หลายคนในโซเชียลบอกว่า จริงๆสิ่งที่ชัชชาติทำที่ทำงานตั้งแต่เช้าถึงดึก ไม่ได้หยุดเสาร์ อาทิตย์ คือมาตรฐานการทำงานปกติของประเทศที่เจริญแล้วนั่นแหละ
แต่เพราะเมืองไทยขาดแคลนผู้นำแบบนี้มานาน คนในสังคมเลยว้าวไปเอง

เลยอยากรู้ว่า นักการเมืองที่ทำงานมากกว่ามาตรฐานในประเทศที่เจริญแล้ว นี่ต้องยังไงครับ ลองยกตัวอย่างหน่อย

แบบปรีชา จันโอชา งัยฮะ

ทำเกินมาตรฐานจนเข็มไมล์ตีกลับ..ปีนึงมี 365 แกทำงานไป 371 วัน จนเลขไมล์น็อครอบกลับมานับได้แค่ 6 วัน

มาตรฐานสูงเกิ้น ถ้าบอกชัชชาติทำตามมาตรฐานแบบที่ควรจะเป็น

ตื่นมาก็เจอ ชัชชาติ ผมกินข้าวเช้าไลฟ์ชัชชาติก็เด้ง กินข้าวเที่ยงก็เด้ง กินข้าวเย็นก็เด้ง
ตึ้งๆทั้งวัน นี่วัดแค่ตอนไลฟ์นะ แค่เห็นก็เหนื่อยแทนละ

เอาแบบไม่อวยเลย คิดว่าจะมีสักกี่คนทำได้แบบนี้ ไม่นับปั้นธุรกิจตัวเองนะ
ผมว่าถ้าคาดหวังให้ทุกคนทำแบบ ชัชชาติ ทำ ประเทศนี้คงเป็นประเทศในอุดมคติจัดๆ

คงต้องนอนที่ออฟฟิศไปเลย

ทีนี้ให้ชัชชาติไลฟ์24ชม เป็นบ้านเอเอฟ ไปเลยดีมะ

สลิ่มจะทนไหวไหมล่ะ อกแตกตายก่อน

นั่นสิ มาตรฐานต้องสูงขนาดไหนกัน

ถ้าจะนับเรื่องปริมาณการทำงานเป็นมาตรฐาน
(อดีต)สส เขตของพรรคพลังประชารัฐแบบพรี่แป้งก็มาตรฐานเดียวกับชัชชาติอะ ลงเขต/พื้นที่ เอาหน้า ใส่ซองงานบุญ/งานศพ ทำทุกวันไม่แพ้ชัชชาติ

เลยขอพูดถึงคุณภาพเลยดีกว่า
ตอนนี้นึกออกเลยคนนึง คือ แม้ว

ผมก็เป็นคนนึงที่บอกว่าแกตามมาตรฐานนะ แต่หมายถึงในส่วนของการบริหาร ที่รู้จักประสานงานลัดขั้นตอน เอาเทคโนโลยีมาจัดการ ปรับพวกเรื่องแปลกๆให้เข้ารูปเข้ารอย ทำอะไรให้โปร่งใส คือบ้านเรามันไม่มีแบบนี้มานานไงวันนี้ลุงตวยยังให้สะสมสแตมป์อยู่เลย ไหนจะเรื่องชุดลูกเสืออีก

ส่วนเรื่องทำงานตลอดเวลาทุกวัน เช้ามืดยันค่ำนี่เกินมาตรฐานมาก งานบางอย่างผู้บริหารอย่างแกไม่ต้องลุยเองด้วยซ้ำแต่แกก็ทำ

ผมว่าเกินมาตรฐานนิดนึง คือทำ 7 วัน ผู้บริหารที่รู้จักก็ประมาณนี้แหละครับ ทำงานทุกวัน

แต่ข้อดีของแกคือ super productive มากๆ บริหารจัดการเวลาโคตรเก่ง ทำงานขนาดนี้ ชีวิตส่วนตัวก็ยังมีเหมือนเดิม

คุณต้องแยกก่อนนะครับ ว่า ชช เขาเข้ามาทำงานในตำแหน่ง ผู้ว่า กทม ไม่ใช่ตำแหน่งพนักงานบริษัททั่วไป requirement ที่ดีของนักการเมือง งานการเมืองคือ ผู้บริหาร ที่เข้ามาเป็นตัวแทนประชาชน บริหารประเทศโดยได้รับผลตอบแทนเป็นเงินเดือน ซึ่งมาจากภาษี ปชช เพราะฉะนั้น ตำแหน่งเขาก็คือผู้บริหาร ซึ่งผู้บริหารที่ดีส่วนใหญ่ productivity ต้องสูง มาก ไม่ใช่นั่งๆนอนๆไปวันๆไม่งั้นองค์กรจะไปไหนได้ไง ผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการที่เก่งๆ เขาไม่ได้ทำเพราะตัวเงิน ตัวเงินคือรางวัลตอบแทน ของ passion ที่เขามี ถ้าเราเอา กรอบของพนักงาน 9-5 เข้าไปมอง ชช ก็ดูจะไม่ work life balance แต่ถามหน่อย ผู้บริหารเทพๆแบบระดับ musk หรือ steve job เขามี work life balance รึเปล่า พวกนี้นี้คือ วิ่งใส่เป้าหมายอย่างเดียว เราควรจะดีใจ และมอง ชช เป็นตัวอย่างที่ดี และมาตราฐานที่ดีของ นักการเมือง รวมถึงตัวเราเองหากว่าเรามีเป้าหมายที่อยากจะไปให้สุดทาง เติบโต ในชีวิต แต่หากว่าชีวิต ชอบแบบ slow life work life balance ก็คงไม่เหมาะที่จะเอา ชช มาเป็นมาตราฐานครับ แต่ถัาสำหรับคนที่ set bar ไว้สูง ผมว่าเหมาะสมเลยทีเดียว

จำลุงตู่ไม่ได้หรอ ประชุมด่วนเรื่องโควิตแต่รอวันจันทร์นะ เสาร์-อาทิตย์ขอพักแป๊ป

ปล.ราชการบ้านเรามาตรฐานมันต่ำเกิน ชัชชาติเค้าก็ทำตามปกติมันเลยดูว๊าวไง

แบบชัชชาติเรียกทำเกินมาตราฐานได้เต็มปากเเล้ว
เพราะทำเกินเวลา เเละทำเกินวัน เเละใน 1วัน ทำงานตลอดวันจริงๆ
ซึ่งคนเป็นนักการเมืองทุกคนมันควรต้องทำเเบบนี้ ถ้าคิดจะมาบริหารจริงๆ

ถ้าตามสื่อก็ถือว่าเกินมาตรฐานชายไทยครับ
แต่พูดไปเดี๋ยวก็จะมีคนเถียงว่าคนอื่นทำเยอะกว่านี้แต่ไม่ออกสื่อก็มีเยอะแยะ
ลุงแถวบ้านผมยังยืนเถียงคอเป็นเอ็นเลยว่าแกทำเพราะโดนสั่งให้ทำ เพื่อหาเสียงให้พรรคใหญ่

ถ้าเทียบกับเอกชน ผมต้องบอกว่าระดับ top ของเอกชนครับที่จะบ้างานได้ขนาดนี้ มีโอกาสไปสัมมนาตลาดหุ้นบ้าง หรือรู้จักเพื่อนที่ทำงาน consult ที่ต้องทำงานดึกๆ หลายๆผู้บริหารก็ไม่ได้ทำงานหนักขนาดนี้ครับ หรือ consult ที่ดึกก็เป็นเฉพาะช่วงที่มี project ครับ ไม่ใช่ 24/7 แบบนี้ สำหรับผมยังไงก็ไม่ใช่มาตรฐานปกติครับ

ท่านชัชชาติ เป็นตัวอย่างที่ดีเลยครับ คนจะเสียสละมาทำงานเพื่อประเทศชาติ ร่างกายมันต้องพร้อมด้วย

ไม่ใช่มานั่งหลับในที่ประชุม เดินก็จะสดุดขาตัวเองตายละ

คือเรื่องมาตรฐานมันอยู่กับที่ว่า เราเอาไปเทียบกับอะไร
เทียบกับมาร์ค หรือ อีลอน หรือเทียบกับค่าเฉลี่ยผู้บริหารทั่วๆไป
เถียงกันไปก็ไม่จบหรอก

แต่สำหรับผม ก็ลองดูคนที่อายุในช่วง 55-60 ที่เป็นผู้บริหาร ว่ามาตรฐานโดยทั่วๆไปเปนยังไง