ด้วยเหตุนี้จึงเสนอยุทธศาสตร์ ‘อีสานสองเท่า’ เป็นเส้นทางใหม่ ที่เรียกว่าเส้นก้าวไกล โดยในปี 2575 ประชากรในภาคอีสานจะมีรายได้เฉลี่ยต่อหัว 1.8 แสนบาท 2 เท่า ของรายได้เฉลี่ยต่อหัวปีที่แล้ว โดยการจะไปถึงตรงนั้นได้ต้องวิเคราะห์สิ่งที่เรียกว่าสถานการณ์ของเศรษฐกิจภาคอีสาน และต้องการเครื่องจักรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ - สังคม ทุกตัว ให้ภาคอีสานโตได้ไว โตได้ และโตอย่างยั่งยืน
.
“เราพบว่าเครื่องจักรเศรษฐกิจในอีสาน มี 4 ลักษณะคือเกษตร อุตสาหกรรม การศึกษา และการค้าส่ง - ค้าปลีก แต่เครื่องจักรเหล่านี้มีปัญหาคือเติบโตช้ามาก
.
“เรื่องเกษตร เจอปัญหาทั้งความไม่มั่นคงในที่ดินทำกิน ปัญหาน้ำขาดแคลน น้ำท่วม ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ไม่แน่นอน และปัญหาหนี้สินการเกษตร ถ้าจะแก้ภาคเกษตรก็ต้องแก้ 4 ปัญหานี้ ให้รายได้เพิ่มขึ้น”
.
ส่วนด้านอุตสาหกรรม ต้องต่อยอดภาคเกษตรไปยังอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมสมุนไพรและสุขภาพ อุตสาหกรรมด้านเศรษฐกิจชีวภาพ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการพัฒนายานพาหนะไฟฟ้า ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ได้มองเฉพาะการตอบโจทย์ในอีสาน หรือภายในประเทศไทยเท่านั้น แต่อุตสาหกรรมในภาคอีสานจะสามารถตอบโจทย์ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงด้วย
.
สำหรับอุตสาหกรรมด้านค้าส่ง–ค้าปลีกที่ผ่านมา อาจเห็นว่ามีสัดส่วนที่สูงในพื้นที่ภาคอีสาน แต่สิ่งที่อีสานกำลังเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้คือการเข้ามาของยักษ์ใหญ่ในวงการค้าส่ง-
ค้าปลีก และค้าส่งรายย่อย กำลังสูญเสียตลาด สูญเสียส่วนแบ่ง จึงต้องสร้างความเข้มแข็งให้สามารถรับมือกับการเคลื่อนเข้ามาของอุตสาหกรรมค้าปลีก-ค้าส่งรายใหญ่ให้ได้ เอื้อโอกาสให้พี่น้องในชุมชนให้ได้
https://www.facebook.com/themomentumco/photos/a.1636533129971718/2810948459196840

อยากเห็นอะไรใหม่ๆ

ตอนแรกคิดว่าจะขึ้นค่าแรงไรพวกนั้นผมไม่เห็นด้วยนะ แต่มาอ่านถือว่าดีมากเป็นการทำเกี่ยวกับโครงสร้างต่างๆแทน
การขึ้นค่าแรงเป็นความคิดที่ไร้สติปัญญาที่สุดไม่ว่าฝ่ายไหนทำไม่รู้ถึงผลกระทบว่าทำแล้วจะเกิดไรขึ้น

โนเบลให้รางวัลสาขาเศรษฐศาสตร์แก่นักวิชาการที่ค้นพบว่า ‘การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไม่ทำให้คนตกงาน’

อันนี้ลิงค์เผื่ออยากอ่านครับ​ https://plus.thairath.co.th/topic/money/100593

คนมัวแต่ทำงานจนไม่สนใจสภาพความเป็นอยู่ทำงานหาเลี้ยงตัวเองยังแย่ยังต้องหาเลี้ยงครอบครัวกับค่าแรงวันละ300​ ไม่รู้ว่ากี่ชาติจะอยู่สบาย​ กดให้จนแล้วแจก​ คำพูดนี้มันเลยอยู่ได้​ตลอด​ คนที่ทำงานวันละ8-10ชั่วโมงเพื่อรายได้น้อยนิด​ทำงาน7วัน​ เขาจะมีเวลามาสนใจโครงสร้างต่างๆไหมครับ​ ช่วยให้คนมีรายได้มากขึ้นผมว่าดีมาก​ ของทุกอย่างแพงขึ้นรายได้เท่าเดิม​ มันทำให้เกิดอะไรหลายๆอย่าง​ อาทิเช่น​ เด็กไม่ได้เรียน​ต้องเข้าสู่การทำงาน​เนื่องจากรายได้ครอบครัวไม่พอ​ พอไม่มีการศึกษา​ก็จะโดนกดด้วยวุฒิการศึกษา​ ขั้นเงินเดือน​ ทุกอย่างจะคล้องโซ่​มาด้วยกันเสมอ​ ปัญหาจะตามมา​อันนี้ไม่ได้ว่าท่านนะแค่มาแลกเปลี่ยนความเห็นกัน​ ด้วยความเคารพ

เพิ่มค่าแรงมันคือการเพิ่มต้นทุนอย่างนึงนายจ้างก้ต้องขึ้นราคาสินค้าเพราะต้นทุนมันสูงขึ้นสรุปขึ้นค่าแรงไปราคาสินค้าก้ขึ้นตามสุดท้ายอำนาจการใช้สอยก้มีเท่าเดิมหรือลดลงเงินก้เฟ้อขึ้นไปอีก

อีสานส่วนใหญ่ไม่มีแหล่งงานจริงๆครับ ผมก็อยู่อีสานยังคิดว่าเราจะทำอะไรเพื่อคนในท้องถิ่นได้บ้างแต่สเกลมันใหญ่เกินไปถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐแทบไม่มีทาง หรือต้องรวยมากๆแบบเนวินถึงจะทำได้

ลองไปดูประเทศอื่นๆที่ค่าแรงสูงนะครับ ว่าราคาของมันไม่ได้สูงไปด้วยขนาดนั้น

ยกตัวอย่างเยอรมนีที่ผมอยู่ ไข่นี่ราคาแทบไม่ต่างกับไทย เนื้อสัตว์ก็อาจแพงกว่า (เพราะกฎที่มีมนุษยธรรมมากกว่า) แต่ก็แพงกว่าไม่เกินเท่าตัว ในขณะที่ค่าแรงเป็น10เท่าของไทย เบียร์นี่ราคาถูกกว่าไทยด้วยซ้ำ

ไอ้ที่บอกว่าค่าแรงขึ้นทำให้ของราคาขึ้นนี่ ทำให้อำนาจการใช้สอยก้มีเท่าเดิมหรือลดลง อันนี้มีหลักฐานวิชาการสนับสนุน หรือเชื่อตามพวกนายทุนที่มันกรอกหูครับ?

ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ไม่ได้ทำให้สินค้าแพงขึ้นขนาดนั้น อันนี้จริงนะครับ

เพราะ

1. โครงสร้างต้นทุน มันไม่ได้แปรผันโดยตรงกับราคาสินค้าขนาดนั้น

เช่น ขาย 100 ทุน 50 กำไร 50
ถ้าทุนขึ้นมาเป็น 51 ราคาขายต้องไป 102?
ความเป็นจริงคือ สินค้าทุกอย่างมีสินค้าทดแทน
และมีประเทศคู่แข่งที่พร้อมจะส่งสินค้าให้

การจะขาย 102 ไม่ใช่ว่าจะขายได้
เพราะถ้าสินค้าทดแทน
หรือคู่แข่งไม่ได้ขึ้นตามไปด้วยเพราะหา solution ลดต้นทุนได้มากกว่าเรา
ก็ไม่สามารถขึ้นได้นะครับ

ประชาชนก็มีทางเลือกที่เพิ่มขึ้น เช่น
อุตสาหกรรมอาหารที่ต้องแบกต้นทุนขึ้นทันที คนใช้จ่ายก็มีตัวเลือกในการทำอาหารเอง ฯลฯ

2. การเพิ่มค่าแรง เป็นการเพิ่มมาสู้กับ cost ของเครื่องจักร
ทำให้ประเทศเข้าสู่การพัฒนาและผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทุกบริษัทจะเปรียบเทียบค่าแรง เทียบกับการขึ้นสายการผลิต

แรงงานก็จะถูกย้ายไปสายงานที่ต้องใช้คนเท่านั้นมากขึ้น
ก่อให้เกิดการแข่งขันที่สูงมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีกับประสิทธิภาพนะครับ

3. cost ของธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีจัดๆ ไม่ได้ใช้แรงงานมาก แข่งขันสูง
หรือใช้แรงงานมาก แต่มีสายผลิตหรือพวกระบบ automation รอรองรับอยู่แล้ว
ต้นทุนแทบไม่ขึ้นเลย พวกนี้พอแรงงานแพง เค้าก็เอาสายผลิตมาแทนได้ทันที

เช่น ร้านสะดวกซื้อ ห้างโมเดิร์นเทรด (ใช้กล้องแทน ตามคลิป)
แบงค์ (โมบายแบ้ง เหรียญต่างๆ)
อุตสาหกรรมผลิตอาหาร (พวก raw mat ต่างๆ)
รถยนต์ (tesla) ฯลฯ

ถ้าจะถกด้วยอารมไปไกลๆ ครับไม่อยากถกอะไรกับเด็กน้อยอะไรที่ไม่ตรงกับใจตัวเองก็แถะถากถาง บายครับ ไม่ต้องโควทผมกลับครับผมบล็อคคุณคงไม่ได้เห็นคุณโควทมา

มันไม่ใช่แค่เรื่องนี้อย่างเดียวด้วยซิครับ โรงงานที่จ้างแรงงานตอนสมัยค่าแรงขั้นต่ำ 300 ก็ย้ายฐานการผลิตหนีออกจากตปทไปด้วยสมัยนั้น การขึ้นค่าแรงมันขึ้นด้วยการบีบบังคับจากรัฐบาลไม่ได้เป็นไปตามกลไกตลาด ธุรกิจขนาดเล็กก็อาจจะปิดตัวลงเพราะต้นทุนที่มันสูงขึ้นสายป่านไม่ยาวเอาตัวรอดไม่ได้ สำหรับผมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เงินเฟ้อมากขึ้นจากการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำเพราะค่าแรงขึ้นไม่เกิดจากการกลไกตลาดเป็นมาจากการควบคุมของรบมันจะไม่ยั่งยืนสักพักจะเกิดงูกินหางไปเรื่อยๆ

แต่ในปัจจุบันของทุกอย่างกับแพงขึ้น​แต่รายได้เท่าเดิม​+การกระตุ้นศก.รัฐใช้เงินผ่าน​ บัตรสวัสดิการ+โครงการคนละครึ่ง​ต่างๆ​ เหมือนการแก้ไม่ถุกจุด​ การขึ้นค่าแรงต้องคำนึงถึงนายจ้างด้วยครับอันนี้เข้าใจคือต้องมีมาตรการลดภาษีให้กับนายจ้างหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นตัวช่วยประคองกันทั้งสองฝ่าย​​ แต่ที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ​ การยกระดับชีวิตความเป็นอยู่​ของประชาชนในตอนนี้เป็นสิ่งมี่จำเป็นมาก​ คนมีเงินในมือเยอะขึ้นสามารถซื้อของที่ดีมีประโยชน์หรือแม้แต่สิ่งฟุ่มเฟือยได้​ ลดการเจ็บป่วย​ ลดอาชญากรรม​ ดูคำพูดผมจะสวยหรูดูเป็นไปยาก​แต่อย่างที่กล่าวโซ่มันคล้องคอประชาชนจำนวนมากให้อยู่อย่างลำบาก​การยกระดับให้ประชาชนมีเงินในมือมากขึ้น​ อย่าไปดูถูกประชาชนเลยว่าจะเอาเงินไปแทงหวย​เล่นการพนัน​ เหมือนทุกๆฝ่ายต้องช่วยกันไม่ใช่จะได้ฝ่ายเดียว​ รายได้อาจลดลงแต่ลูกจ้างมีความสุขมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอาจจะทำให้นายจ้างมีผลประกอบการที่ดีขึ้นก็ได้​ คือการแก้เรื่องนี้ก็เหมือนเป็นโครงสร้างอย่างนึงที่กดทับคนอยู่ตลอดไม่ให้คนสามารถพัฒนาตัวเองไปในอีกระดับหนึ่งได้​ ด้วยความเคารพครับ

ซ้ำ

ไม่สามารถหาหลักฐานทางวิชาการมาได้หรอ?

ผมมองมันไม่ใช่เป็นการแก้ที่ต้นเหตุครับ คนรายได้น้อยอยากได้เยอะก็กำหนดค่าแรงขั้นต่ำซิ ผมมองในระบบmacro มันจะเกิดงูกินหางไปอีกหลายๆอย่างสิ่งสำคัญเลยมันเกิดภาวะเงินเฟ้อ นั่นละครับสิ่งที่คุณบอกของใช้ราคาเพิ่มขึ้นแต่รายได้เท่าเดิมก็เพราะเกิดจากภาวะเงินเฟ้อ การเพิ่มเงินในระบบโดยจากการกำหนดโดยรัฐบาลไม่ได้เกิดจากตลาดเสรีมันจะส่งกระทบเป็นวงกว้าง ข้าวของแพงขึ้นใช่ไมก็บังคับกฏหมายให้ค่าแรงเพิ่มขึ้นซิคนจะได้จับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ผมมองมันเป็นการกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อไปเรื่อยๆไปแก้ที่ระบบโครงสร้างให้มันดีไม่อยากให้แก้ที่ปลายเหตุ