ณ เมืองสารขัณฑ์ มีเสี่ยวี เป็นโปรโมเตอร์มวย วันนึงเสี่ยวีก็คิดขึ้นว่า ถ้าเราประกบคู่ยอดมวยระดับโลก ยกมาต่อยกันที่เมืองสารขัณฑ์แล้วล้อมผ้าเก็บค่าตั๋ว ต้องทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำแน่ ว่าแล้วเสี่ยวีก็ไปดีลดึงยอดมวยเมืองผู้ดีอย่าง ท.ฮ. ศิษย์หมีแดง กับ ค็อปเตอร์น้อย หงส์ร่อนยิม ซึ่งล้วนเป็นขวัญใจแฟนมวยในสารขัณฑ์มาชก พร้อมป่าวประกาศให้ชาวบ้านร้านตลาดได้ทราบ ปรับปรุงสร้างเวทีล้อมผ้าใหญ่โต ก่อนเปิดขายบัตรดูมวยนัดหยุดโลก ตั้งราคาสูงลิ่วใบละหมื่นอัฐ กะว่าตั๋วขายเกลี้ยงรวยไม่รู้เรื่อง

อนิจจา เพราะภาวะเงินเฟ้อและเฟ็ดขึ้นดอกเบี้ย ทำให้เศรฐกิจชาวสารขัณฑ์ฝืดเคือง แถมค่าตั๋วก็แพงมหาโหด ทำให้ตั๋วขายไม่หมด เสี่ยวีถึงกับเหงื่อตก ค่าตั๋วยังได้ค่าตัวนักมวยแค่ครึ่งขา จะทำยังไงกับตั๋วที่เหลือดี จะมาขายลดราคา คงโดนชาวบ้านที่ซื้อราคาเต็มมาแหกอกถึงบ้านแน่ๆ จึงออกอุบายร่วมมือกับแม่พลอย แม่ค้าใหญ่ที่มีเครือข่ายทั่วแดนสารขัณฑ์ โดยเสี่ยวีให้ตั๋วแม่พลอยไปปล่อยขายลดราคา ขายได้เท่าไหร่ก็จะแบ่งค่าหัวคิวให้ ขายไม่ได้ก็ส่งคืน แม่พลอยก็เอาตั๋วออกประกาศขายโดยบอกว่าเป็นตั๋วสมนาคุณแฟนๆ ยอมขาดทุน ลดครึ่งราคาแค่ใบละ 5,000 อัฐ แฟนๆก็แห่ไปซื้อตั๋วแม่พลอยจนเกลี้ยงแผง แม่พลอยก็ได้ค่าหัวคิวฟรีๆ เสี่ยวีก็ขายตั๋วได้ มากลบส่วนที่จะขาดทุนให้พอได้กำไร ส่วนชาวสารขัณฑ์ที่ซื้อราคาเต็มไปตอนแรกก็ได้แต่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก

เอวังก็มีด้วยประการฉนี้

เขียยนได้ดี

เป็นเช่นนั้น

ชั่ย

แม่พลอยภาพลักษณ์ไม่ดี ชาวบ้านเลยแอบเอาไปนินทา

ดูจะวินวินทางธุรกิจนะ

คนที่ซื้อตั๋วไปแล้ว อยากได้แบบไหนล่ะ
- ที่นั่งในสนามโล่งๆ ขายไม่ได้ก็ไม่ต้องขาย
- ที่นั่งในสนามครึกครื้น มีคนได้ตั๋วถูกกว่าราคาปกติเข้ามาเติมเต็ม
- ปรับราคาลงได้ แต่ให้คืนส่วนลดให้คนที่จ่ายเต็ม (วุ่นวายในการจัดการ)

จริงๆ เสี่ยวี เค้าเดิมพันสูงนะครับ

เพราะช่วงนั้น "ค็อปเตอร์น้อย หงส์ร่อนยิม" กำลังมีลุ้นแชมป์อีก 2 สถาบัน

ก็คือ เข็มขัดสถาบันสมาคมอิงลิชภัคลี (EPL) กับ เข็มขัดสถาบันศึกอยู่ฟ้าแชมเปียลีค(UCL)

ซึ่งก่อนหน้านั้นในปีนี้ ได้มาตั้งสองเข็มขัด ก็คือ สถาบันฟ้าอ้ายคับ (FA Cup) กับ เข็มขัดเวทีวัวแดงคัพ

ลองคิดดูซิครับ ถ้าได้มาทุกเข็มขัด ราคาก็ตามที่เค้าตั้งไว้ ก็คุ้มสำหรับ แฟนมวย "ค็อปเตอร์น้อย หงส์ร่อนยิม"

อาจจะมีการเอาเข็มขัดมาโชว์ฉลองก็เป็นได้

ผมไม่เข้าใจเหตุการณ์นี้ตรงที่

ในตอนแรก เค้าบอกตั๋วหมด ซื้อไม่ได้แล้วไม่ใช่เหรอ หรือยังไง ผมตามห่างๆ

เป้าหมายของเขาคือหนึ่งไม่ขาดทุน สองได้กำไรเท่าไหร่ นิทานเรื่องนี้ต้องดูตอนจบ

กำไรจากสนามต่อยมวยไม่ใช่ค่าเข้าค่าตั๋วอย่างเดียว มีอย่างอื่นเยอะแยะ เช่น ขายพื้นที่ทำกิจกรรม ทำคีออส ขายลิขสิทธิ์ บลาๆๆๆ

ส่วนแผนกทีมรับผิดชอบขายตั๋ว ก็ต้องรับผิดชอบงานตัวเองให้ได้เช่นกัน เสี่ยเจ้าของไม่สนวิธีการต้องการผลลัพพ์เท่านั้น ขอให้หมดและได้กำไรเป็นพอ ของพวกนี้เขาแยกทีมรับผิดชอบกัน

ปล.ส่วนที่ดราม่าพิมรี่ อันนี้ไม่เนียนและน่าเกลียดเกินไป คือหลอกแบบรู้ทั้งรู้นี่แหละจะทำไม

ปุจฉา

ผมเข้าใจนะ คนซื้อราคาเต็มคงไม่โอเคแหละเพราะเสียผลประโยชน์

แต่ว่ากันด้วยราคาอย่างเดียวจริงๆ ก็ไม่ได้ลดเว่อวังขนาดนั้น สำหรับผมที่ไม่มีกำลัง 55555

20k >> 15
15 >> 11

ผมก็ยังไม่มีกำลังเหลือพอจะไปอยู่ดี แค่สำหรับผู้จัดพอระบายได้มากขึ้นดีกว่าเจ๊งหนัก

วีดูถูกคนดูนะแบบนี้

ผมว่าเบื้องต้นรุ้ว่าขายไม่หมดอยุ่แล้ว สมมุติมีบัตร 60,000 ใบ มียอมคนเข้าจองคิวซื้อผ่านเวป 10,000 คน เค้ารุ้ดีมานด์ละว่าเหลือแน่ ถ้าข่าวออกว่ากระแสไม่ดี คนจะไม่สนใจ เลยต้องใช้แผนการตลาดว่าขายดี sold out พยายามปั่นว่ากระแสดีคนอยากดูเยอะ หวังว่าพอปล่อยบัตรรอบสอง คนจะอยากได้มากขึ้น แต่พอรอบสองยอดก็ไม่วิ่งอีก คราวนี้ก้พึ่งนักร้อง แต่ก็คงไม่หมดอีก คราวนี้เลยพึ่งแม่ค้า

ก็ cut loss ปกติของการทำธุรกิจ จนบัดนี้ยังไม่เข้าใจเลยว่าจะดราม่าทำไม

http://www.soccersuck.com/boards/topic/2130679/1/#47422311

เคยบอกไปแล้ว แต่ก็มีแต่คนแขวะใส่