เราพยายามทำทุกอย่าง เกมแบบนี้มันมีรายละเอียดมากมาย เมื่อเราเสียประตูที่สอง มันยากและเราก็ถอดใจ เราต้องทำให้ดีกว่านี้และมีความเชื่อมากกว่านี้ เราจะกลับมาดูเกมนี้อีกครั้งและดูว่ามีอะไรผิดพลาดบ้าง" เบนนาเซอร์ กล่าวเสริม
Source:
https://football-italia.net/bennacer-milan-heads-dropped-after-chelsea-goal/
======================================================================
ต้องใช้ไม้ค้ำ! พอตเตอร์ รับไม่ชัวร์ “โฟฟาน่า” เจ็บหนักไหม
เกรแฮม พอตเตอร์ เทรนเนอร์ของ เชลซี ยอมรับเขาไม่แน่ใจว่า เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ได้รับบาดเจ็บหนักขนาดไหน หลังจากแข้งรายนี้ต้องใช้ไม้ค้ำเพื่อพยุงตัวเลยทีเดียว
พอตเตอร์ ยอมรับว่าอาการบาดเจ็บของ โฟฟาน่า ทำให้อารมณ์ในค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมสำหรับ เชลซี ที่เปิดบ้านถล่ม เอซี มิลาน 3-0 ต้องหม่นหมองไปเล็กน้อย
โฟฟาน่า เป็นคนทำประตูแรกให้กับทีมในเกมนี้และเป็นประตูแรกของตัวเองกับสโมสรด้วย ก่อนที่ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง และ รีซ เจมส์ จะทำคนละประตูให้ทัพสิงห์บลูส์คว้า 3 แต้ม
เชลซี กลับมาสู่เส้นทางของการลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์ หลังจากก่อนหน้านี้เครื่องร้อนช้า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยข่าวร้ายของ โฟฟาน่า ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในช่วงครึ่งแรกด้วยอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า
หลังจบเกมดาวเตะวัย 21 ปีต้องใช้ไม้ค้ำและอุปกรณ์ป้องกันที่หัวเข่าขวา โดยที่ พอตเตอร์ ไม่แน่ใจว่าอาการบาดเจ็บนั้นรุนแรงแค่ไหน
"เราจะต้องสแกนมันในวันพรุ่งนี้และดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้เรารายงานอะไรมากไม่ได้ แต่นั่นเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างหนึ่งในเย็นนี้" พอตเตอร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม พอตเตอร์ พูดถึงเกมนี้ว่า "มันเป็นค่ำคืนที่ดีสำหรับเรา ผมคิดว่าทัศนคติของผู้เล่นนั้นยอดเยี่ยมมาก ๆ และมันเป็นชัยชนะที่สำคัญจริง ๆ สำหรับเรา"
"เราเริ่มต้นเกมได้ประหม่าเล็กน้อยในช่วง 5 นาทีแรก ซึ่งอาจเป็นผลจากการที่เราต้องการทำมันให้ดีมาก ๆ แต่แล้วคุณเห็นความกระหายของผู้เล่นและเราควบคุมมันได้"
"แน่นอนว่าประตูแรกนั้นสำคัญ และจากนั้นเราก็เป็นรองเล็กน้อยในครึ่งหลัง เราเจอปัญหานิดหน่อยซึ่งก็ถือว่าดี และจากนั้นก็ยิงประตูที่สองได้ซึ่งทำให้เรามีเวลาหายใจได้บ้าง"
"โดยรวมแล้วผมไม่มีอะไรต้องบ่น เราเก็บคลีนชีต ยิงได้ 3 ประตู แสดงคาแร็กเตอร์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมันดีจริง ๆ"
Source:
https://www.standard.co.uk/sport/football/graham-potter-wesley-fofana-chelsea-b1030557.html
======================================================================
เซ่นฟอร์มห่วย! เซบีญ่าสั่งปลด “โลเปเตกี” พ้นกุนซือแล้ว
เซบีญ่า ประกาศปลด ฆูเลน โลเปเตกี พ้นจากตำแหน่งกุนซือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เซ่นผลงานอันย่ำแย่และล่าสุดแพ้คาบ้านให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 4-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา
ทีมดังจากสเปนยืนยันหลังจบเกมที่ รามอน ซานเชซ ปิซฆวน ได้ไม่นานว่า โลเปเตกี จะไม่ได้เป็นผู้จัดการทีมของพวกเขาอีกต่อไป
นายใหญ่ชาวสแปนิชตกเป็นข่าวเชื่อมโยงในการโยกไปคุมทีม วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่ตอนนี้กำลังไม่มีกุนซือเช่นกัน
วูล์ฟส์ ไล่ บรูโน่ ลาจ ออกจากตำแหน่ง หลังจากคุมทีมได้ 15 เดือนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่พวกเขาแพ้ให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-0
วูล์ฟส์ ทำได้เพียง 3 ประตูเท่านั้นในลีกฤดูกาลนี้ แม้ว่าจะหาโอกาสยิงได้ถึง 97 ครั้งก็ตาม และตอนนี้รั้งอยู่อันดับที่ 18 ของตารางพรีเมียร์ลีก
อย่างไรก็ตาม วูล์ฟส์ ไม่ได้รีบร้อนที่จะแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่ต่อจาก ลาจ โดยที่ สตีฟ เดวิส และ เจมส์ คอลลินส์ จะรับผิดชอบคุมทีมชั่วคราวพบกับ เชลซี ในวันเสาร์นี้แทน
สำหรับ โลเปเตกี เข้าคุมทีม เซบีญ่า ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2019 แต่เก้าอี้ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพวกเขาชนะเพียงเกมเดียวเท่านั้นจาก 8 เกมในลีกฤดูกาลนี้ ทำให้อยู่เหนือโซนตกชั้น 1 คะแนน และรั้งบ๊วยของกลุ่มในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกด้วย
นายใหญ่วัย 56 ปี เคยตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ วูล์ฟส์ เมื่อปี 2016 แต่เขาก็กลายเป็นผู้จัดการทีมทีมชาติสเปน ซึ่งเขามีช่วงเวลาที่ดีถึง 2 ปี ก่อนที่จะมีความทรงจำอันขมขื่นที่ เรอัล มาดริด เมื่อคุมทีมได้เพียง 14 นัดเท่านั้น
Source:
https://www.skysports.com/football/news/11699/12713168/julen-lopetegui-wolves-preferred-candidate-sacked-as-sevilla-head-coach
======================================================================
ฮาแลนด์เหมาสอง! เรือยังแรงต้อนโคเปนเฮเก้นเละ 5-0
ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เปิดบ้านถล่มเอาชนะ เอฟซี โคเปนเฮเก้น จนกลับเดนมาร์กไม่ถูก ด้วยสกอร์ 5-0 ซึ่งเกมนี้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กองหน้าติดบั๊กทำประตูได้อีกแล้ว จัดการเหมาสองตุง ส่วนที่เหลือมาจากจุดโทษของ ริยาด มาห์เรซ, ฮูเลียน อัลบาเรซ ที่ยิงประตูแรกในเกมยุโรป และการทำเข้าประตูตัวเองของ ดาวิต โคโชลาวา ทำให้เรือใบสีฟ้านำจ่าฝูงของกลุ่มจีต่อไป เก็บเพิ่มเป็น 9 แต้ม จาก 3 นัด
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่มจี
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
พุธที่ 5 ตุลาคม 2565
กรรมการ โดนาตาส รุมซาส (ลิทัวเนีย)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5 - 0 เอฟซี โคเปนเฮเก้น
1-0 ฮาแลนด์ 7'
2-0 ฮาแลนด์ 32'
3-0 โคโชลาวา (OG.) 39'
4-0 มาห์เรซ (PK.) 55'
5-0 อัลบาเรซ 76'
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่มี ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่เจ็บ แต่ข่าวดีคือได้ โรดรี้ ฟิตกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง แต่เกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกส่ง ฮูเลียน อัลบาเรซ ออกสตาร์ทตัวจริงในแนวรุกประสานงานกับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ หัวหอกฟอร์มร้อนแรง ทางฝั่งของ เอฟซี โคเปนเฮเก้น ภายใต้โค้ชคนใหม่อย่าง ยาค็อบ นีสตรุป ไม่มี คาร์ลอส เซก้า กองกลางคนสำคัญที่บาดเจ็บ
• เจอกัน 2 นัดก่อนหน้านี้ แมนฯ ซิตี้ ชนะ 1 เสมอ 1
7'
G O O O A A A L !!! ฮาแลนด์ ซัดด้วยขวาให้เรือขึ้นนำเร็ว
โอกาสยิงเข้ากรอบครั้งแรกของเจ้าถิ่น เจา คันเซโล่ เปิดบอลพุ่ง ๆ เข้าไปในเขตโทษ ก่อนที่ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่ตอนนี้เรดาร์การยิงประตูกำลังเข้าฝักซัดด้วยขวาเข้าไปสุดคม
12'
แบร์นาร์โด้ซัดชนเสา
เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูที่สองตามาติด ๆ เมื่อ แบร์นาร์โด้ ซิลวา มีโอกาสยิงแต่ดันไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
17'
ฮาแลนด์พุ่งโหม่งติดเซฟ
ริยาด มาห์เรซ ได้จังหวะครอสบอลเข้าไปในเขตโทษแม่นถึงหัวของ ฮาแลนด์ แต่ลูกโหม่งของหัวหอกนอร์เวย์ดันไปติดเซฟของ คามิล กราบาร่า
18'
กราบาร่าเกือบทำทีมเยือนเสียประตู
เพิ่งชมไปแหม็บ ๆ กราบาร่า ดันทะเล่อทะล่าออกบอลไม่ดีจนโดนเจ้าถิ่นฉก แต่ยังดีที่เพื่อนร่วมทีมช่วยกันเคลียร์ได้
24'
กรีลิชยิงบ้างแต่ติดเซฟอีก
เป็นจังหวะที่ แบร์นาร์โด้ สร้างโอกาสได้ แล้วจ่ายให้กับ แจ็ค กรีลิช แต่ดันยิงไปติดเซฟของ กราบาร่า
32'
G O O O A A A L !!! ฮาแลนด์ ซ้ำจ่อ ๆ เข้าไป
ต่อเนื่องจากจังหวะก่อนหน้าที่ กรีลิช ได้โอกาสส่องประตู แต่ไม่ผ่านมือของ กราบาร่า แล้วเจ้าถิ่นได้ลูกเตะมุม ริยาด มาห์เรซ เปิดเข้าไปแล้ว เซร์คิโอ โกเมซ วอลเลย์ไปติดเซฟ กราบาร่า ก่อนจะเข้าทาง ฮาแลนด์ ซ้ำจ่อ ๆ เข้าไปแบบไม่มีปัญหา
39'
OWN GOAL !!! โคเปนเฮเก้นยิงเข้าโกล์ตัวเอง
เริ่มต้นจาก กรีลิช ที่ได้บอลจากกราบซ้าย ก่อนตบเข้ามาให้ โกเมซ ยิงจากนอกเขตโทษไปติดบล็อคของ เดนิส ฟาฟโร แต่บอลมันไปเด้งเข้าทาง ดาวิต โคโชลาวา ที่ดันสกัดเข้าประตูตัวเอง
44'
เจ้าถิ่นเกือบได้ลูกสี่
แบร์นาร์โด้ มีโอกาสยิงแต่ยกบอลด้วยขวาข้างที่ไม่ถนัดข้ามคานอย่างน่าเสียดาย
45+1'
จบครึ่งแรกเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่นำห่างสามประตู ได้ทีเด็ดจากการเหมาสองลูกของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ และการทำเข้าประตูตัวเองของ ดาวิต โคโชลาวา
HALF TIME
51'
พาลเมอร์ส่องไกลติดเซฟ
โคล พาลเมอร์ ที่ลงเป็นตัวสำรองแทน ฮาแลนด์ ในครึ่งหลัง แรงกำลังเหลือล้นได้ลองซัดไกลจากนอกเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือของ กราบาร่า ที่เกมนี้โชว์ฟอร์มได้ดี แม้จะเสียสามลูกแล้วก็ตาม
55'
G O O O A A A L !!! มาห์เรซซัดจุดโทษให้เจ้าถิ่นนำห่าง
เริ่มจากจังหวะที่ มาร์โก สตาเมนิช ไปดึง อายเมอริค ลาปอร์กต์ ล้มลงในเขตโทษ และผู้ตัดสินก็ไม่รอช้าที่จะเป่าให้จุดโทษ มาห์เรซ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่มีปัญหา
71'
อัลบาเรซยิงแม่นเสา
เป็นจังหวะที่ กรีลิช ลากจี้เข้ามาก่อนจะไหลปั้นให้ ฮูเลียน อัลบาเรซ แต่มุมยิงแคบแล้วยิงไปชนเสา
75'
โคเปนเฮเก้นยิงบ้างแต่หลุดกรอบ
นาน ๆ ทีจะมีโอกาสยิง แต่อย่างไรก็ตามลูกโหม่งจากจังหวะเตะมุมของ วัลเดมาร์ ลุนด์ เยนเซ่น หลุดกรอบออกไป
76'
G O O O A A A L !!! อัลบาเรซเบิกสกอร์จนได้
หลังจากช็อตยิงของทีมเยือนเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้ เจ้าถิ่นก็ได้เล่นเกมรุก มาห์เรซ ไหลเข้ามาในให้กับ อัลบาเรซ แปเข้าไป
79'
กรีลิชยิงยังไงก็ไม่เข้า
หาโอกาสยิงจนแล้วจนรอดแต่ กรีลิช ก็ยังทำประตูไม่ได้ จังหวะนี้แนวรุกชาวอังกฤษยิงหลุดกรอบไปนิดเดียว
81'
กรีลิชดวงยังไม่มียิงติดเซฟอีก
อุตส่าห์หาจังหวะทำประตูได้อย่างเหมาะเหม็งแต่ กรีลิช ดวงยังดวงไม่สมพงษ์ เมื่อยิงไปติดเซฟของ กราบาร่า อีกครั้ง
90+1'
โกเมซเกือบยิงสุดสวย
มาห์เรซ เล่นลูกสูตรเปิดลูกเตะมุมไปให้ โกเมซ ที่รอยิงจากนอกกรอบ บอลพุ่งไปเกือบตุงตาข่ายแต่ยังไม่ผ่าน กราบาร่า เจ้าเก่า
จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่มเอาชนะ เอฟซี โคเปนเฮเก้น 5-0 ทำให้พวกเขารั้งจ่าฝูงของกลุ่มต่อไป เก็บได้ 9 แต้มแต้มจาก 3 นัด
======================================================================
By . . . Asarinho