คริสคิอาโน่ โรนัลโด้ กระซวกไป 24 ประตูให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ผลงานอันสุดยอดของเขาว่ากันว่าเป็นเสาค้ำยันที่สุดสำคัญสำหรับความดึงดูดทางการค้าของสโมสรในฤดูกาลที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ของพวกเขา

ยูไนเต็ด ได้เห็นการมีส่วนร่วมกับคอนเทนท์ต่างๆ บนโซเชี่ยลมีเดียของสโมสร อย่างเช่น การแชร์ การดกไลค์ และการคอมเมนท์ พุ่งขึ้นเกือบสองเท่าตัวมากกว่า 2 พันล้านครั้งในช่วงเวลาเพียง 12 เดือน แม้พวกเขาต้องทุกข์ระทมกับผลงานภายในสนาม

การมาของ CR7 ซึ่งมีฟอลโลเวอร์ในอินสตาแกรมมากกว่า 465 ล้านบัญชี เมื่อเดือนสิงหาคม 2021 เป็นสัญญาณทำให้การทำกิจกรรมบนสื่อสังคมออนไลน์ของสโมสรเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างยิ่ง โดยกูรูทั้งหลาย ยกความดีความชอบให้เขามีส่วนสำคัญอย่างมากต่อทรัพย์สินทางออนไลน์ของสโมสรที่หันหัวขึ้นแบบไม่หยุดยั้ง

25 โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมชมชอบมากที่สุดของสโมสรเมื่อซีซั่นก่อนนั้น มี 10 คอนเทนท์ที่เกี่ยวข้องกับกัปตันทีมชาติโปรตุเกส และ 3 อันดับแรกเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเขาโดยเฉพาะ

ผลลัพธ์ดังกล่าวทำให้ ยอดทีมจากโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กลายเป็นสโมสรที่ได้รับความนิยมบนสื่อสังคมออนไลน์มากที่สุดในโลก แซงหน้า บาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด เป็นครั้งแรกในแง่ของการมีส่วนร่วมกับคอนเทนท์

ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนั้นมีความสำคัญมาก เพราะสปอนเซอร์ทางการค้ามองไปยังการมีส่วนร่วมบนสื่อสังคมออนไลน์ ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจว่า จะนำเงินไปลงทุนที่ไหน เท่าไหร่ จำนวนของผู้มีส่วนร่วมกับคอนเทนท์ต่างๆ นั้น ได้รับการพิจารณาว่ามีความสำคัญมากกว่าจำนวนฟอลโลเวอร์ ที่ปรากฏ

ความใหญ่โตของ "โรนัลโด้ เอฟเฟ็คต์" นั้น นักวิเคราะห์ทางการเงินเชื่อว่า อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังความพยายามรั้งตัว โรนัลโด้ ไม่ให้ย้ายออกจากสโมสรไปในซัมเมอร์นี้

"โด้" ร้องขอย้ายสังกัด และไม่ได้มารายงานตัวซ้อม รวมถึงปฏิเสธเดินทางทัวร์ปรีซีซั่นตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมแล้ว และจนถึงตอนนี้ เรื่องราวทุกอย่างก็ยังอึมครึมไม่มีอะไรชัดเจน ท่ามกลางเหตุผลหนึ่งเดียวคือ "เรื่องครอบครัว"

"มูลค่าทางการค้าของเขาจะมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจของสโมสรที่จะปล่อยเขาย้ายไป" ด็อกเตอร์ ร็อบ วิลสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจการกีฬาที่มหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ ฮัลเลม กล่าว

"ยูไนเต็ด ไม่ได้สนใจเรื่อง ปอล ป็อกบา ย้ายออกไป แต่การสนทนาหลังฉากเรื่องของโรนัลโด้นั้น มันยิ่งใหญ่กว่ามาก มันเป็นอะไรที่มากกว่าเกมๆ หนึ่ง"

"การเซ็นสัญญากับนักเตะแบบเขาทำให้พวกเขายังอยู่บนหัวตารางในแง่ของพัฒนาการทางการค้า แทนที่จะร่วงลงไปตามหลังซึ่งพวกเขาน่าจะเป็นแบบนั้นหากพิจารณาเรื่องของฟอร์มการเล่นของสโมสร"

"นี่คือเหตุผลว่าทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่ต้องการขายเขาออกไปในซัมเมอร์นี้ มูลค่าทางการตลาดของเขาในฐานะนักฟุตบอล มีค่าน้อยกว่ามูลค่าของเขาในทางการค้าโดยรวม"

ด็อกเตอร์วิลสัน ยังกล่าวอีกว่า การทำสัญญาทางการค้าครั้งล่าสุดของยูไนเต็ดนั้น ที่ไปนำเอาบริษัท DXC ซึ่งทำธุรกิจเทคโนโลยีทั่วโลก มาเป็นสปอนเซอร์แขนเสื้อ มูลค่า 20 ล้านปอนด์ต่อปี คือตัวอย่างของ "โรนัลโด้ เอฟเฟ็คต์"

"นี่คือสปอนเซอร์แขนเสื้อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกเลย" กูรูธุรกิจการกีฬา กล่าวต่อ "และนี่คือทีมที่จบด้วยอันดับ 6 บนตารางคะแนน"

"สิ่งที่สปอนเซอร์ต้องการคือการมีส่วนร่วม พวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องของฟอลโลเวอร์หรอกนะ การมีส่วนร่วมพุ่งพรวดภายใต้การมาของโรนัลโด้"

ตอนนี้ ยูไนเต็ด ยังมองหาทางทำสัญญาฉบับใหม่กับสายการบินอื่น หลังแยกทางกับ Aeroflot เพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังพยายามมองหาสปอนเซอร์สนามซ้อมเพิ่มเติม ดังนั้น การรั้งตัวเจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัยให้อยู่กับทีมต่อไปนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด

ไม่เพียงเท่านั้น มีรายงานว่าบรรดาสปอนเซอร์ที่ยังคงอยู่ พยายามกดดันอย่างหนักโดยพุ่งเป้าไปที่บอร์ดบริหารของสโมสร เพื่อรับประกันว่า ซุปตาร์โปรตุกีส จะได้แอ็คท่าต่อไปในฤดูกาลหน้า ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาควักเงินลงทุนไปมาก ย่อมอยากเก็บเกี่ยวผลผลิตต่อไปอีกอย่างน้อย 2-3 ปี ไม่ใช่ระยะเวลาเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น

บรรดาคนใหญ่คนโตของ "ปีศาจแดง" ก็เหมือนกับพาร์ทเนอร์ของพวกเขา ที่ทราบดีว่า โรนัลโด้ นำพาอะไรมาให้กับสโมสร และโรนัลโด้ จะพรากอะไรไปเมื่อเก็บข้าวของย้ายสังกัด

ยูเวนตุส มีพัฒนาการโดดเด่นบนสื่อออนไลน์ระหว่างช่วงที่ โรนัลโด้ ค้าแข้งในเมืองตูรินนาน 3 ปี แต่ผลการวิเคราะห์จาก Conviva บริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องโซเชี่ยลมีเดียและสตรีมมิ่ง แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งเลยว่า พวกเขาประสบปัญหาอย่างหนักเมื่อ โรนัลโด้ ขึ้นเครื่องมุ่งตรงมายังแมนเชสเตอร์ เมื่อซัมเมอร์ก่อน

"ผลประโยชน์ในการมีเจ้าพ่อโซเชี่ยลอย่าง คริสติอาโน่ โรนัลโด้ อยู่ภายในทีมของคุณนั้นมันมากกว่าความสามารถในเชิงลูกหนัง" นิค ไซเซโร่ รองประธานฝ่ายกลยุทธิ์ของ Conviva เผย

"คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เป็นคนที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลก ด้วยหลายเหตุผล แต่อย่างแรกที่สำคัญที่สุดคือ ความเป็นที่นิยมชมชอบของฟุตบอลยุโรป"

"ไม่มีกีฬาอื่นใดในโลกที่ควบคุมการมีส่วนรวมและการติดตามได้เหมือนกับลีกของฟุตบอลยุโรปแล้ว"

"ประกอบกับความมีเสน่ห์ดึงดูด ช่างพูดช่างจา และความสามารถเฉพาะตัวที่แสนโดดเด่นอย่าง คริสติอาโน่ ทำให้คุณมีสูตรสำเร็จในการประสบความสำเร็จบนโซเชี่ยล"

ปฏิเสธไม่ได้ว่า โรนัลโด้ คือผู้นำเทรนท์ของวงการแฟนดอมฟุตบอล ซึ่งได้รับความสนใจจากบรรดาสโมสรใหญ่น้อยมากมาย

เมื่อ 2 ปีก่อน สโมสรใหญ่ต่างๆ ตกตะลึงกับผลการศึกษาแฟนๆ ของคณะกรรมการสมาคมสโมสรฟุตบอลยุโรป ที่นำโดยอันเดรีย อันเญลลี่ บิ๊กบอสยูเวนตุส

การศึกษาดังกล่าว เปิดเผยว่า การขยายฐานแฟนบอลทั่วโลกนั้นประสบความสำเร็จ แต่กลับมีรายละเอียดระบุไปอีกว่า บรรดาแฟนบอลหนุ่มสาวในสมัยนี้นั้น ความชื่นชมชื่นชอบต่อสโมสรหนึ่งสโมสรใด เกิดจากความคลั่งไคล้ต่อนักเตะคนใดคนหนึ่งมากขึ้นไปด้วย

แม้เรื่องดังกล่าวอาจไม่ได้มีมากมายในเกาะอังกฤษ แต่ตลาดฟุตบอลแห่งอื่นนั้น อย่างเช่นในอินเดีย ที่มีประชากรมากกว่า 1.4 พันล้านคน ทางเลือกต่างๆ ของสโมสร อาจถูกชักนำด้วยนักเตะที่มีอิทธิพลมากกว่าครึ่งหนึ่ง

ตอนนี้ โรนัลโด้ กำลังใช้ชีวิตพิสูจน์ให้เห็นว่า สโมสรใดสโมสรหนึ่งสามารถขยับขยายหรือเพิ่มเติมรายได้ของสโมสรผ่านนโยบายการซื้อขายนักเตะ แม้จะอยู่ในช่วงขาลงของผลงานในสนาม

รายรับที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นไม่ใช่แคเรื่องของการขายเสื้อแข่งเพียงอย่างเดียว แต่สโมสรอื่นๆ สามารถขยับขยายฐานแฟนบอลจากพาร์ทเนอร์ทางการค้าระดับโลกของพวกเขาด้วย

ดังนั้นในอนาคต นักเตะระดับซูเปอร์ป็อปปูล่า อาจสามารถช่วยสโมสรยักษ์ใหญ่ต่างๆ ให้รอดพ้นจากผลงานลุ่มๆ ดอนๆ ในสนามได้ เหมือนกับที่ โรนัลโด้ แสดงให้เห็นกับยูไนเต็ด ซึ่งช่วยให้พวกเขามีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเหมือนเดิม

"ผลประโยชน์ของคนเด่นคนดังระดับไฮน์เอนด์บนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นผลมาจากการนำเจ้าพ่อโซเชี่ยลอย่าง คริสติอาโน่ เข้ามาอยู่ภายในทีมนั้น ไม่สามารถมองข้ามได้หรอกนะ"

"เราคาดว่าสโมสรและทีมกีฬาต่างๆ ทั่วโลก จะลงทุนสร้างแบรนด์ส่วนตัวของนักเตะขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างการเติบโตให้กับแบรนด์ของตัวเองในอนาคตอันใกล้นี้" ไซเซโร่ เผย

ที่ยูไนเต็ดนั้น จำนวนการมีส่วนร่วมในโพสต์บนโซเชี่ยล เพิ่มจาก 1.1 พันล้านครั้งก่อนที่โรนัลโด้มา เป็นมากกว่า 2 พันล้านครั้งเมื่อปีก่อน ซึ่งแต่ละโพสต์นั้น จำนวนการมีส่วนร่วมโดยเฉลี่ย มากขึ้น 75,000 ครั้ง Conviva สรุปในรายงาน

ดีขนาดนี้ทำไมไม่มีใครเอา

เห็นข้อดีการมีโด้แบบนี้แล้วทีมไหนอยากมีfcเพิ่มสปอร์นเซอร์เข้าเยอะๆก็รีบมาซื้อโด้ไปเร็วๆเถอะ

ในมุมธุรกิจ การมีโด้ยังไงก็ดีกว่าไม่มี มีโด้อยู่ก็เหมือนทีมได้ไป UCL (ในเรื่องรายได้นะ) ทีมขายสปอนเซอร์ก็ได้แพงขึ้น ยอดขายเสื้อก็แพงขึ้น เรตติ้งทีวีก็ดีขึ้น

ในมุมฟุตบอลยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผลงานและความสามารถบอกทุกอย่างอยู่แล้ว หวังว่าจะเคลียร์กันได้เร็ววัน

ไม่มีใครใหญ่กว่าสโมสรครับ แม้แต่ตำนานก็เถอะ ผมอยากเห็นทีมสปิริตภายใต้การคุมทีมของเทนฮาก

โคตรอิทธิพลแห่งวงการฟุตบอลไม่แปลกที่จะทำตัวใหญ่กว่าสโมสร ฝั่งโด้เองก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเองมีความได้เปรียบในการคุมเกมส์ได้ดีกว่าแต่ฝั่งแมนยูก็ต้องตัดสินใจเด็ดขาดเหมือนกันโดยคำนึงถึงความสำคัญของฟุตบอลเป็นอันดับแรกถึงเรื่องธุรกิจจะสำคัญเช่นกัน

ห้ า ม ผ ว น

เอาให้มันจบๆไปว่าจะอยู่หรือจะไป

ในแง่ธุรกิจโด้ เมส ยอมเยี่ยม เจ้าของทีมไหนก็สน แต่ในแง่ฟุตบอล การที่โด้ต้องการันตีตัวจริง กับทีมที่มีคุณสมบัติ ลุ้นแชมป์ อยู่ในระดับสูง เล่น ucl จ่ายค่าเหนื่อยไหว หาโคตรยาก สุดท้ายคงอยู่ต่อเพราะหาที่ลงไม่ได้ ฟันธง

ผมไม่ชอบฟุตบอลเชิงธุรกิจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโด้มันก็เก่งแหละ แต่ก็อย่างที่เคยเม้นท์ไว้กระทู้นึง ถ้าโด้อยู่นักเตะในทีมมันจะปล่อยของไม่ได้เต็มที่

โด้ถึงไม่อยากเล่นยูโรป้า มันเสียแบรนCR7
เขาเป็นMr.UCL ยูโรป้ามันไม่คู่ควร
จะเอาแบบยืมตัวไปปีนึง แล้วปีหน้าถ้าผีได้ไปUCLค่อยกลับมาเตะอีกที ถ้าผียอมนี้ธุรกิจล้วนๆ
ยังงี้ก็ได้รึ หุหุหุ

แมนยู เสียเจ้าพ่อโซเชียลไปแล้ว 2 ป๊อกลิน

ผวนซะ อย่าฝืน

ผมยังยืนคำเดิมว่าดีใจมากเลยที่โด้ออกจากมาดริด ตอนนั้นก็ขอบคุณที่ทำอะไรไว้มากมาย แต่ก็ต่างฝ่ายต่างพึ่งพากัน แต่ผมมาไม่ชอบโด้ตอนแม่งเริ่มเปลี่ยนไป เพื่อนยิงตัดหน้า ตัวเองไม่ได้ยิงก็ไม่แสดงอาการดีใจกับเพื่อน เฆ่เซ่หรือโมราต้าไม่จ่ายแม่งโวยวายจรเด็กมันเสียความมั่นใจ แย่งชาบี้ยิงจุดโทษ โวยวายเพื่อนตลอด ตอนนั้นหลายคนแม่งบอกแพสชั่นแต่ผมว่ามันดูแนวเห็นแก่ตัว โดนเปลี่ยนตัวก็โวยวาย เอาตรงว่าทั้งทีมแม่งเล่นเพื่อโด้จริงๆช่วงนั้น เพื่อนๆก็รักแกมากกลุ่มโด้ทั้งเบนซ์ มาเซโล่ จริงๆมาดริดเสียดาวรุ่งนักเตะดีๆไปเยอะพอสมควร ถ้าไม่เทพจริงเล่นกับแบบนั้นยากมาก ในช่วง3-4 ปีหลัง ที่แกเริ่มไปกับบอลเองไม่ได้