ถามความเห็นแฟนแมนยูเล่นๆ ครับ

ที่ผมคิดไว้ รังนิค มาคุมแมนยู ออกได้ 3 หน้า

1. ผลงานดีมาก ติด top 4 รูปเกมดี อาจจะถึงลุ้นแชมป์ > แฟนๆ + บอร์ดอยากให้คุมต่อ (แต่ผมเดาว่ารังนิคคงยืนยันจะไปทำงานบริหาร)

2. ผลงานกลางๆ ติด top 4 หรืออาจจะไม่ติด แต่รูปเกมกลางๆ ไปถึงดี > จบฤดูกาล รังนิคไปทำงานบริหารเหมือนที่วางแผนไว้

3. ผลงานแย่ประมาณโอเล่ หรือแย่กว่า ฟอร์มไม่ดี อันดับรูดลงไปกลางตาราง > ?

คิดว่าถ้าออกหน้า 3 จะมีโอกาสปลดรังนิคก่อนจบฤดูกาลมั้ย แล้วถ้าปลด จะยังให้ไปทำหน้าที่บริหารต่อรึเปล่า หรือต่อให้คุมจนจบแบบผลงานแย่ ยังจะให้ไปทำงานบริหารเหมือนที่วางแผนไว้รึเปล่า

ถ้าสัญญาร่างไว้แล้ว คงไม่ปลดครับ ถึงปลดก็คงรับ บริหารต่อ ถ้าปลดแล้วยังไล่ออกอีก มีจ่ายค่าฉีก บานตะไทครับผมว่า

ไม่สนใจ 6 เดือน หวังผลยากอยู่แล้ว
รอดูงานที่ปรึกษาดีกว่า แต่ถ้าบอร์ดชุดเดิม ยังคอยล้วงลูกอยู่เรื่อยๆ
ก็เปล่าประโยชน์ครับ

แย่สุดคือดันแกขึ้นเป็นที่ปรึกษาเลยแล้วหาคนคุมใหม่อ่ะครับ แต่ไม่น่าขนาดนั้นหรอก

เอาจริงๆสิ่งที่คาดหวังจากการได้ฝีมือระดับครูอย่างรังนิกเข้ามาอยู๋กับทีมคือ อยากได้แนวทางการเล่นของทีมที่ชัดเจนนะ อย่างสมัยเซอร์อเล็กซ์ แมนยูมีคอนเซปต์การเข้าทำฉับไว บอลน้อยจังหวะ เคลื่อนไปข้างหน้ารวดเร็ว อาจจะเปลี่ยนแผน 4-4-2, 4-5-1 หรือ4-3-3 คอนเซปต์การเข้าทำมันก็ยังอยู่

มายุคหลังคือมันหาตัวตนไม่เจอจริงๆ

ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปครับ

ยังไงก็ให้คุมยาวจนจบฤดูกาล แล้วไปทำงานที่ปรึกษา
งานบริหารที่เซ็นสัญญากันไว้ล่วงหน้าแล้ว


เฮียเม้งซัมเมอร์ฮิลบอกว่า
ฟุตบอลบางทีปัญหาอยู่ที่นักบอลเอาไม่เอา

ช่วงโซลชามาใหม่ๆนักบอลกลับมาวิ่ง ช่วยกันเล่น
ทำให้ชนะรวด

ตรงกับบทวิเคราะห์ที่ออกมาว่า ผู้เล่นแมนยูเริ่มไม่เชื่อใจโซลชาทีละเรื่องๆ
เช่นให้แม็คไกวร์ที่เพิ่งหายเจ็บลงสนาม ทั้งที่ไม่ฟิต
ไบยี่ถึงกับต้องเดินมาถามส่วนตัว
หรือการไม่ใช้นักเตะบางคน
ไม่กล้าเผชิญปัญหา

รังนิคถนัดแนะนำถ้าคุมทีมไม่ดีก็เอาคาริคคุมให้รังนิคแนะนำ

ขอติดทอปโฟร์อ่า หลังจากนั่น เทน ฮาก

ส่วนต้วผมเชื่อว่าผลงานแย่กว่าโอเล่ช่วงท้ายไม่มีทางเป็นไปได้เลยตามที่เห็นจากบอลเปลี่ยนโค้ชหลายๆทีม ส่วนที่เหลือไม่ได้คาดหวังเป็นรูปธรรมแบบมีถ้วยหรืออะไรมากนัก แค่อยากเห็นแมนยูเล่นบอลเป็นทรงแบบทีมสมัยใหม่เค้าเล่นกัน คำว่าเป็นทรงคือเล่นกันเป็นทีม เพรสก็เพรสทั้งทีมไม่ต้องมีคนนำไม่ต้องมีคนคอยกวักมือเรียกเพื่อน ต่อบอลโดยมีเพื่อนวิ่งไลน์หาช่องอัตโนมัติไม่ต่องคอยมองหาเพื่อนดึงจังหวะยึกยักไปมา ที่ผ่านมาแมนยูไม่เคยเล่นแบบนี้เลยไม่ว่าผู้จัดการทีมจะเป็นใคร

ความคาดหวัง คืออยากให้จบท้อป4 ให้ได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยควรจะได้ลุ้นไปจนจบ

ส่วนเรื่องอื่นไม่คาดหวังมาก 6เดือนคงก็ใส่ระบบอะไรไม่ได้เยอะหรอก ดูการเล่นของแมนยูไม่เป็นชิ้นเป็นอันอะไรเลย

แต่ที่คาดหวังมากๆเลยคือเข้ามาพัฒนาโครงสร้างที่มันล้าหลังเนี่ยแหละ ส่วนผลงานไม่อยากคาดหวัง

ถ้าอยากติดท็อป4จริง บัลบาเด้คือคนที่เหมาะกว่ารังนิก จบแล้วแยกย้ายแต่พอเป็นรังนิกผมหวังอย่างอื่นแล้ว
ผมบอกแต่แรกแล้วว่าถ้ารังนิกมาทำใจก่อนเลยว่าปีนี้อาจจะแย่ไม่จบท็อป4 แต่ให้ดูสิ่งที่ได้หลังจากนั้น

ข้อแรกเลยก็วิธีเล่นบอล แมนยูน่าจะได้ตั้งแนวทางทีมซักทีนึง หลังจากสะเปะสะปะมาหลายปี

การหาผู้เล่นเข้าทีม ถ้าบอกว่าแกคือสายปั้นนั้นก็เหมาะกับแมนยูตอนนี้ 11ตัวจริงแมนยูเก่งระดับนึงอยู่แล้วฝีเท้าดี
แต่ขาดการบาลานซ์จนต้องมาถามหาตำแหน่งที่เป็นบ่อทุกปีๆ ถ้าแกมีส่วนตรงนี้ squad แข็งกว่านี้แน่ๆ
ซื้อตัวเก่งอยู่แล้วใครๆก็ซื้อได้ถ้ามีเงิน แต่สิ่งที่แมนยูขาดคือตัวที่เหมาะกับการปั้นซื้อมาแล้วปั้นไม่ขึ้น

สตาฟฟในทีมแมนยูมีสิทธิ์ปลิวหมดทุกคน เพราะเป็นสายแท็คติค แต่ขาดความสามารถเรื่องเทคนิค
ถ้าดูแมนยูจะรู้ว่ามีแค่ชอว์ที่ยกระดับตัวเองได้คนอื่นไม่ทรงก็ทรุด โค้ชที่ช่วยสอนแนะนำเพื่อให้นักเตะเก่งขึ้นมีผลมาก

พวกนี้แหล่ะที่ผมหวังจากตัวรังนิก เรื่องท็อป4ผมไม่ค่อยสนดูในสนามแล้วรู้สึกว่าดีขึ้นก็โอเค อันดับได้เท่าไหร่เท่านั้น

ที่พูดมาคือความคาดหวังเฉยๆ จะตัดสินแกต้องดูในสนามหรือผลงานกันอีกที

ส่วนตัวปลื้มกับผลงานเบื้องหลังมากกว่า

ผมว่าน่าจะออกมากลางๆ เพราะนักเตะต้องปรับตัวไหม่กับทุกอย่างเลย ซึ่งไม่ง่ายเพราะลงแข่งถี่

อาจจะรอดไป uclปีหน้าแบบหวิวหวิด

ส่วนตัวผมสนใจหลังจากนั้นมากกว่า แกเอาปรัชญามาไส่แล้ว ก็ต้องเลือกโค้ชคนไหม่ที่เหมาะสมได้แน่นอน

มันสนุกตรงนี้แหละ มันส์สะยิ่งกว่าตลาดซื้อตัว