ที่ผมเห็นข้อดีคือ มีคอนเน็คชั่น เส้นสาย ช่วยเหลือกันสามัคคีกัน ใครเดือดร้อนก็มีคนในรุ่นที่สนิทกันให้ความช่วยเหลือได้ แต่ในมุมฝั่งตรงข้ามคงมองว่าไม่เป็นธรรม

อยากทราบว่าอาชีพที่มีรุ่น ในมุมมองพวกคุณมีข้อดี - ข้อเสีย อย่างไรบ้างครับ

ข้อเสียต่อส่วนรวมแน่นอน

อาชีพที่มีรุ่นคืออะไรครับ

ตัดเรื่องความเป็นธรรม ไม่เป็นธรรมเลย

แต่ในมุมมองผม เป็น HR ระบบอุปถัมป์นี่โคตรถ่วงความเจริญและน่าเบื่อมาก
ไม่ว่าจะเป็นระบบรุ่น สถาบัน ญาติ พี่น้อง เด็กเส้น เด็กฝาก
ผมแอนตี้เรื่องนี้ในองกรค์มากๆ ถึงจะยังไม่ค่อยสำเร็จก็ตาม

เคยทำงานในองค์กรที่มีรุ่นอยู่
เมื่อเรียนจบ ก็เข้าทำงานเป็นรุ่นๆ เราก็จะมีไลน์กลุ่ม มีงานรวมรุ่นกัน ก็จะค่อนข้างสามัคคีในรุ่นเรา
และแน่นอน หากมีปัญหา เราก็จะช่วยรุ่นเราก่อน

แล้วส่วนมากรุ่นน้องก็จะเคารพรุ่นพี่

ตอนนี้มาทำงานในองค์กรที่ไม่มีรุ่น มาจากหลากสี โคตรแก่งแย่งกัน
ใครพลาดพลั้ง พวกต่างสีรุมแทงไม่ยั้ง

ข้อดีต่อเมื่อตัวเองได้ผลประโยชน์ครับ ถ้าเสียประโยชน์มีเเต่ข้อเสีย

แสดงว่าข้อดีคือ ถ้ามีรุ่นคือสามัคคี ช่วยเหลือกัน มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ข้อเสียคือ คนนอกรุ่นที่เป็นคู่กรณี จะเสียเปรียบเวลามีปัญหาเรื่องงานใช่ไหมครับ เพราะรุ่นจะช่วยเรา อีกฝั่งคือตัวคนเดียว

ส่วนที่ทำงานไม่มีรุ่น
ข้อเสีย คอนเน็คชั่นน้อย มีปัญหาคือตัวใครตัวมันใช่ไหมครับ
ข้อดี แต่อาจจะเป็นข้อดีให้ฝั่งตรงข้ามสู้ได้อย่างยุติธรรมขึ้น

ที่เก่า(บริษัทฝรั่ง)นับรุ่นในเดือนที่เข้ามาเริ่มงาน สนิทกันเพราะ orientationนาน2-3สัปดาห์ ทุกตำแหน่งทุกแผนกจัดให้เป็นรุ่นเดียวกัน โดยใครตำแหน่งใหญ่สุดก็เป็นประธานรุ่น
แต่ก็เหนียวแน่นกันไม่กี่เดือนก็แยกย้ายตัวใครตัวมันครับ

ในแง่ของการทำงาน หากเราเป็นพนักงาน ผมเลือกแบบแรกนะ คือแบบมีรุ่นนะ

รุ่นมีได้ ถ้ามีไว้เพื่อพบปะเฮฮา สังสรรค์ ปรับทุกข์ คุยสารทุกข์สุขดิบ แต่มีแล้วจะแย่ขึ้นมาทันที ถ้าเอามาช่วยเหลือเรื่องงาน เส้นสาย หรือผลตอบแทน

เพราะฉะนั้นบางคนจึงรู้สึกว่าการมีรุ่น มันนำไปสู่การ เอื้อผลประโยชน์ จึงมีแนวคิดที่ต่อต้านรุ่นขึ้นมา

แต่ถ้าคุณมืออาชีพพอ ต่อให้มีรุ่น มีความสัมพันธ์ มีเลือดเนื้อเชื้อไข คุณก็จะแยกออกว่า อะไรควรไม่ควร อย่างเช่นเราดึงรุ่นน้องมาทำงานได้ แต่เราไม่ควรเอาตัวเองเป็นผู้ตัดสินว่าเค้าควรจะเข้ามาทำงานหรือเปล่า ก็ปล่อยให้รันตาม process ไป เราแค่ยื่นโอกาสให้เค้าพอแล้ว

ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ มันมีคนบางกลุ่มที่แยกไม่ออก ช่วยไปหมดทุกอย่าง ไม่สนว่า คนอื่นเป็นยังไง กูจะเอาแต่รุ่นกู

ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่สังคมรับไม่ได้อย่างมาก

วศ นี่บอกตรงๆเข้มข้นพอใช้ได้เลย รุ่นพี่ดึงรุ่นน้อง เคยไปเจอรุ่นน้องที่ทำงานที่ก่อนหน้าแล้วฟอร์มดี เลยดึงมาร่วมงาน

สารพัดจะมี เก่งไม่กลัว กลัวเส้นไม่ใหญ่นี่ไม่เกินใจจริงๆนะ สำหรับ วศ เนี่ย เพราะผมเคยมีประสบการณ์ตรงเลย

เคยสมัครบริษัทใหญ่ที่นึงเพราะเพื่อนบอกคนขาด เราก็สมัครผ่าน Jobdb ไปเลย สัมภาษณ์เสร็จเรียบร้อย คนเหลือ 3 คนเอา 2

แล้วเมเนเจอร์เค้าก็๋มามาเล่าๆให้น้องๆที่กินข้าวด้วยกันว่าเค้ามีในใจอยู่แล้ว เด็กเค้าเองตั้งแต่บริษัทเก่าเค้า ดึงมาช่วยงาน

แต่ในห้องประชุมที่เค้าคุยกัน เค้าคัดมาเหลือ 3 ซึ่งมีผมในนั้น แต่พอสุดท้าย เมเนเจอร์เป็นคนเลือกเค้าก็เลือกเด็กเค้า 2 คน

ในวงกว้างยังมีโรงงานสีชมพูอีกหลายแห่งในประเทศไทย ซึ่ง connection เค้าแข็งแรงมาก

เข้าเนื้อหา จขกท

ข้อดี : ผมว่าก็มีนะ เพราะถ้าเป็น connection แบบมาจากการผ่านงานมาด้วยกัน มันเข้าขากลับเมเนเจอร์ได้คุยกันรู้เรื่อง

การทำงานมันก็ง่าย สถาบันก็หล่อหลอมเด็กออกมาในรูปแบบใกล้เคียงกัน เป็นตัวคัดกรองอย่างนึง ซึ่งแทบไม่ต้องได้คนทำงานไม่เป็น

ข้อเสีย : แน่นอนเป็นการปิดโอกาสคนใหม่ ปิดโอกาสบริษัทให้เจอคนที่มีความเหมาะสมมากกว่า

Nepotism อ่ะนะดี

โอเครตามนั้น

ผมไม่เคยทำงานประจำที่มีรุ่น แต่เคยอยู่สมาคมนึงที่ช่วยกันทำงานแล้วมีรุ่น เอาจริงๆน่าเบื่อ บางทีเห็นรุ่นพี่เสนอความคิดออกมาแล้วคนจะเห็นดีเห็นงามกันหมด ส่วนน้องๆจะนั่งเงียบๆกัน แล้วเวลาไปเมากับพี่บางทีแกก็ชอบเปรยๆว่าแกก็ไม่ได้อยากให้ทุกคนทำตามตลอดหรอก แต่น้องไม่ค่อยออกความเห็นกัน เลยเสนอไอเดียแกไป

… ก็อยากบอกแกเหมือนกันว่าเพราะความเป็นรุ่นนี่แหละ มันทำให้น้องๆมันไม่กล้าพูด กลัวผิด กลัวพี่ไม่ถูกใจ

ถ้ารุ่น ที่มาจากว่าทำงานล็อตเดียวกัน สังคมไม่ค่อยมองว่าเป็นปัญหาเท่า รุ่นที่มาจากสถาบันหรือเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งอย่างหลังมันกลายเป็นเรื่อง "เส้น" ไป ตัดโอกาสคนใหม่ๆ มีฝีมือกว่าไปเลย

พวกรุ่นที่มาจากล็อตเดียวกัน เต็มที่ก็คือพวกสนิทกันจะนัดเที่ยว นัดแจ้งข่าว หรือถ้ามีตำแหน่งอะไรน่าสนก็จะบอกก่อนคนอื่นไรงี้ แต่จะไม่ได้มีผลกับการประเมิน การตัดสินใจอะไรครับ