ผมทำงานที่บริษัทฯ ใกล้จะครบสามปีแล้ว เพื่อนร่วมงานที่เข้ามาทีหลังผมต่างทยอยได้เลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น ผมกลับจมอยู่ที่เดิม ความรู้สึกภายในจิตใจยากที่จะรับได้ จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมยอมเสี่ยงกับการถูกเลิกจ้าง ตัดสินใจขอพบเจ้านายเพื่อคุยถึงสาเหตุ

“เจ้านาย ผมเคยมาสาย กลับก่อนเวลา หรือ ละเมิดกฎระเบียบหรือไม่”

เจ้านายตอบทันทีว่า “ไม่เคยและไม่มี”

“ถ้าเช่นนั้น เป็นเพราะบริษัทฯมีความลำเอียง อยุติธรรมกับผมหรือ”

เจ้านายอึ้งก่อน แล้วพูดว่า “ไม่มี ไม่ใช่แน่นอน”

“แล้วทำไม ผู้ที่อายุงานน้อยกว่าผม กลับได้รับความสำคัญ ความไว้วางใจในหน้าที่ปฏิบัติงาน แต่ผมกลับอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ที่ไม่สำคัญมาตลอด”

เจ้านายนิ่งเงียบ ไม่สามารถหาคำพูดมาตอบผมทันที จากนั้นยิ้มๆ แล้วพูดว่า

“ปัญหาของเธอเดี๋ยวเราค่อยคุยกันใหม่ เวลานี้ ผมมีเรื่องเร่งด่วนสำคัญอยู่เรื่องหนึ่ง ช่วยผมจัดการไปก่อน มีลูกค้าเจ้าหนึ่ง เตรียมตัวมาที่บริษัทฯ เพื่อตรวจสอบสินค้า”

เจ้านายให้ผมติดต่อพวกเขา สอบถามว่า จะมาถึงเมื่อไหร่ ผมคิดในใจว่า“นี่หรือ งานเร่งด่วนเร่งรีบที่สำคัญ”

ก่อนก้าวออกจากประตู ผมอดไม่ได้จะคิดเยาะเย้ย

ไม่ถึงสิบห้านาที ผมกลับเข้าไปในห้องทำงานของเจ้านาย

“ติดต่อได้หรือยัง” เจ้านายถาม

“ติดต่อได้แล้ว พวกเขาบอกว่า อาจจะมาสัปดาห์หน้า”

“สัปดาห์หน้า วันเฉพาะเจาะจงคือวันไหน”

“ผมไม่ได้ถามรายละเอียด”

“พวกเขาจะมากันกี่คน”

“โอ้…ท่านไม่ได้ให้ผมถามเรื่องนี้น่ะ”

“งั้นพวกเขาจะมาทางรถไฟหรือเครื่องบิน”

“นี่ท่านก็ไม่ได้บอกให้ผมถามสักหน่อย”

เจ้านายไม่พูดอะไรอีก ท่านโทรศัพท์เรียกจูเจิ้นเข้ามา

จูเจิ้นเข้ามาบริษัทฯหลังผมหนึ่งปี ตอนนี้เป็นผู้ควบคุมรับผิดชอบแผนกหนึ่งไปแล้ว เขาได้รับคำสั่งเดียวกับผมที่ได้รับเมื่อสักครู่ เวลาผ่านไปครู่เดียว จูเจิ้นก็เดินกลับมา

“อ้อ…เป็นอย่างนี้” จูเจิ้นเริ่มรายงาน “พวกเขาจะมาโดยเครื่องบิน เที่ยวบ่ายสามโมง วันศุกร์ จะมาถึงประมาณหกโมงเย็น เดินทางมาทั้งหมดห้าคน นำคณะโดยฝ่ายจัดซื้อผู้จัดการหวัง”

“ผมบอกพวกเขาแล้วว่า ทางบริษัทฯเรา จะส่งคนไปรับ นอกเหนือจากนี้ พวกเขาวางแผนตรวจสอบสองวัน รายละเอียดเจาะจงเมื่อพวกเขามาถึงแล้ว ค่อยปรึกษาหารือร่วมกันทั้งสองฝ่าย”

“เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงาน ผมขอเสนอจัดหาที่พักระดับอินเตอร์ที่อยู่ใกล้กับบริษัทฯให้แก่พวกเขา หากท่านเห็นด้วย พรุ่งนี้ผมก็จะจองห้องพักไว้ล่วงหน้า”

“นอกเหนือจากนี้ ยังมีอีกเรื่อง กรมอุตุฯ รายงานว่า สัปดาห์หน้าฝนจะตก ผมจะคอยติดต่อสื่อสารพวกเขาตลอด หากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ผมจะรายงานท่านทันที”

หลังจากจูเจิ้นออกไปจากห้องแล้ว เจ้านายแตะไหล่ผม แล้วพูดว่า “ตอนนี้ เรามาคุยถึงปัญหาของของเธอต่อ”

“ไม่ต้องแล้ว ผมรู้สาเหตุแล้วว่าเพราะเหตุใด รบกวนท่านมากแล้ว”

ผมเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่า ไม่มีใครเกิดมาก็สามารถแบกรับภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ ล้วนเริ่มจากความเรียบง่าย เริ่มทำจากเรื่องเล็กๆที่เรียบง่าย วันนี้ เธอติดแผ่นฉลากให้เธอเองเช่นไร อาจกำหนดตัดสินว่า พรุ่งนี้เธอจะเป็นผู้ที่สมควรได้รับมอบหมาย ภารกิจที่ใหญ่ขึ้นหรือไม่

ระยะห่างของความสามารถ มีผลกระทบโดยตรงกับผลของชิ้นงาน ไม่ว่าองค์กรใดบริษัทฯใด ก็ต้องการบุคคลที่ทำงาน ที่มีความสามารถ ความรับผิดชอบต่อหน้าที่อยู่ในตัวตัวเอง

พนักงานที่มีความโดดเด่น ยอดเยี่ยม ล้วนไม่ต้องให้ผู้อื่นมาบอกมากล่าวว่า
จะต้องทำอะไรถึงจะขยับตัวทำ แต่จะทำความเข้าใจด้วยตนเองว่า สมควรทำอะไร หลังจากนั้นทุ่มเทแรงกาย แรงใจ กระทำจนสำเร็จ

ท่องไว้ในใจนะ……นายสั่งให้ทำหนึ่ง…สอง…สาม….

สิ่งที่เราทำคือ..หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก…เจ็ดแปดเก้า เก็บไว้ในกระเป๋า….สิบสิบเอ็ดสิบสอง อยู่ในสมอง….ทันที พร้อมเอาออกมาใช้ในทุกสถานการณ์

อ๋ออ..เข้าใจละ



.





..




จูเจิ้นนมใหญ่กว่านี่เอง

บอกเด็กๆในนี้หรอครับ

พอๆกันกับ ตำแหน่งสูงสุด วันๆไม่ทำอะไรเป็นประโยชน์กับบริษัท เอาแต่แสดงความโง่ ออกมา แต่ก็ยังอยู่ในตำแหน่งเหมือนเดิม

คนแรกน้อยไป คนหลังก็เวิ่นเว้อไป

ทำไมในหัวมันไปประโยคว่า​ ทำไมถึงมาโรงเรียนสาย

อ๋ออ..เข้าใจละ



.





..




จูเจิ้นนมใหญ่กว่านี่เอง

เชื่อมั้ยว่าไอ้คน2 มันขี้เกียจกว่า มันหาข้อมูลครบจนปิดงานได้ ไม่ต้องรอคำสั่งต่อไป ไม่ต้องมาคอยกังวลความเสี่ยงอื่นๆ เจ้านายถามก็จัดแจงคำตอบไว้ให้ละ
เหมือนมีโครงการ แล้วเราอ่านจนเข้าใจ บางอย่างเราสามารถรวม ขั้นตอน 1 2 3 ทำในครั้งเดียวได้ หรืออาจจะมองไปยังจุดจบโครงการเลยก็ได้ว่าเราจะปิดอย่างไง

ไอ้พวกนี้มันสายขี้เกียจทั้งนั้น รีบทำ รีบเสร็จ ปิดจ๊อป รับเงิน จบ

น่าสนใจ

มันคือหลักการ ความรู้ และความคิด
ความรู้คือสิ่งที่หลายๆคนมี และคิดว่ามีพอๆกัน
แต่ความคิด ถึงแม้จะเรียบจบคลาสเดียวกัน แต่ละคนก็มีต่างออกไป

ความรู้ คืออาวุธ
ความคิด คือวิธีใช้อาวุธ หรือทักษะในการใช้อาวุธ
อาวุธถึงจะมีศัพยภาพมาก แต่ถ้าขาดทักษะในการใช้ ก็ไม่อาจแสดงศักยภาพออกมาได้ดี

คนที่ประสบความสำเร็จ หรือทำงานโดดเด่น ต้องมีทั้ง อาวุธ และวิธีใช้(ฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ)

ปล.บทความนี้มีมานานแล้วนะ ไม่ให้เครดิต หรือลิงค์ต้นทางหน่อยหรือ?

เคยทำละ
สั่ง 5 ทำ 10
เขาก็ด่าอยุ่ดีอ่ะ 55+

มันมีจริง ๆ นะแบบนี้

สั่งงานเหมือนกัน กับคน 2 คน ผลลัพท์ต่างกัน

แต่พอต้องประเมินเงินเดือน ไอคนที่ทำแบบขอไปทีจะชอบโวยวาย ทำไมตูได้น้อยกว่า อีกคนวะ

คนที่สองลองอยู่ผิดบริษัทสิ ใครใช้ให้คุณจัดหาเรื่องอื่น ? ใครใช้ให้คุณทำงานเกินหน้าที่ ? โดนเล็งว่าทำงานเอาหน้าอีก ไม่บรรทัดหัวหน้าของแต่ละคนไม่เท่ากันหรอก ผมไม่เห็นด้วยกับบทความนี้นะ

ประมาณว่าปรับจุดอ่อนเป็นจุดแข็งไงครับ เหมือนที่ในเกม Civ มันจะมี quote กวน ๆ ประมาณว่า "คนมองโลกในแง่ดีสร้างเครื่องบิน ส่วนคนมองโลกในแง่ร้ายประดิษฐ์ร่มชูชีพ" โคตรกวน

พูดถึงพยากรณ์ก็เว่อร์ไป

ในสามก๊ก เอียวสิ้วตายเพราะแบบที่สองนี่แหละ รู้ทุกเรื่อง แต่รู้มากไป โจโฉสั่งฆ่าซะ

ส่วนในวงราชการไทยอะหรอ ...
ไม่ว่าแบบ1หรือแบบสองก็ไม่ได้เลื่อนขั้น ถ้าไม่จ่ายซอง