บทความจาก The Athletic UK นะครับ

แต่ผมเอามาจากทวิตข่าวแมนยูอีกที มี 3-4 ประเด็นหลักคือ

1. เขาเคยเสนอตัวเป็น President of Football แต่ Ed ไม่ได้สนใจ

2. เขามองว่าสโมสรควรจะสนใจเรื่องนี้ และแต่งตั้งประธานแยกกันไปเลยระหว่างฟุตบอล และการตลาด -- และเขาอยากให้ใครสักคนที่มีประสบการณ์การเป็นเด็กผีมาทำหน้าที่ประธานด้านฟุตบอล

3. พูดถึงรายได้แมนยูเพิ่มเป็น 2 เท่าหลังเฟอร์กี้เกษียณตัวเอง
แต่นี้ขนาดทีมไม่ชนะถ้วยหลักอะไรเลย ถ้าชนะและมีคนคุมด้านฟุตบอลมันคงเด้งเป็น 3 เท่าไปแล้ว

4. การเป็นเจ้าของสมัยนี้มันน่าจะง่ายกว่านั้นไหม ก็ให้แฟนบอลค่อนโลกซื้อหุ้นคนละ 10-1000 ปอนด์ ก็ได้แล้วไหม แฟนแมนยูมีเป็นแสน ๆ ล้าน ๆ ถ้าบอกว่าขายหุ้นได้ 50% ซื้อคนละนิดละหน่อยก็ถึงแล้ว ก็ได้หุ้นไปอยู่ในมือแฟนบอลจริง ๆ ไม่ใช่ใครคนใดคนนึง

ผมว่าก็จริงตามแกพูดนะ

อีกเรื่องนึงที่สมควรด่าเอ็ด

โครตชัดเลยประเด็นนี้

ข้อ 4 ได้นะ

แต่สุดท้าย หุ้นแต่ละตัวก็จะค่อยๆ ถูกซื้อไปเรื่อยๆ จนจุดหนึ่งก็กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ดี

ทำแบบสเปนสิ ขายไม่ได้

โง่ไง ตั้งผอ.ฟุตบอลแต่แรก คงไม่ต้องเสียตังซื้อนักเตะเป็นพันล้าน

เผลอๆไอ้เกลเซอร์ได้ปันผลเยอะกว่านี้ แล้วไม่โดนด่าขนาดนี้ด้วย

เห็นด้วยที่กล่าวมา แต่ก็ต้องตามเชียร์กันต่อไป ไม่ว่าจะเป็นยังไง