ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
12 December 2021 03:46 by เบน ฟรีคิก
“โค้ชขิง” กับภารกิจที่ “เกือบ” สำเร็จ






เกมกระชากลมหายใจจนถึงวินาทีสุดท้ายที่ แอนฟิลด์ สะท้อนความเป็นตัวตนของคน 2 คนได้ออกมาชัดเจนที่สุดเท่าที่จะชัดได้แล้วครับ

ง่ายๆคือ 1. เหมือนเราเห็น สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ลงมาอยู่ในสนามผ่านการส่งต่อ “สไตล์” ตัวเองในอดีตสู่นักเตะ แอสตัน วิลล่า ทุกคน

และ 2. หากวันนี้ไม่ใช่ ลิเวอร์พูล ที่อยู่ในยุคของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ผมเชื่อว่าอาจไม่ได้จบที่ 3 แต้ม

รูปเกมหรือสกอร์ที่ออกมาไม่ได้ทำให้คุณหรือผม “เซอร์ไพรซ์” เพราะคาดการณ์กันเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า “โค้ชขิง” จัดให้น้ำบานแน่นอน

สัมผัสได้จากการโหมโรงก่อนเกมนี้ คือด้วยความเป็นมืออาชีพ เจอร์ราร์ด เองก็อยากพิสูจน์ว่าความผูกพันที่มีต่อ “หงส์แดง” ไม่มีทางอยู่เหนือความเป็นมืออาชีพ

สิ่งที่จะพิสูจน์เพื่อไม่ให้มี “คำถาม” พวกนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตคือลงมือแสดงให้เห็นในวันนี้ไปเลย

ครับ ผมแทบไม่เคยเจอใครบดและชวนทะเลาะกับ ลิเวอร์พูล อย่างเป็นเอาตายเพื่อจะทวงประตูเหมือนในเกมนี้มาก่อน อาจเคยมี (หลงลืมไป) แต่ที่แน่ๆเกมนี้ต้องติด 1 ใน 3 อย่างแน่นอน

สไตล์ของ “โค้ชขิง” ยืดหยุ่นตามสถานการณ์จนมีคนตั้งประเด็นว่าคล้ายๆ JK คือเพรสดุเข้าหนักและได้กลิ่นอายของ ราฟา เบนิเตซ ที่ขันแนวรับแน่นกลางแน่นและฉวยโอกาสจากการสวนกลับโดยเล่นให้น้อยจังหวะที่สุด

สิ่งที่ เจอร์ราร์ด อาจไม่มีเหมือน คล็อปป์ หรือ ราฟา คือศักยภาพนักเตะที่จะมาเติมเต็มให้ระบบมันลงตัว

เมื่อพูดถึงตรงนี้แล้วแน่นอนครับแสดงให้เห็นว่า “โค้ชขิง” เข้าข่าย “คนมีของ” และนับจากนี้เป็นเรื่องของการสะสมบารมีและเก็บชั่วโมงบิน

สำหรับ “หงส์แดง” หลังเจอ วิลล่า อุดยกทีมก็ขึงเกือบๆข้างเดียวอันเป็นรูปแบบที่เคยชิน แต่ท่ามกลางนักเตะทีมเยือน 7-8 ตัวในกรอบเขตโทษทำให้โอกาสแต่ละครั้งที่ได้เป็น half chances แทบทั้งนั้น

แต่ด้วยความซุ่มซ่าม (clumsy) ของ ไทรอน มิงส์ กลายเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะในเกมนี้ในที่สุด

จังหวะนี้ใครได้ดูรีเพลย์จะเห็นได้ว่าทั้ง มิงส์ และ ซาลาห์ เบียดขนาบเท่ากันเป๊ะๆจนกระทั่ง “โม” ใช้ช่วงเสี้ยววินาทีที่ มิงส์ กำลังจะเคลียร์บอลเอาขาเข้าขวางจนรถมีการ “แลกสี” กัน

ตรงนี้เองครับที่ เจอร์ราร์ด ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่า โม ทำฟาว์ล มิงส์ ก่อนแต่ใครเล่นบอลจะรู้ว่าการเอาขายื่นขวางแบบไปทั้งตัว (ไม่ใช่ตัวอยู่กับที่แต่ขายื่นไปขัดฝ่ายตรงข้าม) มันคือการบังบอล เป็นการชิงเหลี่ยม

ภาพที่ออกมาจึงกลายเป็น มิงส์ ที่เสียความได้เปรียบไปแล้วพยายาม “โค่น” ซาลาห์ และอาจมองว่าจังหวะนัวเนียที่ว่านี้จะทำให้ผู้ตัดสินมองว่าเบาไปที่จะให้จุดโทษ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ มิงส์ แก “หางาน” ให้ตัวเองและเพื่อนร่วมทีม คือมันมีเส้นบางๆกั้นอยู่เพราะแกเป็นนักเตะที่ไว, เบียดและบล็อกดีแต่ปัญหาคือเวลาแจกโชคนี่เตะตาและเด่นหรามาเลย เป็นข้อจำกัดที่ทำให้แข้งวัย 28 ปีเหมือนมาสุดได้แค่นี้

จะว่าไปแล้ว ลิเวอร์พูล เองมีดวงมีโชคไม่น้อยหลัง อลิสซอน เหวอ 2 จังหวะทั้งในครึ่งแรกและครึ่งหลังแต่รอดพ้นการเสียประตูไปทั้งหมด

โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมที่ “พ่อหมี” ไปรวบ แดนนี่ อิงส์ ในเขตโทษเกือบทำให้ เดอะ ค็อป หายใจวาบ

แม้ท้ายที่สุดผมเชื่อว่าหากมีจุดโทษจริง VAR อาจริบเพราะ อิงส์ ใช้ 2 มือผลัก โจเอล มาติ๊ป จนไปบวกกับ อลิสซอน ค่อนข้างชัดเจน

ผมกล้าพูดได้ว่าทั้ง แมนฯซิตี้ และ ลิเวอร์พูล รู้สึก “โล่งอก” ที่ผ่านโปรแกรมหินนี้พร้อมกับ 3 แต้มหากพิจารณาจากแนวทางการเล่น วิลล่า ที่พลังงานพลังกายล้นเหลือเกิน

“สตีวี่จี” ซึ่งกลับ แอนฟิลด์ หนแรกนับตั้งแต่โบกมือลาเมื่อปี 2015 คุม วิลล่า มาจนถึงตอนนี้แล้ว 5 นัด ชนะ 3 โดย 2 นัดที่มือเปล่าคือการแพ้ “จ่าฝูง” และ “รองฝูง”

เป็นการนำพา “สิงห์ผงาด” back on track ทั้งๆที่ก่อนรับงานนี้ทีมแพ้มา 5 นัดรวดและหล่นไปไกลถึงอันดับ 17 อยู่เหนือโซนตกชั้นแค่ 2 แต้ม

ผลงานและทรงบอลที่ผ่านตาจนกระทั่งมาเจอกับตัวเอง อย่างน้อยก็ทำให้ เดอะ ค็อป มองเห็นทายาท JK คนต่อไปอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลซักเท่าไหร่ครับ...


สถิติ สถิติ สถิติ

จนถึงตอนนี้ โม ซาลาห์ ทำประตูหรือแอสซิสต์ (หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง) 14 เกมใน พรีเมียร์ลีก ติดต่อกันแล้ว เหลืออีกแค่ลูกเดียวก็จะเทียบเท่า เจมี่ วาร์ดี้ ที่เคยทำไว้เมื่อเดือนสิงหาคมและธันวาคม 2015

โม ยิงจุดโทษเข้าตลอด 15 ครั้งใน พรีเมียร์ลีก เป็นนักเตะรายที่ 2 ที่ยิงติดต่อกันนานที่สุดนับตั้งแต่ แมทธิว เลอทิสซิเอร์ ทำไว้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน (23 ลูกติดต่อกัน มกราคม 1994 - เมษายน 2000)

ลิเวอร์พูล ชนะ 1-0 2 เกมติดต่อกันเป็นหนแรกนับตั้งแต่ธันวาคม 2015 และเกมที่เบียด แอสตัน วิลล่า ที่แอนฟิลด์ เป็นการฉลองชัยชนะในสกอร์ 1-0 เป็นนัดที่ 100 อีกใน พรีเมียร์ลีก อีกด้วย

เมื่อเทียบกับนักเตะทุกคน (ที่ยิงประตูอย่างน้อย 8 ลูก) จอร์จินโญ่ ของ เชลซี มีเปอร์เซนต์การยิงจุดโทษสูงที่สุดถึง 88 (15 ประตูจากโอกาส 17 หน)

ประตูชัยของ จอร์จินโญ่ ในนาที 93.11 เป็นประตูท้ายเกมที่สุดใน พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ ฟลอร็องต์ มาลูด้า เคยทำใส่ สโต๊ค เมื่อกันยายน 2009 (93.36)

อันโตนิโอ รูดิเกอร์ เป็นนักเตะรายที่ 2 ของ เชลซี ที่เรียกจุดโทษ 2 หนในเกมเดียว (พรีเมียร์ลีก) โดยคนแรกที่ทำได้คือ ยูริ เชอร์คอฟ เกมพบ แอสตัน วิลล่า เมื่อเดือนมีนาคม 2010

“สิงห์บลู” เสีย 8 ประตูใน 3 เกมหลังสุดทุกรายการ จำนวนประตูที่เสียไปดังกล่าวเท่ากับช่วงเหนียวๆใน 18 นัดก่อนหน้านี้เลยทีเดียว

40% ของประตูใน พรีเมียร์ลีก ที่ เชลซี เสียไปในซีซั่นนี้มาจากจุดโทษ นับเป็นค่าเฉลี่ยสูงสุดของลีกเลยทีเดียว

เมสัน เมาท์ มีส่วนร่วมโดยตรงกับ 10 ประตูใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ (ยิง 6 จ่าย 4) มีแค่ โม ซาลาห์ (22) และ เอ็มมานูเอล เดนนิส (12) ที่ทำได้มากกว่า

ราล์ฟ รังนิค เป็นกุนซือรายที่ 2 ของ แมนฯยูฯ ที่เก็บคลีนชีทใน 2 เกมที่คุมทีมหลัง เออร์เนสต์ แม็งนอลล์ ทำไว้เมื่อปี 1903

คริสติอาโน่ โรนัลโด้ เป็นนักเตะรายที่ 3 ที่ทำประตูให้ 3 กุนซือภายในซีซั่นเดียว (โซลชา, คาร์ริค และ รังนิค) โดยก่อนหน้านี้ เจมส์ แฮนสัน และ โจ สเปนซ์ เคยทำไว้เมื่อซีซั่น 1926-27

ไม่มีใครใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ยิง “ประตูชัย” มากไปกว่า CR7 อีกแล้ว (4 ประตูเท่า แบร์นาโด้ ซิลวา)

นับตั้งแต่ฤดูกาล 2019-20 บูคาโย่ ซาก้า แอสซิสต์ไปแล้ว 22 ลูกให้ อาร์เซนอล ในทุกรายการ มากกว่าทุกๆคนในสโมสรถึง 4 ลูก

เซาธ์แฮมป์ตัน ไม่ชนะเกมเยือน อาร์เซนอล ใน พรีเมียร์ลีก รวม 23 นัดติดต่อกันแล้ว (เสมอ 7 แพ้ 16) นับเป็นสถิติสูงสุดที่ทีมเยือนไม่ชนะคู่แข่งทีมเดิมติดต่อกัน

แมนฯซิตี้ ชนะ 32 จาก 40 เกมใน พรีเมียร์ลีกในปี 2021 (เสมอ 2 แพ้ 6) และในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุด อังกฤษ มีเพียง ลิเวอร์พูล ในปี 1982 (ชนะ 33) เท่านั้นที่ชนะมากกว่าพวกเขาในปีปฏิทินเดียว

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นนักเตะคนที่ 3 ในปี 2021 ที่ยิงประตูใน พรีเมียร์ลีก ครบ 100 ลูกตามหลัง โม ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ โดยหากไม่นับปี 2008 และ 2012 ก็ไม่มีเลยจะมีนักเตะมากถึง 3 คนฉลองยิงครบ 100 ลูกในปฏิทินเดียว
แก้ไขล่าสุดโดย เบน ฟรีคิก เมื่อ Sun Dec 12, 2021 03:57, ทั้งหมด 1 ครั้ง
10
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: อยากไปหา ตอนนี้เลย!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 17539
ที่อยู่: ทุกที่ที่มีเธอ
โพสเมื่อ: Sun Dec 12, 2021 08:59
[RE: “โค้ชขิง” กับภารกิจที่ “เกือบ” สำเร็จ]
สองนัดที่ผ่านมา วูลฟ์ วิลล่า โรคเก่าถามหา นิ่วกำเริบ เยี่ยวเหนียวชะมัด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Dave Grohl NIRVANA (1990–1994)
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 May 2020
ตอบ: 130
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 12, 2021 11:01
ถูกแบนแล้ว
[RE: “โค้ชขิง” กับภารกิจที่ “เกือบ” สำเร็จ]
ซาร่า มีพุ่ง ทำดีดตัวยก2ขาชี้ฟ้าด้วย ทำเหมือนสมัยก่อนที่ไม่มีvar
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Jun 2009
ตอบ: 2568
ที่อยู่: Old trafford
โพสเมื่อ: Mon Dec 13, 2021 15:07
[RE: “โค้ชขิง” กับภารกิจที่ “เกือบ” สำเร็จ]
ทรงมาดีเลย นักเตะดูกระตือรือร้นขึ้นเยอะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Keep playing

-------------------------------------------------->
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel