ได้รับข้อมูลมาแชร์เป็นวิทยาทาน เผื่ออนาคตใครต้องการจะย้ายมาทำหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ

ไม่ขออ้างอิงถึงชื่อหน่วยงานนะครับ เอาแค่ว่าถ้าพูดชื่อบริษัทไปคงร้อง อ๋อ

ถ้าให้ ranking น่าจะอารมณ์น้องๆบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่

. . . . . . . . . . . . . . . . . .

เวลาน้ำลด ตอจะผุด
เวลาน้ำลด เราจะเห็นว่าใครแก้ผ้าว่ายน้ำ
เวลามีปัญหา เราจะรู้ว่าบริษัทที่ว่าดีนักดีหนา มันดีจริงหรือไม่
ไม่รู้เหมือนกันว่าสุภาษิต หรือคำไหนจะใช้เปรียบเทียบได้ แต่ก็คงอารมณ์นี้ล่ะ

จากที่รายได้อู้ฟู่ กับสวัสดิการขั้นเทพ
เมื่อเจอโควิด มันส่งผลกับธุรกิจของหน่วยงานโดยตรงแบบเต็มๆ
ทีนี้แหละเห็นเรื่องการจัดการแก้ปัญหาของหน่วยงาน

ฝ่ายปฏิบัติการ ทำหน้าที่ตามเดิม โดยถูกตัดค่าใช้จ่ายต่างๆมากมาย
กลับกัน ทางฝ่ายซัพพอร์ท ได้โดนให้ WFH ตามมาตรการ โดยได้รับเงินเดือนเต็ม
ทีนี้แหละ การ WFH = NO WORK

เมื่อฝ่ายปฏิบัติการติดต่อไป จะได้รับแจ้งมาว่า "วันนี้พี่WFH เดี๋ยววันที่เข้าออฟฟิศจะดูให้นะ"
แล้วคำว่า "พี่" ในที่นี้ คือพวกลุงๆ ป้าๆ อายุงานไม่ต่ำกว่า 10 ปี
ก็ลองคิดดูว่าพวกรัฐวิสาหกิจที่อายุงานสองหลักนี่เงินเดือนจะขนาดไหน
หุ้นปันผล ที่ถือเป็น passive income นี่กระจอกไปเลย เพื่อเทียบกับการ WFH ที่รับเงินเดือนเต็มๆ

จากวันนั้นจนวันนี้ ก็2จะ3ปี แล้ว ก็ยัง WFH กันอยู่
ทุกวันนี้ ผลประกอบการก็คือขาดทุนยับๆ รายจ่ายเป็น2เท่าของรายรับ

ใครดูก็รู้ว่าเกิดจากอะไร แต่มันทำอะไรไม่ได้
อารมณ์เหมือนเรารู้ว่าเป็นมะเร็งตั้งแต่ระยะแรก แต่ทำอะไรไม่ได้
ต้องรอให้ลามจนระยะสุดท้าย แล้วค่อยรักษาตามอาการ

ถ้าไม่ใช่หน่วยงานที่ผูกขาดธุรกิจทางด้านนี้ บอกเลยว่าตามรอยสายการบินแห่งหนึ่งอย่างแน่นอน

นี่ยังไม่พูดหนึ่งเหล่าจอมยุทธ ใช้กำลังภายในอีกนะ
เด็กใหม่ที่สมัครเข้ามาตำแหน่งนึง พอเข้ามาจริง ไม่ถูกใจหรืออะไรก็แล้วแต่
มีพลังงานลึกลับแผ่ออกมา วันต่อมาโดนย้ายไปปฏิบัติงานที่ๆตัวเองถูกใจ
[เบียดเบียนคนอื่นที่เข้ามาตามกระบวนการ น่ารังเกียจมาก]

ไม่แน่ใจหน่วยงานราชการ หรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆเป็นแบบนี้เหมือนกันไหม หรือเป็นแค่ที่นี้ที่เดียว

แต่ก็อยากจะเขียนออกมาประกอบการตัดสินใจ สำหรับคนที่ลังเลอยากทำงานหน่วยงานพวกนี้ในอนาคตครับ

จะเชื่อหรือไม่ก็อยากให้ใช้วิจารณญาณเอาครับ

. . . . . . . . . . . . . . . . . .

ที่มา : หน่วยข่าวกลวงไม่เปิดเผยนาม

ผมไม่รู้จริงๆ ใบ้อีกหน่อยครับ

หนาม

ผมก็อยุ่สายงาน Operation ครับ สายงานหาเงินให้องค์กร ลด ประหยัดทุกอย่าง Workload เพิ่ม คนไม่รับเพิ่ม

แต่กับ สายซัพพอร์ทรับใหม่อย่างเยอะ นี่กูทำงานในรวสก.ที่ทำบช.หรอ?

ผู้นำกำหนดนโยบายสวยหรู แต่ถูก Local Rule บิดเบือน เพื่อผลลัพธ์ด้านตัวเลข

โคตรจะมองมุมเดียว เอาตัวเองเป็นใหญ่ งอแงเป็นเด็ก

เหมารวมว่าฝ่าย support ทั้งหมดไม่ทำงานทุกคน ?

ฝ่าย support ถูกตัดทุกอย่างเพราะหาว่าไม่จำเป็น ไม่พูดถึง ?

ฝ่ายปฏิบัติการได้รับสิทธิใดๆ ก่อน support ไม่พูดถึง ?

ฝ่ายปฏิบัติการตอนปกติปั่น OT จนรวยล้นฟ้ากัน ไม่พูดถึง ?

ฝ่ายปฏิบัติการจัดเวรเพื่อเอื้อประโยชน์ ขูดรีดเงินบริษัท ไม่พูดถึง ?

ทำงานตัวเองเสร็จกลับได้เลยทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาออกงาน ไม่พูดถึง ?

มีชั่วโมงพักทีละ 2-3 ชม. ปนในชั่วโมงทำงานทุกวัน ไม่พูดถึง ?

เงินเดือน + ค่าตอบแทนต่างๆ ที่ต่างกันมหาศาล ไม่พูดถึง ?

กลายเป็นมานั่งอิจฉาเพราะตัวเองไปออฟฟิศ ตอนคนอื่น WFH ?


คือเคยอยู่มาหมดแล้วทั้งปฏิบัติการ ทั้งสนับสนุน บอกเลยมันไม่มีฝั่งไหนที่ได้สุดลิ่มเสียทุกประตูเลยสักฝั่งหรอก

แต่ละฝั่งมันมีดีมีแย่ในตัวเองทั้งนั้น เราพอใจจะอยู่ฝั่งไหนก็ทำเรื่องย้าย ก็แค่นั้น โดนดองหรือได้ย้ายทันทีคิดว่า Support ด้วยกันเองไม่โดนหรอ เลื่อนตำแหน่งไม่โดนหรอ ฯลฯ


ส่วนเรื่องบริหาร พูดแล้วยาว อย่าว่าแค่เรื่องเงิน ลองมาอยู่จุดที่เค้าอยู่กันมั้ย จะได้เข้าใจ

ลองมาเป็นคนที่ต้องคอยถูกรัฐมนตรีสั่งให้ทำโน่นนี่ แล้วต้องแบกรับความรับผิดชอบไม่รู้จะเข้าคุกวันไหนแบบเลี่ยงไม่ได้เพราะกฎหมายบอกไว้ยังงั้น ดูมั้ย

เข้ามายกมือค้าบ เห็นด้วยทุกประการ

ผมมั่นใจว่าร้อยละ 60% หรือมากกว่านั้น มาใน mindsetที่ว่า "งานสบาย ไม่ไล่ออกถ้าไม่ทำผิดอะไรร้ายแรง เลี้ยงยันแก่" ก็เลยทำให้เจอ Senior level ที่ทำงานได้สวนทางกับเงินเดือนสุดๆ ก็ลองคิดดูครับ เกิน60% มันมีแต่คนแบบนี้ รายจ่ายก็เพิ่มขึ้นทุกๆปีค้าบ คนทำงานก็มีครับ แต่คนแบบแรกเยอะกว่า มันเลยส่งผลให้องค์กร รสก ไทย มีรูปแบบออกมาอย่างนี้

ของผมเป็น รสก.ที่มีวิศวกรเป็นหนึ่งใน core business ครับ, ไม่รู้ว่าจะเรียกว่ารายได้อู้ฟู้ไหม แต่ก็โอเคครับ คิดว่าน่าจะอยู่ในเกรด B ไป A (เทียบจาก%การขึ้นเงินเดือนรายปีนะ) แต่โบนัสน้อยครับ
เป็นแบบที่ท่านบอกทุกอย่างครับ ช่วง WFH ก็เจอแบบท่านครับ "เดี๋ยวเข้าที่ทำงานแล้วจัดการให้นะ" ช่วงCovid ไม่ต้องพูดถึงการประสานงานภายในครับ ยาก ยากมาก โทรไปให่ทำงานเหมือนแทบจะกราบแทบเท้าท่านๆพี่ๆลุงๆป้าๆทั้งหลายแล้ว

ทุกวันนี้ก้ก้มหน้าก้มตาทำไปครับ จะขออุปกรณ์อะไรมา support ตัวเองทำเรื่องวุ่นวายชิบหา_วายวอดไปหมด ระบบขัดแข้งขัดขาโคตรๆ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องขอคน, ตามปกติคิดว่าตัวเองทำงานไม่เยอะ แต่เทียบกับพี่ๆอายุงาน 15, 20ปี และมองเงินเดือนแล้ว ก็ต้องแอบคิดแหละว่าตูทำเยอะนะ และตูจะทำไปทำไมวะ ในเมื่อจบปีมาประเมินก็ไม่ได้หนีคนพวกนี้มาก พูดแล้วเหนื่อยใจ

เอาตรงๆดูผลประกอบการ กับรายจ่ายของที่ทำงานก็แอบคิดในใจว่ามันจะล่มมั้ยวะตามที่ท่านเขียนเลย เห้ออออ
ช่วงนี้ก็ไล่สัมภาษณ์ไปครับ หาลู่ทางย้ายออกไปเรื่อยๆ เบื่อเหลือเกิน ยิ่งอยู่ยิ่งเหนื่อยใจ

.

เดาได้เลยว่าที่ไหน

เป็นผู้บริหารแล้วกดดันก็ลาออกไป ไม่มีใครบังคับให้ไปเป็นนี่

อยากให้ลองมองดูองค์กรนี้ที่เละเทะเพราะใคร ถ้าฝ่ายจัดการไม่ปล่อยปละละเลยให้มี OT อู้ฟู่ในสมัยก่อนก็ได้

ยังไงฝ่ายปฏิบัติการก็สำคัญสุดเพราะเป็นฝ่ายที่หารายได้ให้บริษัท

ตลก

งี้พูดกลับมั่งได้มั้ยว่า อยู่ฝ่ายปฏิบัติการแล้วไม่พอใจก็ลาออกไปดิ ไม่มีใครบังคับให้อยู่นี่

แล้วเลิกคิดกันสักทีเถอะว่าฝ่าหารายได้ให้บริษัทฯ สำคัญสุด ทุกหน่วยมันก็สำคัญหมด

ถ้าไม่มีฝ่ายวิศวะ พวกปฏิบัติการหาอุปกรณ์มาใช้เองได้ปะ มีปัญหาขึ้นมาซ่อมเองได้ปะ

ถ้าไม่มีฝ่ายจัดหา พวกปฏิบัติการทำจัดซื้อจัดจ้างแบบไม่โดนเล่นทางกฎหมายเองได้ปะ

ถ้าไม่มีฝ่ายนโยบาย พวกปฏิบัติการเดินเกมให้ได้กิจการต่างๆ เป็นสัมปทานตัวเองได้ปะ

ถ้าไม่มีฝ่ายการเงิน พวกปฏิบัติการรู้มั่งปะว่ารัฐกำหนดอะไร บริหารเงินทั้งองค์กรเองได้ปะ

ถ้าไม่มีฝ่ายกฎ/ระเบียบ พวกปฏิบัติการรู้มั่งปะทุกวันนี้องค์กรถูกรัฐกำหนดให้ทำอะไรบ้าง

ไม่ต่างอะไรกับบอกว่า พวกกุหน้าเป้า เป็นคนยิงประตูให้ทีม พวกกุต้องสำคัญสุดในทีมดิ

โคตรไร้สาระ

นี่มันยุคสมัยที่ต้องโฟกัสในสิ่งที่ตัวเองทำ จะมาบอกว่าทุกฝ่ายสำคัญก็คงไม่ถูกเท่าไหร่ ลองไปดูเอกชนบ้างก็ได้ ฝ่ายไหนไม่จำเป็นก็จ้างบริษัทอื่นมาทำงานแทนเพื่อลดค่าใช้จ่ายในด้านที่บริษัทไม่ถนัดทั้งนั้น

บริษัทจะอยู่ไม่รอดเพราะคิดว่าทุกฝ่ายสำคัญนี่แหละ

ลองไปดูบริษัท APPLE ได้นะ จากที่เคยทำโรงงานผลิตเองแล้วเจ๊งไม่เป็นท่า พอจ้างบริษัทในจีนผลิตและประกอบอุปกรณ์แทนทั้งหมดกลับรวยมหาศาล

จงทำใจกับองค์กรที่มีฝ่ายจัดการไดโนเสาร์เต่าล้านปี5555

ไปกันใหญ่ ก็นี่มันกระทู้เรื่องรัฐวิสาหกิจ มายกตัวอย่างบริษัทเอกชนเฉย

ถ้าเป็นเอกชน ทิ้งให้หมดเลยที่ผมพูดอ่ะ อยากจะทำอะไรก็ไปเลย แค่ไม่ผิดกฎหมายบ้านเมืองก็พอ

ละอย่ามาบอกว่า "ก็ให้รัฐวิสาหกิจทำแบบเอกชนสิ" นะ

เพราะนั่นแปลว่าคุณไม่ได้เข้าใจอะไรในรัฐวิสาหกิจเลยสักนิด

สภาพองค์กรแบบนี้ไง เหมาะกับการเข้ามาทำงานกินเงินเดือนและสวัสดิการโดยไม่ทำงานเยอะแยะ เราไม่ทำเดี๋ยวก็ต้องมีคนทำแทน