มีเรื่องแชร์ให้อ่านกัน
ตัวผมทำงานในสายโลจิสติกส์ แน่นอนว่าเงินดีมาก แต่ก็ใช้ร่างกายกับทรัพยากรส่วนตัวเยอะเหมือนกัน เช่น พอเหนื่อยก็ซื้อของกินของใช้เพื่อชดเชย , ใช้เงิน/รถ/น้ำมัน ของตัวเองในการทำงานเยอะมาก เพราะขี้เกียจเบิก
ทำงานมา 8ปี มีหนี้บัตรเครดิต 2แสน หนี้รถยน์อีก4แสน เงินเก็บหลักร้อย อย่าเรียกว่าเงินเก็บเลย แค่แยกบัญชีออกมาแล้วหลอกตัวเอง
อีกปัญหานึงคือเปลี่ยนงานบ่อย มีผลอย่างมากในเรื่องของโบนัส ทำให้บางปีคร่อมๆปี ไม่ได้โบนัสกับเค้าหรือได้ไม่เต็ม ทำให้ไม่ได้เคลียร์บัตรเครดิตไม่ได้เคลียร์หนี้สิน
เอาแหละ โซลูชั่นผมง่ายมากๆ คือแฟน(เมียในปัจจุบัน) เค้าเก็บเงินโหดมาก ทำงาน2-3ปี มีเงินแสนแล้ว แฟนยื่นคำขาดให้เก็บ
ผมก็ต่อต้านทันที โดยใช้ข้ออ้างดั้งเดิมเลยคือทุกวันนี้ก็ไม่พอใช้แล้ว พี่ทำงานเหนื่อยขอรางวัลชีวิตบ้าง
จนทะเลาะกันใหญ่โต แฟนเลยไม่พูดเรื่องนี้อีกเลยเป็นปีๆ
จนถึงวันแต่งงาน ผมกู้แบงค์(เงินกู้เพื่อุปโภคบริโภค)มาจัดงานแต่ง แล้วพบว่าผมมีหนี้เน่าๆครึ่งล้านแบบไม่รู้ตัว รู้สึกอับอายมาก ชีวิตบัดซบมาก สงสารแฟนที่ต้องมีสามีแบบนี้
ตัดสินใจว่าจะพิสูจน์ให้แฟนเห็น ตอนนั้นเงินเดือนเริ่มโอเคแล้ว(75k) ง่ายๆเลย ผมโอนให้แฟน15,000ทุกเดือน ให้เค้าเอาไปเก็บรูปแบบอะไรก็ได้
แล้วผมก็แอบเก็บเองเดือนละ 2-5พัน ช่วงวันที่28ของเดือนถ้าเงินเหลือจะกี่ร้อยก็ตาม ผมโอนเข้าบัญชีเงินเก็บเลย
ทำแบบนี้อยู่3ปีเต็มๆ โดยไม่มีข้ออ้างให้ตัวเอง ไม่ให้อภัยตัวเอง ..... เห้ย จากหนี้ครึ่งล้าน กลับมามีเงินเก็บครึ่งล้าน ผมจะขอดูบัญชีที่แฟนเก็บให้ปีละ1-2ครั้ง เพื่อไม่ให้ปีศาจในตัวผมมันมีช่องถอนเงินออกมา
ไม่ต้องสนเรื่อง15,000บาทตรงนั้นก็ได้ เอาแค่เงินผมเก็บเล่นๆเดือนละไม่กี่พันบาท มันก็งอกเงยเกือบแสนแล้ว ขนาดว่ามีช่วงถอนออกมาต่อเติมบ้านด้วย
ถึงวันนี้เชียร์ทุกคนเลยว่า วินัยการออม โคตรสำคัญเลย 2-3ปี เห็นเงินหลายๆหมื่นในบัญชีแล้วชื่นใจมาก
ปล.หนี้บัตร ยังอยู่น่ะ แต่ก็บางลงเหลือ4-5หมื่นแล้ว ก็ใช้รูดไปบ้าง เรื่อยเปื่อย แต่ไม่ให้มันมาทำลายชีวิตแน่นอน