Tesla อาจเปิดตัวสมาร์ตโฟนปลายปีนี้ ใช้ชื่อ Model Pi อัดเทคโนโลยีเพียบ สามารถเชื่อมต่อกับดาวเทียม

มีข่าวลือออกมาจากสื่อต่างประเทศหลายแห่งว่า เร็วๆนี้ Tesla อาจเปิดตัวสมาร์ตโฟนตัวแรกที่ใช้ชื่อว่า Tesla Model Pi โดยคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2021 แต่ยังไม่มีการระบุว่าจะมีราคาเท่าไหร่

โดยสื่อหลายแห่งให้ข้อมูลตรงกันว่า Tesla Model Pi จะมีดีไซน์คล้าย iPhone 12 มาพร้อมกับหน้าจอ 4K ระดับไฮเอนด์ มีกล้อง 4 ตัว กล้องหลักความละเอียด 108MP ขับเคลื่อนด้วยชิป Snapdragon 898 SoC และมีพื้นที่เก็บข้อมูลแบบแฟลชสูงสุด 2TB และที่น่าสนใจคือตัวเครื่องมีการเคลือบสารพิเศษที่สามารถเปลี่ยนสีของเครื่องได้เอง โดยขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ใช้ และยังมีเทคโนโลยีชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ด้วย

นอกจากนี้ Tesla Model Pi ยังสามารถเชื่อมต่อกับดาวเทียม Starlink ของ SpaceX เพื่อใช้อินเทอร์เน็ตซึ่งมีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงถึง 210 Mbps และยังสามารถทำ Mining เหรียญคริปโทเคอร์เรนซี่ที่ชื่อ Marcoin ได้ด้วย

ยังมีการคาดอีกว่า Tesla Model Pi จะรองรับเทคโนโลยี 5G และอาจรวมถึงเทคโนโลยี "neural link connection" ที่จะเชื่อมโยงและส่งข้อมูลจากสมองผู้ใช้ไปสู่ตัวเครื่อง และอาจมีเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆด้วย

ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและวันที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ มีเพียงข่าวลือว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2021 ซึ่งจากตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกแค่ 1 เดือนเศษ ต้องรอดูว่า Tesla จะเปิดตัว สมาร์ตโฟนสุดล้ำตัวนี้จริงหรือไม่

https://moneyandbanking.co.th/.../tesla-model-pi-24112021


เชื่อมต่อกับดาวเทียม โหดส้ส

ขอ os ลื่นๆนะลอนนะ

โดย Tesla model Pi จะใช้ Platform Symbian

โฟกัสที่ os ก่อนเลย

ซื้อมาขุดเหมือง

ถ้าจะแข่ง น่าลองไปโฟกัสที่แบตเตอรี่ ถ้าสามารถทำให้ใช้วายได้นานเหมือนยุคโทรศัพท์ซิมเบี้ยนนะ ถือว่าเปลี่ยนโลกสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว

มือถือสมัยนี้สเปคมันไม่ได้ห่างกันขนาดนั้นอ่ะ เขาวัดกันที่ os ซึ่งผมว่า tesla เก่งยยังไงก็ไม่น่าจะทำ os ดีๆได้ในเร็ววันขนาดนั้น หรือว่าพี่แกเลือกใช้ HarmonyOS

to da moon

เชื่อว่าใช้ แอนดรอยด์ os นั่นแหละ

ขายแค่ความเป็นแบรนด์เทสล่า กับ สเปค hardware แบบว้าวๆ

เทคโนโลยีแบตลิเทียมต้องเข้าแล้วหล่ะ รองรับการชาร์จหมุนเวียนจากธรรมชาติ น่าจะตอบโจทย์กลุ่มคนใช้งานจริงๆ

ขอสถานีชาร์จทุก 5 เมตร

Model "ปิ๊"

คู่แข่งเยอะ ผลประโยชน์ก็ตกอยู่กับผู้บริโภค

ถ้าทำได้จริงนี่จะโหดขนาดไหน เทคโนโลยีเริ่มไปไวจริงๆ

อิจฉาคน usa เว้ย ได้ใช้แต่ของดีๆ