เป็นครั้งแรกของทีมนับตั้งแต่ฤดูกาล 1983/84

ramosไม่อยู่

ก็เห็นมีกันอยู่2คนที่ได้ๆน่ะ เป้กับมอสใช่มะ
คนอื่นก็มีประปราย

รามอสไม่อยู่แล้วไง

คนอะไรปั้มใบแดงได้ตลอด

No Ramos No Red card

จริง ๆ คาเซ ควรจะมีหลายใบอยู่นะ แต่แกยิ้มเก่ง ยิ้มทีกระชากใจกรรมการ ควักให้ไม่ลงจริง ๆ

เล่นตัวเองเจ็บน้อยสุดแล้ว 5555

เอาจริงๆเป็นสถิติที่ดูดี แต่ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่

การขาดหายไปของมอส ยิ่งตอนไม่มีคาเซนะ จะเห็นได้ชัดเลยว่านักเตะมาดริดทำฟาลว์ไม่เป็น

ไม่เป็นผลดีเลย อย่างนัดบ้านแมนซิ แมนซิลำเลียงบอลสบายตีนเลยเพราะทุกคนวิ่งไล่แต่ไม่หยุดเกมส์

เกมส์แมนซิต่อเนื่องได้ง่ายมาก เซทสบายหายห่วง ตัวนึงติดบล็อคตัวสองซ้อนไว้แล้ว รอยับอย่างเดียว แต่โชคดีไม่คมเอง

กลับกันในเกมส์ที่สองที่มีคาเซ หลายๆคนบ่นว่าเอาแต่ทำฟาลว์ แต่ความจริงนั้นคือคนที่ชะลอให้แมนซิหัวเสียไปกับกรรมการได้เยอะเลยนะ ดึงทั้งเกมส์ ดึงทั้งเวลา ดึงทั้งอารมณ์ฝั่งตรงข้าม เป็นการฟาล์วเกรียนๆแบบตั้งใจแต่ไม่ทำร้ายคู๋แข่ง ทำให้เกิดหัวเสียมากและยิ่งไม่โดนใบยิ่งหัวเสียไปใหญ่ นั่นแหละคือข้อดีคือการทำลายการต่อเนื่อง

ซึ่งเมื่อก่อนมอสจะเป็นคนที่คอยสั่งการให้เพื่อนร่วมทีมตัดเกมส์เสมอ การมีมอสจะแสดงให้เห็นชัดเลยว่าเล่นจิตวิทยาได้สูง เบรคเกมส์ได้บ่อย นั่นคือสิ่งที่มาดริดขาดหายไปเลย เพราะอลาบาที่แทนกลายเป็นลูกไล่ในเกมส์รับเท่านั้น

แต่มอสข้อเสียคือพอหลุดโลกแล้วก็ทำให้ทีมลำบากเหมือนกัน ฉะนั้นต้องมีแบบมอสแต่เบาๆลงหน่อยไม่ต้องหนักเกิน

โดยรวมดีใจที่ได้รูดิเกอร์มานะ เพราะเจ้านั้นก็ตัดเกมส์ฉลาดเหมือนกัน เราจำเป็นต้องมีนักเตะที่ทำฟาลว์แบบนี้ไว้เสมอ ผมไม่สนใจเรื่องความสวยงามใบเหลือใบแดง หรอก ขอแค่ได้ผลที่ดีและไม่ทำร้ายคู่แข่งก็พอ

ผมดีใจนะครับ ที่เป็นแบบนี้ ถึงมอสจะเป็นผู้นำเกมรับ เล่นโครตดี ทั้งรุกรับ แต่ถ้ามันจะต้องถึงยุคใหม่ ก็อยากได้กองหลังที่คุมอารมณ์ได้ บางนัดแกก็หลุดดื้อๆ จากเกมสูสี กลายเป็นเสียเปรียบถึงแม้โดยรวมการเล่นทั้งหมด จะให้ผลดีกว่า ตอนนี้เราก็แค่หากองหลังใหม่ๆแค่นั้นเอง โดยตอนนี้ก็ตัดปัญหาเรื่องความเสี่ยงเรื่องอารมณ์ เพราะบางทีเกมก็เดือดแบบไม่จำเป็น

การตัดเกมส์ที่ไม่ได้ใบแดงนี่ใช้ฝีมือพอสมควรนะ