[MUFC] ทำไมแฟนที่นั่นไล่เกลเซอร์
เห็นหลาย ๆ ท่านให้ความเห็นแบบเจมี่ ซึ่งก็ไม่แปลกว่านักเตะ รวมถึง โค้ชซิต้องรับผิดชอบผลงานในสนาม
แต่ลองฟังที่แกรี่พูด ผมว่าหลาย ๆ อย่างก็น่าคิดตาม ใครที่บอกไม่มูฟออนจากเซอร์กับเดวิด (กิลล์) ผมว่าไม่ใช่มูฟออนหรอก แต่เพราะวัฒนธรรมที่มันไม่ดี มันฝังมานาน เพียงแต่ถูกกลบด้วยผลงาน และ อำนาจของสองคนนั้น
มีการจั่วหัวเรียกแขกว่า "ตอนพูดเอ็งมองตาข้าด้วย
" แต่นี่มันก่อนเชลซีเตะกับสเปอร์สนะ ไปต่อ...
พอแนวทางเปลี่ยนเป็นเน้นสร้างรายได้ก่อน ผลงานค่อยตามมา ตรงนี้แหละปัญหา จะเห็นว่าการซื้อตัวหลัง ๆ เน้นคนดังไว้ก่อน เล่นเข้ากันไหมอีกเรื่อง ผมลองขยายความยกตัวอย่างทั้งคนที่ปังและไม่ปังนะ บาสตี้ ดิมาเรีย ซลาตัน ฟัลเกา ลูกากู เดอปาย แมคไกวร์ ซานโช่ พวกนี้ต้องบอกว่าชื่อเสียงดังก่อนมาแมนยูใช้ได้เลย แน่นอนมองเรื่องธุรกิจเหมือนไปไล่ซื้อหุ้นตอนที่มัน Perform โดยคาดหวังว่าจะสร้างกำไร (แน่นอนนอกสนามได้) แต่ผลงานในสนามเป็นเรื่องที่ต้องตามมา มันเหมือนตั้งต้นก็ผิดแล้วอ่ะแบบนี้ (ตัวอื่นผมไม่ยกนะเพราะชื่อเสียงก่อนมาอาจไม่ได้ดังมากละ นี่ยกกรณีว่ามองมุมธุรกิจก่อน)
เรื่องนึงที่ผมว่าทำให้การซื้อขายมันไม่เดินง่าย ๆ ก็เรื่องที่มาของเงินนี่แหละ
เกลเซอร์ไม่ใช่เจ้าของทีม แต่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพราะฉะนั้นไม่เอาเงินมาลงแบบ แมนซิตี้ หรือ นิวคาสเซิล
ตัดไปก็จะไม่บริหารแบบลิเวอร์พูลที่เน้นฐานแฟนบอลและวัฒนธรรม
เพราะตัวเองเป็นบริษัทมหาชน ต้องสร้างรายได้ ลองดูคลิป The Athletics อธิบายไว้ค่อนข้างเคลียร์เลย
ทั้งที่ว่าเงินที่จะซื้อขายได้มันต้องมาจาก...
1) ผลการดำเนินงาน (กำไร = Matchday + Sponsorship)
2) เงินยืม ที่มาจากการขายบอนด์ (ตรงนี้ผมไม่ชัวร์ แต่แกรี่ก็เน้นว่า Fact เลย)
ยิ่งถ้าดูหนี้สโมสรก็โต เพียงแต่ก็จะถูกอ้างว่าโตเพราะลงทุน นี่แหละเลยโยงมาว่าแฟนที่นั่นไม่พอใจ
เพราะสนามแมนยูกลายเป็น Tier 2 ไปแล้ว ศูนย์ซ้อม รวมถึงผู้บริหาร กลายเป็นใครก็ไม่รู้
เมื่อ Facility เริ่มแย่ สมมติเป็นเยาวชนเข้าใจเจอสภาพแวดล้อม ตัวที่เก่ง ๆ ก็ไปหมดแล้ว เหลือก็ผลผลิตแบบแมคโท ฮันนิบาล อีแลงก้า (แรชนับด้วยก็ได้) นี่แหละ ผมลองคิดเล่น ๆ ว่าตัวที่เด่นขึ้นมาของแมนยูมีแต่พวกตัวรุกทั้งนั้น พวกตัวรับหายไปไหน มันน่าจะเกี่ยวแหละ แต่ยังคิดสาเหตุไม่ออกจริง ๆ
วนไปเรื่องสนามตั้งแต่ที่มีข่าวตอนนู้นที่ขยายเป็น 75000 เอาจริงหลังจากนั้นผมไม่เคยได้เห็นการ Renovation แบบจริงจังเลย อ้างว่าติดทางรถไฟนู้นนี่ แต่ทุกอย่างคือเหมือนแช่แข็งไว้เกือบ 10 กว่าปีที่ตรงความจุเยอะแค่นั้น ไม่ต้องดูไกล บาร์ซ่าก็นั่นไง สนามคือห่วยกว่าโอลด์ แทรฟฟอร์ดอีกนะ ด้วยการหวัง Income ล้วน ๆ มาปีนี้ทั้งสองทีมจะทำเหมือนกันคือเริ่มแผนปรับปรุง แต่ก็ช้าไปละ แต่แมนยูหนักกว่าบาร์ซ่าเพราะรายได้มาจากพวกคนมีกะตัง กับ นักท่องเที่ยว พอโควิดรายได้หาย ทีนี้อิสระจะใช้เงินก็หายไป มันถึงได้มี Panic buy หรือ การซื้อตัวแปลก ๆ มาตลอด
โดยสรุปคือ จิมมี่ แกบอก นักเตะก็ต้องรับผิดชอบ ทำไมสมัยก่อนแกรี่ยังเล่นถวายหัว สร้างผลงานได้ พวกนี้ไม่ทำ
แกรี่ก็แย้งว่าเพราะวัฒนธรรมองค์กร ใครเข้ามาก็จากคนเก่ง กลายเป็นคนห่วย (ไม่พัฒนา) โดนกลืนไปกับวัฒนธรรมแย่ ๆ มุ่งแต่สร้างรายได้ ไม่สร้างผลงาน
อันนี้ผมลองคิดตามนะครับ ท่านใดเห็นแย้งอย่างไร หรือ แฟนทีมอื่นเชิญแสดงความเห็นได้เลยครับ