ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Mar 2019
ตอบ: 48
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 17, 2022 19:32
การกลับมาลีกสูงสุดอีกครั้งของ ราชันสีน้ำเงิน ชาลเก้ 04 !!!!
[ADVERTORIAL SS]


#SSColumn THE ROYAL BLUE RETURN (การกลับมาของราชันสีน้ำเงิน)
ในปัจจุบันที่โลกโคจรไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด แน่นอนว่าทุกวันนั้นย่อมกลายเป็นอดีตของวันพรุ่งนี้เสมอ ในโลกฟุตบอลก็เหมือนกันเราไม่สามารถมีอะไรบ่งบอกได้เลยว่าจะเกิดอะไรทั้งตัวเลข สถิติ การวิเคราะห์ หรือ คาดเดาปาฏิหาริย์

อย่างเช่นการที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ผงาดคว้าแชมป์ในปี 2015-2016 ทั้งที่ฤดูกาลก่อนหน้านี้ทัพจิ้งจอกยังต้องเหนื่อยกับการหนีจากโซนตกชั้น หรือจะเป็นการที่บาร์เซโลน่า พบกับปัญหาสโมสรจนต้นสังกัดถึงกับต้องขาเป๋เดินเซไปพักใหญ่จากการต้องเสียซุปเปอร์สตาร์ และหนี้สโมสรที่ติดลบจนไม่สามารถซื้อตัวนักเตะอย่างที่ใจนึกได้แต่ทัพต่างดาวใช้เวลาไม่นานในการกอบกู้ตัวเองขึ้นมาจนตอนนี้มีสถานการณ์ที่ดีขึนอย่างรวดเร็ว นี้แหละครับที่ผมพูดมาคือไม่ได้ดูถูกหรือมองแง่ลบผมแค่อยากจะบอกว่าฟุตบอลมันก็มีขึ้นมีลง เป็นไปตามธรรมชาติ แต่มันก็อยู่ที่ว่าใครจะตั้งหลักและยืนหยัด หรือจะถูกคลื่นแห่งภัยพิบัติถาโถมใส่จนกลับตัวไม่ทัน ในวันนี้ผมจะพูดถึงสโมสรที่เคยเป็นยักษ์ใหญ่ ณ อดีต และเคยเป็นสโมสรเก่าของซุปเปอร์สตาร์ที่กำลังโลดแล้นอยู่ในขณะนี้ทั้ง มานูเอล นอยเออร์ อีวาน ราคิติช นั้นคือราชันสีน้ำเงิน ชาลเก้ 04 เดี้ยววันนี้พวกเราจะขอเล่าเรื่องราวที่จะทำให้ทุกท่านรู้จริงว่ามันเป็นยิ่งกว่าฟุตบอล

- ตกชั้นในรอบ 30 ปี
เกือบ 385 วันนับตั้งแต่ที่ ชาลเก้ 04 ตกลงสู่ลีกรองของเยอรมัน ที่พวกเขาเปิดบ้านแพ้ให้กับ อาร์มิเนีย บีเลเฟล์ด ไป 0-1 ส่งชาลเก้ 04 ตกชั้นไปสู่ลีกา 2 ทั้งที่เหลือการแข่งขันในลีกอีก 4 นัด แต่ด้วยการตามแฮร์ธ่า เบอร์ลิน ทีมอันดับ 16 ที่ยังมีลุ้นตั๋วเพลย์ออฟหาทีมเลื่อนหรือตกชั้น เป็นจำนวน 13 คะแนน นั้นแปลว่าถึงแม้พวกเขาจะเก็บชัยชนะทั้งหมดแต่ก็จะได้เพียง 12 แต้ม ไม่เพียงพอต่อการไปลุ้นเพลย์ออฟอยู่ดี
โดย ทั้งฤดูกาลปีนั้นทีมราชันน้ำเงินเก็บชัยชนะได้เพียง 3 นัดเท่านั้น ถึงแม้จะพยายามหาทางแก้ทุกวิถีทาง ทั้งเปลี่ยนโค้ช เสริมนักเตะ จนถึงขนาดที่ว่า คลาสแยน ฮุนเตลาร์ อดีตดาวยิงของทีม ย้ายกลับมาช่วยทีมก่อนจะอำลาวงการไป ก็ไม่สามารถพาทีมพลิกชะตากรรมอยู่รอดบนลีกสูงสุดได้ ตกชั้นจากลีกสูงสุดในรอบ 30 ปี
.
- คำรบแรกของการคืนสู่ลีกรอง
จากปัญหาทั้งหมดทั้งมวลนั้น ชาลเก้ 04 ตัดสินใจปรับปรุงระบบตั้งแต่ระดับบนสุดนั้นคือ ตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ถ้าเรียกแบบบ้านๆเราคง ผ.อ. กีฬา ดีๆนี้แหละครับ โดยเลือกจะแต่งตั้ง รูเวน ชรูเดอร์ ซึ่งในอดีตเคยเป็น ผู้อำนวยการกีฬาให้กับ เวนเดอร์ เบรเมน และล่าสุดคือ ไมนซ์ 05 เค้าเริ่มปรับระบบด้วยการปล่อยนักเตะออกจากสโมสร มากกว่า 30 คน ที่จริงเยอะกว่านั้นด้วย คงต้องเรียกว่าโล๊ะเซตกันเลย และดึงผู้เล่นใหม่เข้ามาไม่ถึงครึ่งจากที่ปล่อยไป อีกทั้งนี้ยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนเกินของสโมสรด้วย โดยส่วนใหญ่ที่นักเตะที่ถูกดึงตัวมาจะเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์บนลีกสูงสุด ไม่ก็นักเตะที่ผลงานเป็นประจักษ์อยู่แล้ว เช่น แดนนี่ ลัตซ่า กองหลังประสบการณ์สูง ที่เค้าดึงตัวมาจาก ไมนซ์ และการเซ็นสัญญา 2 กองหน้าที่ถือว่าเป็นการดึงตัวที่ดีคือ ซีโมน เทร็อดเดอ อดีตกองหน้าจาก ฮัมบูร์ก และ มาธิอุส บัตเลอร์ จาก ยูเนี่ยน เบอร์ลิน โดยแผนการทำทีมจะเน้นผสมผสานระหว่าง ผู้เล่นใหม่ประสบการณ์สูง และผู้เล่นพลังหนุ่มที่เป็นสายเลือดใหม่ เช่น เมห์เม็ต-ชาน อายาดิน ที่ถูกเลือกขึ้นมาจากทีมเยาวชน ขึ้นมาร่วมทีมชุดใหญ่กับพี่ๆ หรือแมลิค เธียว ที่เคยอยู่ฝีกอยู่ อะคาเดมี่ของ เลวอร์คูเซ่น และ มึนเช่นกลัดบัค หรือจะเป็น โก อิตาคุระ แนวรับตัวยืม ที่ถูกเช่ามาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถ้าหากว่าเราลองดูภาพรวมพวกเขาคงไม่ได้กลับไปขึ้นไปบนลีกสูงสุดในเร็วๆนี้แน่ ด้วยหลายๆปัจจัย ทั้งการปรับปรุงทีมยกชุด และนักเตะที่หลากหลายและต้องมาเล่นร่วมกันโดยมีเวลาเตรียมการก่อนเปิดลีกเพียงไม่นาน ดูแล้วน่าจะยังห่างไกล

- ครึ่งฤดูกาลแรกกระแทกใจ
ชาลเก้ 04 เริ่มฤดูกาลใหม่ด้วยการพ่ายแพ้ต่อ ฮัมบูร์ก คาบ้าน 1-3 เรียกได้ว่าจิตใจของแฟนบอลอาจจะถึงขั้นห่อเหี่ยวกันเลยทีเดียว เพราะก็คงไม่คิดว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล เอาจริงๆผมนับถือหัวใจของแฟนบอลชาลเก้ 04 มากเลยนะครับ เราอาจจะเห็นหลายๆทีมที่เวลาทีมฟอร์มตกแล้วจะมีการก่อจลาจล การประท้วง หรือสร้างความเดือดร้อน แต่สำหรับแฟนชาลเก้ 04 ข่าวการประท้วงหรือข่าวเสียๆหายๆมีค่อนข้างน้อยมาก
โดยใน 5 นัดแรกพวกเขามีสถิติที่ ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 โดยเป็นการแพ้ให้กับ ฮัมบูร์ก 1-3 และ พ่ายให้กับ ยาห์น เรเกนสบวร์ก 4-1 ก่อนที่ 5 นัดหลังจะมีฟอร์มที่ดีขึ้น ชนะ 4 แพ้ 1 ซึ่งจากที่ผลดูมาผมถือว่าฟอร์มแบบนี้เหนือความคาดหมายมาก เพราะผมก็ไม่คิดว่าทีม ชาลเก้ 04 จะสามารถประคองสถานการณ์และกลับมาเล่นอย่างดุดันอีกครั้ง ถ้าหากจะชมผมขอชมทัพราชันสีน้ำเงินในเรื่องของการเซ็นผู้เล่นที่เซ็น 2 ศูนย์หน้าอย่าง ซีโมน เทร็อดเดอ และมาธิอุส บัตเลอร์ โดยเพียง 10 นัดแรกผมก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในแนวรุกไปแล้วโดย เทร็อดเดอ สามารถทำประตูไปได้ 11 ประตู และ 2 แอสซิสต์ ส่วนรายหลัง มาธิอุส บัตเลอร์ ทำไปอีก 3 ประตู และ 3 แอสซิสต์ ก่อนที่จะพาทีมจบ ครึ่งฤดูกาลด้วยการรั้งอันดับที่ 8

- การเปลี่ยนแปลงภายในทีม
ชาลเก้เริ่มต้นครึ่งฤดูกาลหลัง ด้วยการเสมอ 2 นัดติดต่อกัน ก่อนที่จะมาเอาชนะ แอร์ซเกเบียร์เก้ เอา ไป 0-5 ถ้าหากดูจากสถานการณ์ภาพรวมทั้งหมดตอนนี้ทางบอร์ดบริหารของทีมคงตั้งเป้าที่จะพาสโมสรแห่งนี้เลื่อนชั้นให้ได้ภายในฤดูกาลนี้แน่นอน แต่ด้วยฟอร์มที่คงตัว ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่องทางบอร์ดบริหารจึงสั่งปลด ดิมิตริออส กรัมโมซีส ผู้จัดการทีมหลังจบนัดที่ 25 ที่พวกเขาเปิดบ้านแพ้กับ ฮันซ่า รอสต๊อค ไป3-4 ทั้งที่สามารถพาทีมรั้งอันดับ 5 ในตารางและยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นเลื่อนชั้นอยู่แต่ถ้านับจากเริ่มครึ่งฤดูกาลหลัง เล่นไป 8 นัด ชนะไป 3 เสมอ 3 แพ้ 2 เก็บไป 12 คะแนนจาก 24 คะแนนทำคะแนนหายไปครึ่งนึง เลยทำให้ทางบอร์ดบริหารเองคงจะเห็นสัญญาณบางอย่างหรือคิดว่า กรัมโมซิส อาจจะมือไม่ถึงที่จะพา ชาลเก้ 04 กลับสู่ลีกสูงสุดภายในฤดูกาลนี้ จึงทำการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้จัดการทีมโดยดึงตัว ไมค์ บุสเก้นส์ อดีตตำนานของทีมเข้ามาเป็นนายใหญ่คนใหม่ของทีม ด้วยความที่เคยเป็นถึงตำนานของทีมทำให้นักเตะทุกคนต่างเคารพและเชื่อฟัง บุสเก้นส์ อย่างมาก โดยบุสเก้นส์ได้ปรับเปลี่ยนแผนจากเดิมที่ทางทีมจะใช้แผนกองหลัง 3 ตัว มาเป็นหลัง 4 ตัว โดยสลับใช้ระหว่าง 4-4-2 และ 4-2-3-1 โดยมี เทร็อดเดอ เป็นแกนหลักในแนวรุก
.
- โค้งสุดท้าย
คำว่าโค้งสุดท้ายผมจะสังเกตว่าแทบจะทุกวงการแข่งขันกีฬา ถึงแม้มันอาจจะก่อกำเนิดจากการแข่งขันรถก็เถอะ แต่คำนี้ก็ใช้กันอย่างแพร่หลายกันมาก ไมค์ บุสเก้นส์ บอสใหม่ของ ชาลเก้ 04 คุมทีนัดแรกในนัดที่เจอกับ ฮันโนเวอร์ โดย ไมค์ ปรับมาใช้แผน 4-4-2 และสามารถเอาชนะไปได้ 2-1 ตามรูปเกมอาจจะกระท่อนกระแท่นนิดหน่อยบ้างจากการพึ่งปรับแผนใหม่แต่ก้ยังสามารถเอาชนะมาได้หลังจบนัดนั้น ชาลเก้ ก็อยู่อันดับที่ 6 ในตารางอยู่ห่างจากโซนทีมที่จะเลื่อนชั้นอีกไม่มาก จังหวะนี้แหละจะเป็นบทพิสูจน์ของพวกเขาว่าดีพอจะกลับไปอยู่บนลีกสูงสุดได้หรือไม่ คนที่ให้คำตอบได้คงเป็น ไมค์ และบรรดานักเตะลูกทีมของเค้า ไมค์ สามารถพาทีมของเขา เอาชนะคู่แข่ง 4 นัดติด นับตั้งแต่ ฮันโนเวอร์ ,ไดนาโม เดรสเดนท์ ,ไฮเดนไฮม์ พุ่งขึ่นสู่อันดับ 1 ของตาราง ก่อนจะไล่ถล่ม ดาร์มสตัด์ท ทีมหัวตารางที่กำลังขับเคี่ยวลุ้นเลื่อนชั้นอีกทีม ไป 5-2 ก่อนจะมาพ่ายแพ้อย่างหมดรูปให้กับ เวนเดอร์ เบรเมน 1-4 ตกลงสู่อันดับที่ 2 ในตาราง แต่ในนัดถัดมา ชาลเก้ก็สามารถกลับมาเก็บชัยชนะได้อีกครั้ง และเป็นฝั่ง เวนเดอร์ เบรเมน ที่พลาดทำแต้มขึ้นนำจ่าฝูงต่อไปด้วยกายพ่ายแพ้ให้กับ โฮลสไตน์ คีล คาบ้านไป 2-3 ส่งผลให้ ทีมของ ไมค์ บุสเก้นส์ ผงาดขึ้นรั้งอันดับ 1 ในตาราง ในขณะที่เหลืออีกเพียง 2 นัด ถ้าพวกเขาไม่พลาด พวกเขาจะได้เลื่อนชั้นไปลีกสูงสุดอีกครั้ง
.
- ราชันหลั่งน้ำตา สีน้ำเงินแห่งความภูมิใจ
ในนาทีนี้ทัพ ชาลเก้ 04 ที่มีไมค์ บุสเก้นส์ คุมทีม กำลังรั้งอันดับ 1 ในตาราง ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 2 นัด ถ้าหากพวกเขาแพ้อาจจะส่งผลให้ต้องไปเพลย์ออฟเพื่อเลื่อนชั้นอีกซึ่งก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าพวกเขาจะเลื่อนชั้นไปได้ สิ่งที่ทัพราชันสีน้ำเงินต้องการคงมีเพียงการเอาชนะ 2 นัดที่เหลือ เพื่อเป็นอันดับ 1 การันตีเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติ ฉะนั้นอย่างแรกที่ควรทำคือการโฟกัสไปทีละนัดโดยนัดถัดมาพวกเขาต้องเปิดบ้านพบกับ ซังต์ เพาลี ที่ยังมีลุ้นในการเลื่อนชั้นอยู่เหมือนกัน นัดนี้สำคัญมากๆต่อการการันตีเลื่อนชั้น เพราะอนิจจา เมื่อทีมที่ทำแต้มไล่จี้มาอย่าง ดาร์มสตัด์ท ดันสะดุดพลาดท่าแพ้ให้กับ ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ ไป 1-2 ก่อนที่เกมการแข่งขันของ ชาลเก้จะทำการแข่งขันส่งผลให้ถ้าหากทัพราชันสีน้ำเงินเก็บชัยชนะได้จะสามารถการันตีการเลื่อนชั้นทันที ฉะนั้นนัดนี้ที่ต้องเปิดบ้านพบกับ ซังต์ เพาลี พวกเขาต้องเก็บชัยชนะให้ได้ แต่วั่นก็คงไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะทางทีมเยือนก็ยังมีโอกาสในการทำอันดับเพื่อเพลย์ออฟเลื่อนชั้นเหมือนกัน เริ่มเกมเพียงไม่นาน ซังต์ เพาลี ก็ทำให้ Veltins Arena รั้งเหยาของ ชาลเก้ 04 ต้องเงียบสงัด เมื่อ อิกอร์ มาตาโนวิซ ซัดเข้าประตู พาทีมเยือนออกนำ 0-1 ตั้งแต่นาทีที่ 9 และเหมือนทุกอย่างจะไม่เป็นใจกับให้กับทีมเยือน เมื่อ 8 นาทีถัดมาก็เป็น มาต้าโนวิซ คนเดิมที่ซัดพาทีมเยือนออกนำ 0-2 ด้วยสถานการณ์แบบนี้บอกเลยไม่ง่ายนะครับ การโดน 2 ประตูโดยยังไม่ผ่าน 20 นาทีด้วยซ้ำ อีกทั้งทางทีมเยือนเองก็ต้องการจะทำอันดับเพื่อเลื่อนชั้นเหมือนกัน ทุกอย่างเหมือนเป็นใจให้กับทีมเยือน แต่ไม่เป็นใจให้กับ ชาลเก้ 04 ในครึ่งแรกพวกเขามีจังหวะยิงทั้งหมด 15 ครั้งแต่ไม่สามารถส่งลูกบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้ จบครึ่งแรกโดยตามทีมเยือนอยู่ 0-2 อีก 45 นาทีที่เหลือคงเป็นงานหนักของ ไมค์ บุสเก้นส์แล้วละครับว่าจะแก้เกมแล้วให้กำลังใจลูกทีมยังไง ซึ่งผมก็ไม่อาจมราบได้ว่าตัว ไมค์พูดอะไรกับลูกทีม เพราะเริ่มครึ่งหลังมากพวกเขาพับกระดานบุกใส่ ซังต์ เพสลีทันที และใช้เวลาเพียง 2 นาที พวกเขาก็สามารถเรียกจุดโทษ และเป็น ซีโมน เทร็อดเดอ ดาวยิงตัวเก่งของทีมที่ซัดเข้าไปทำสกอร์ไล่มา 1-2 ในวินาทีนั้นผมคิดว่ากำลังใจของ ทัพราชันสีน้ำเงิน คงเต็มเปี่ยม เพราะพวกเขาทำการบุกหนักใส่ ซังต์ เพาลี หวังจะตามตีเสมอให้ได้ และนาทีที่ 71 มันก็สำเร็จ เมื่อ ซีโมน เทร็อดเดอ ที่เป็นคนยิงลูกโทษไล่มาก็เบิกสกอร์ลูกที่ 2 พาทีมกลับมาตามตีเสมอได้ 2-2 การตามตีเสมอได้แถมยังเหลือเวลาอีกเกือบ 20 นาที และเหมือนจะเป็นฟ้าลิขิต หรือเป็นเรื่องราวที่ถูกกำหนดไว้แล้ว เมื่อในนาทีที่ 78 มาธิอุส บัตเลอร์ จ่ายลูกถวายพานที่สวยที่สุดไปให้กับ โรดริโก้ ซาลาซาร์ ซัดด้วยขวาบอลพุ่งเสียบคานด้านบนก็เข้าประตูไปอย่างรุนแรง พร้อมกับเสียงเฮที่ดังกึกก้อง Veltins Arena บรรดานักเตะ ตัวจริงนักเตะสำรองต่างทีมงาน หรือแม้แต่นายใหญ่อย่าง ไมค์ บุสเก้นส์ ต่างโผกอดดีใจกันมั่วซั่วกันไปหมด เหลืออีก 10 นาทีพวกเขากำลังจะได้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง ผมอกเลยว่านาทีนี้ อันตรายมากๆเลยนะครับ ในจังหวะที่ทีมกำลังมั่นใจอะไรแบบนี้มันมักเกินเหตุการณ์ไม่คาดฝันตลอดเลย และถ้าหากพวกเขาเสียสมาธิละกันอาจจะโดนลงโทษทีหลังได้เลย เกมถูกดำเนินไปจนเข้าสู่ช่วงทดเวลา อาจจะด้วยเพราะการดีใจที่กินเวลานานทำให้การทดเวลาบาดเจ็บนั้นนานถึง 7 นาที คุณลองคิดว่าตัวเองเป็นแฟนบอลชาลเก้ สิครับผมคิดว่า 7 นาทีในตอนนั้นมันช่วงอย่างนานเหมือนเป็นชั่วโมงเลย และในที่สุดเสียงนกหวีดก็ถูกเป่าออกจากผู้ตัดสิน วินาทีที่ได้ยินเสียงนกหวีด นักเตะในทีมต่างกรูกันวิ่งลงไปดีใจที่สนามด้วยความสะใจ หันไปมอง ซีโมน เทร็อดเดอ ถึงกับหลั่งน้ำตาและทรุดลงไปนอนกับพื้น ณ เวลาแห่งความปิตินั้น แฟนบอลชาลเก้ 04 ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น กฎระเบียบของฟุตบอลมันไม่สำคัญอะไรอีกแล้ว เมื่อในเวลานั้นพวกเขากำลังจะกลับไป ลีกสูงสุดอีกครั้ง บรรดาแฟนๆต่างวิ่งกรูลงไปในสนามเข้าสวมกอดกับนักเตะ ที่ต่อสู้มาตลอดฤดูกาล ภาพที่แฟนบอลเดินร้องไห้ในสนามพร้อมชูธงตราสโมสร หรือการนำธงไปวางไว้กลางสนามแล้วร้องไห้ มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ แต่มันเป็นน้ำตาแห่งความปิติ กว่า 385 วันที่พวกเขาต้องตกชั้นจากลีกสูงสุด ในตอนนี้ธงตราสัญลักษณ์สีน้ำเงินของพวกเขากำลังจะกลับขึ้นไปอยู่ในจุดที่พวกเขาควรอยู่อีกครั้ง
.
- ถูกที่ถูกเวลา
เหตุการณ์ความมหัศจรรย์เหล่านี้อาจจะไม่เกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นได้ยาก ถ้าหากการวางแผนผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว อาจจะต้องยกเครดิตให้กับ รูเวน ชรูเดอร์ ผู้อำนวยการกีฬา และบรรดาทีมงานทั้งหมด ที่เปลี่ยนแปลงระบบ และจัดสรรหานักเตะมาร่วมทัพจนพาทีมเลื่อนชั้นกลับมาได้ โดยที่เห็นชัดสุดคงเป็นรายของ ซีโมน เทร็อดเดอ ที่ทำประตูในลีกไป 30 ประตู 4 แอสซิสต์ จาก 30 เกม เขาคือคนที่ยิงประตูเกือบจะ 50% ให้กับทีม โดยทั้งฤดูกาลทั้งทีมทำประตูไปได้ 72 ประตู แต่ เทร็อดเดอ ทำประตูไปแล้ว 30 ประตู และ ศูนย์หน้าที่ยืนคู่กับเขาอย่าง มาธิอุส บัตเลอร์ ก็ทำผลงาน 10 ประตู และ 10 แอสซิสต์ หรือจะเป็น โค อิตาคุระ เซนเตอร์ชาว ญี่ปุ่น ที่ยืมตัวจาก แมน ซิตี้ ที่ทำผลงานดีแถมทำประตูได้อีก 4 ประตู หรือจะเป็นผู้นำในแนวรับอย่าง แมลิค เธียว ก็คอยป้องกัน และผู้รักษาประตูอย่าง มาร์ติน ไฟรเซิ่ล ที่เซ็นตัวมาฟรีจาก เดน ฮาก และเก็บคลีนชีต ได้ถึง 10 นัด อาจจะเป็นจังหวะที่นักเตะหลายๆคนระเบิดฟอร์มมาก็จริง แต่มันก็คงจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าหาก ขาดความกระหายที่ต้องการเลื่อนชั้นกลับไปลีกสูงสุดอีกครั้ง
ต้องมาดูกันว่าหลังจากพวกเขากลับไปบนลีกสูงสุด พวกเขาจะสามารถรักษาฟอร์มและอยู่บนลีกสูงสุดได้ต่อหรือไม่โดย ชรูเดอร์ ก็ออกมาเปิดเผยว่า ไมค์ บุสเก้นส์ จะไม่คุมทีมต่อในฤดาลหน้าแต่จะไปทำงานอยู่เบื้องหลังร่วมกับตน และพวกเขาต้องตามหาคนที่จะมานำทีมที่จะลงเล่นบนลีกสูงสุดต่อไป
เรียบเรียง : แอดมิน KY

SoccerSuck พร้อมนำเสนอรายการที่ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล!
ผ่านทุกช่องทางของ SoccerSuck TH แล้วที่

Facebook: https://bit.ly/3DeU6BX
Instagram: https://bit.ly/3xzln0z
YouTube: https://bit.ly/3reBi3f
TikTok: https://bit.ly/3o2AdJP
Blockdit: https://bit.ly/3qU7B5G
Website: www.soccersuck.com

อ้างอิง:
https://www.whoscored.com/Teams/39/Show/Germany-Schalke-04
https://www.transfermarkt.com/.../verein/33/saison_id/2021
#Soccersuck #Schalke04 #Bundesliga

แก้ไขล่าสุดโดย Advertorial_SS เมื่อ Wed Sep 21, 2022 15:55, ทั้งหมด 1 ครั้ง
5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: สับอีแอบและสับพฤติกรรมอีแอบ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 13902
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 17, 2022 19:34
[RE: การกลับมาลีกสูงสุดอีกครั้งของ ราชันสีน้ำเงิน ชาลเก้ 04 !!!!]
แว๊บแรกนึกว่าเลสเตอร์ ซิตี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 4966
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue May 17, 2022 19:36
[RE: การกลับมาลีกสูงสุดอีกครั้งของ ราชันสีน้ำเงิน ชาลเก้ 04 !!!!]
ยินดีกับน้าสันติด้วยนะครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: ขอแฮงจงสิงอยู่กับข่อย
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Sep 2010
ตอบ: 18457
ที่อยู่: The Mistletoe
โพสเมื่อ: Tue May 17, 2022 19:39
[RE: การกลับมาลีกสูงสุดอีกครั้งของ ราชันสีน้ำเงิน ชาลเก้ 04 !!!!]
เห็นรูปนักเตะญี่ปุ่นในภาพ คิดถึงตอนอูชิดะกำลังกลัดมันในชปล.เลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Jun 2009
ตอบ: 6675
ที่อยู่: อยู่บ้านจ้ะ
โพสเมื่อ: Tue May 17, 2022 23:24
[RE: การกลับมาลีกสูงสุดอีกครั้งของ ราชันสีน้ำเงิน ชาลเก้ 04 !!!!]
ถ้าบอกว่าจะได้เลื่อนชั้นตอนเบรคหนีหนาวนี่ให้ตายยังไงก็ไม่เชื่อ เปลี่ยนโค๊ชทีเดียวอยู่เลย เสียดายว่าบุสเคนปีหน้าจะกลับลงไปคุมทีมเด็กเลยต้องหาโค๊ชใหม่อีก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel