ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
 
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
หน้าแรกบอร์ด >> ข่าวประจำวัน
29 September 2021 06:18 by เบน ฟรีคิก
“ปอร์โต้ - หงส์” หนังม้วนเดิม / เมสซี่ ขโมยซีน






เหมือนเรานั่งดูยูทูปย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 (0-5) และ 2019 (1-4) บทหนังและบทพูดระหว่าง เอฟซี ปอร์โต้ กับ ลิเวอร์พูล แทบจะไดอะล็อกเดิมๆ

จากวันนั้นถึงวันนี้ แซร์จิโอ คอนไซเซา กุนซือผู้ชอกช้ำโดนไปแล้ว 14 ลูกจาก 3 เกมที่ เอสตาดิโอ โด ดราเกา ภายใน 3 ปี

ครั้งแรกต้านไว้ได้ 25 นาที หนสอง 26 นาทีและล่าสุดเพียงแค่ 18 นาทีซึ่งแต่ละครั้งที่โดนก็มาจากน้ำมือตัวเองล้วนๆทั้งสิ้น

คุณภาพในเกมรับของ ปอร์โต้ แย่เกินกว่าที่หลายๆคนคาดไว้เยอะมาก แนวรับดู “ตื่นและล่ก” เมื่อ ลิเวอร์พูล ลำเลียงมาในจุดอันตราย

การปัดลูกยิง เคอร์ติส โจนส์ ที่ “อาจ” ไม่ได้แรงอะไรของ ดิโอโก้ คอสต้า ไปยัดใส่เพื่อนร่วมทีมก่อน โม ซาลาห์ ซ้ำจ่อๆเป็นลูก 1-0 ทำให้การเล่นรัดกุมและดูดีของเจ้าถิ่นแทบหายไปกับประตูนั้น

ความเฟอะฟะของ คอสต้า ในวันนี้ทำให้เกมจบง่าย (จนแฟนหงส์ไม่ค่อยชิน) เมื่อปล่อยให้บอลผ่านหน้าประตูจนกลายเป็นลูก 2-0 และออกมาเล่นนอกเขตโทษไม่เข้าใจกับกองหลังจนโดนลูกที่ 4

ลูกนี้คือการออกใบมรณบัตรให้ตัวเองอย่างเป็นทางการเมื่อครึ่งหลังยิ่งสู้ยิ่งเละจนกระทั่งโดนปูพรมเพิ่มอีก 3 รวมสิริ 5-1

จุดที่ “หงส์แดง” มองเห็นคือแนวรับของฝั่ง ปอร์โต้ ที่ขาดความเข้าใจกันอย่างมาก ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นส่งต่อความไม่มั่นใจกระจายไปสู่แผงหลังและทั้งทีม

ขนาด โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ ตัวสำรองที่ไม่ค่อยมีเรื่องกับตาข่ายฝ่ายตรงข้ามยังใช้เวลาแค่ 6 นาทียิงไป 2 หรือถ้าจะนับแบบไม่รวมช่วงรอ VAR ก็แค่ 3 นาทีเท่านั้น!!

แน่นอนครับ หากต้องการมองถึงการเข้ารอบใน “กลุ่มแห่งความตาย” ในบ้านคุณต้องเก็บชัยโดยไม่แคร์ว่าคู่แข่งคือใคร โจทย์ตรงนี้ทำให้ ปอร์โต้ ถึงใช้ช่วงต้นเกมพยายามแสดงให้เห็นต่อหน้าแฟนบอลตัวเองว่า “Who is the boss”

เป็นช่วง 10 นาทีเศษๆที่เจ้าถิ่นมีความรู้สึกว่ายังอยู่ในระดับเดียวกันกับ “หงส์แดง” แต่ศักยภาพไปไม่ถึง ต่อให้เข็นยังไงถ้ามัน “ตัน” ก็ได้แค่นั้นจริงๆครับ

หลังการเสียลูกแรกและจากสภาพ “เกมรุก” ของเจ้าถิ่น ทำให้ผู้เล่นฝั่ง ลิเวอร์พูล ประเมินแล้วว่า “เอาอยู่” จึงเน้นการนวดหนักๆไปที่ปีกซ้ายโดยใช้ 3 ผู้เล่นรุมกินโต๊ะ

เคอร์ติส โจนส์ ที่โดดเด่นมากเล่นกลางในระบบ 4-3-3 แต่ถ่างออกไปเป็นปีกอีกตัวนึงเมื่อรวมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ทำให้ เฆซุส โคโรน่า ผู้รับผิดชอบทางแบ็คขวา ยับเยินไม่รู้จะรับมือใครก่อน

ผลงานฝีเท้าองค์ลงของ โจนส์ ในวันนี้เป็นข่าวดีสำหรับ JK หลังเสียทั้ง ฮาร์วีย์ เอเลียตต์ ทำให้ “แนวคิด” ระบบกลาง 1 ตัวที่เพิ่มมีติในเกมรุกช่วย support 3 ประสานยังไม่ถึงกับตาย

แต่จุดที่ต้องเฝ้าระวังของเจ้าหนูวัย 20 ปีผู้นี้คือเมื่อใดก็ตามที่กำลังมา, เล่นมั่นใจตำแหน่งมั่นคงจะเล่นติดประมาท ยิ่งเจอคู่แข่งที่ทำท่าด้อยกว่าก็โชว์เกินเบอร์ จนผมรู้สึกว่าท้ายเกมเริ่มกลับมาคลึงแทนที่จะปั้นกองหน้าอย่าง มินามิโนะ แบบเสีของ

เกมรุกปิดจ็อบของตัวเองได้ตามเป้า ในขณะที่ภาระหน้าที่เกมรับทั้ง เวอร์กิล ฟาน ไดจค์, โจ เอล มาติ๊ป, ฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็น key สำคัญทำให้ ปอร์โต้ ที่พยายาม “ฮึดสู้” แต่ฝ่าไม่ไหวและทำได้ดีที่สุดคือตีไข่แตกลูกเดียว

การที่ยิงขาดปิดเกมไว เยอร์เก้น คล็อปป์ จึง “หมุน” ตัวสำรองเก็บตัวจริงเพื่อไว้ทำศึกใหญ่กับ แมนฯซิตี้ ในวันอาทิตย์นี้ได้แบบสบายใจพร้อมนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มที่ดูวี่แววแล้วค่อนข้างสดใสเมื่อ เอซี มิลาน แพ้คาบ้านให้ แอต.มาดริด

ในขณะที่คู่บิ๊กแมทช์ เปแอสเช กับ แมนฯซิตี้ ที่ผมต้องเปิดดูในคอมไปพร้อมๆกับคู่ “หงส์แดง” ที่ขอใช้คำว่า “อีหรอบ” เดิม

คือทีมของ เป๊ป กวาดิโอล่า ที่เชื่อว่าตอนนี้เล่นกับทุกทีมในโลกครองบอลเหนือกว่าแน่ ดังนั้นภาพชินตาคือคู่แข่งคุมหลังบ้านเน้นเซฟและต้องใช้วิชาเพื่อหาวิธีแกะ “เพรส”

บังเอิญวันนี้นักเตะ เปแอสเช ทักษะแต่ละตัวระดับ class A จึงพอเอาตัวรอดได้

ซิตี้ เล่นแบบนี้กับทุกทีมและสังเกตได้เลยว่า เป๊ป จะสั่งให้ลูกทีมเปิดสกอร์แรกให้ไว้ที่สุดภายในช่วง 5-10 นาทีแรกเพราะขืนปล่อยนานกว่านั้นมักมีปัญหาตามมาคือเรื่องจบสกอร์ที่ใช้กันเปลืองมาก

ที่ไม่ช่วยเลยคือการเสียประตูไวจากการยิงหนแรกของ อิดริสซ่า เกย์ ตั้งแต่นาทีที่ 8 จนเดาได้เลยว่า story จากนี้จะออกมาหน้าตาแบบไหน

ไฟท์บังคับให้ “เรือใบ” เป็นฝ่ายเดินหน้าและ เปแอสเช รักษา “ของ” ที่อยู่ในมือ ทีมเยือนไม่มีปัญหาใดๆกับการหาโอกาสแต่ที่ยากเย็นเหลือเกินคือจะหาใครอาสาโผล่มายิงในช่วงเวลาสำคัญ

แม้กระทั่งจ่อๆ 2-3 หลาที่น่าจะพลิกโฉมของเกมนี้ โดยที่ผู้รักษาประตูลงไปนอนส่งกระแสจิตแล้วแท้ๆแต่ แบร์นาโด้ ซิลวา ก็ยังอุตสาห์ยิงไปชนคานช็อกคนดูทั้งสนามและหน้าจอทีวี (และลิงค์เถื่อน)

โอกาส 14 หน (ไม่นับโดนบล็อกอีก 4) เข้ากรอบครึ่งเดียวคือ 7 ได้มา 0 ในขณะที่ฝั่ง เปแอสเช ทั้งเกมมีแค่ 6 เข้ากรอบ 3 เป็นประตู 2

ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรซ์ใดๆอีกแล้วครับเพราะถ้าตัดเรื่องระบบการเล่นที่ “เอื้อ” ต่อการสิ้นเปลืองโอกาสแล้วการที่ “ซิตี้” เป็นทีมที่ไม่มีกองหน้า no.9 หรือโป้งปิดบัญชี ทุกๆเกมถ้าไม่ผีเข้ายิงขาดมันจะออกมาในรูปนี้ตลอด

Type ผู้เล่น “ึคล่อง” ไปกับบอลและสร้างโอกาสเพียบแต่เมื่อถึงจังหวะที่ต้องแลกกับประตูกลายเป็นว่าต้องมาลุ้นนัดต่อนัด

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นคนที่แฟน “เรือใบ” ท้อใจอย่างหนัก ไม่มีประโยชน์ไม่มีบทบาทใดๆแต่กว่า เป๊ป จะเปลี่ยนออกก็ปาไปนาที 78

แล้วเหมือนบทส่งเมื่อประตูตอกฝาโลง 2-0 ดันเป็น ลีโอเนล เมสซี่ ที่วันนี้เงียบและ ”เดิน” มากกว่า “วิ่ง” เป็นลูกยิงเหมือนที่ทำให้ บาร์เซโลน่า มานับไม่ถ้วนคือการลากในจังหวะสวนกลับและฝากบอลให้เพื่อนก่อนไปรับอีกทีในพื้นที่ระยะ “ยิง”

เป็นโชคดีด้วยครับที่ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ พ่อเลี้ยงดันผีเข้าเล่นชิ่งจังหวะเดียวจนเกิดประตู classic ลูกนี้ให้เราได้ชมเป็นขวัญตาและยังเป็นลูกแรกที่แข้งวัย 34 ปียิงให้ เปแอสเช อีกต่างหาก

กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า อาจเสียทรงนิดหน่อยที่เพื่อนใช้แกไปนอนหลังกำแพงป้องกันลูกยิงเลียดซึ่งจะว่าไปแล้วมันเป็นหน้าที่ของใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ เมสซี่ ให้เกียรติเจ้าของบัลลงดอร์ 6 สมัยด้วยครับ

เป๊ป แพ้เกมนี้อาจส่งผลแค่เป็นข่าวตามสื่อโซเชี่ยลและเสียสถิติอีกนิดหน่อย (อ่านได้ด้านล่าง)

คุณภาพของ “เรือใบ” (ถ้าจบสกอร์ให้เป็น) นับจากนี้ผมว่าชนะรวดเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มอาจไม่ใช่ปัญหาเลยด้วยซ้ำ...


สถิติ สถิติ สถิติ

ลิเวอร์พูล ยังทำสถิติไม่แพ้ เอฟซี ปอร์โต้ ตลอดการเจอกัน 9 เกมหลังสุดทุกรายการ (ชนะ 6 เสมอ 3) โดยในประวัติศาสตร์สโมสรมีเพียง สคันธอร์ป ยูไนเต็ด และ วอลซอลล์ เท่านั้นที่ “หงส์แดง” เล่นด้วยเยอะที่สุดแล้วไร้พ่าย (อย่างละ 11 นัด)

“หงส์แดง” ยิงประตู 3+ ถึง 6 เกมติดต่อกันเป็นหนที่ 3 ในประวัติศาสตร์สโมสรหลังเคยทำไว้ 2 หนนปี 2009 และ 1892 (ขอย้ำ...ปีหนึ่งแปดเก้าสอง)

โม ซาลาห์ เป็นนักเตะ แอฟริกัน คนที่ 3 ที่ยิงได้ 30 ลูกหรือมากกว่าในรายการ แชมเปี้ยนส์ลีก ตามหลัง ดิดิเยร์ ดร็อกบา (44) และ ซามูเอล เอโต้ (30)

“บัง” ยิงประตูให้ “หงส์แดง” มา 6 นัดติดในทุกรายการ เป็นครั้งแรกที่มีนักเตะยิงประตูได้ 6 นัดรวดนับตั้งแต่เมษายน 2018 โดยคนล่าสุดที่ทำไว้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ ซาลาห์ นั่นเองที่ยิง 7 นัดรวด

ไม่มีนักเตะคนไหนทำแอสซิสต์ใน UCL ให้ ลิเวอร์พูล มากไปกว่า “ท่านรอง” เจมส์ มิลเนอร์ อีกแล้ว (12 แอสซิสต์เท่า สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด)

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลายเป็นนักเตะคนที่ 27 ที่ลงเล่นครบ 400 นัดทุกรายการให้ ลิเวอร์พูล และเป็นคนแรกนับตั้งแต่ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด เป็นคนล่าสุดเมือเดือนตุลาคม 2007

ลีโอเนล เมสซี่ ยิงใส่ แมนฯซิตี้ 7 ลูก มากกว่านักเตะคนไหนๆในเวที แชมเปี้ยนส์ลีก และเลข 7 ยังตามหลอกหลอน เป๊ป กวาดิโอล่า อีกด้วยเมื่อโดนยิงยามคุมทีมปะทะกับอดีตศิษย์รักผู้นี้ (2 ลูก vs บาเยิร์น มิวนิค และอีก 5 vs แมนฯซิตี้)

เมสซี่ ยิงประตูทีมจาก อังกฤษ ลูกที่ 27 จาก 35 เกมใน แชมเปี้ยนส์ลีก มากกว่าคนอื่นๆถึง 15 ลูกเลยทีเดียว

นี่คือความพ่ายแพ้นัดแรกในรอบแบ่งกลุ่ม UCL ของ “เรือใบ” นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2018 หลังเสียท่าให้ ลียง 2-1 จากนั้นก็ไร้พ่ายในรอบแบ่งกลุ่มเรื่อยมาถึง 18 นัดจนกระทั่งเกมนี้
แก้ไขล่าสุดโดย เบน ฟรีคิก เมื่อ Wed Sep 29, 2021 06:23, ทั้งหมด 2 ครั้ง
5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
cocobumbim , eggteen , tros , GOODVIBES , slahadin
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
เอาฮาหรือเอาจริง
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Dec 2020
ตอบ: 4357
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 29, 2021 08:45
[RE: “ปอร์โต้ - หงส์” หนังม้วนเดิม / เมสซี่ ขโมยซีน]
ปอร์โต้ผลงานเจอกับทีมอื่นก็ไม่แย่นะ

แต่กลับแพ้ทางหงส์แบบสุดๆซะงั้น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
My Locker
ออฟไลน์
jocolenoname1234
ดาวเตะลา ลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2016
ตอบ: 12669
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 29, 2021 08:58
[RE: “ปอร์โต้ - หงส์” หนังม้วนเดิม / เมสซี่ ขโมยซีน]
เอาให้หนักครับ ให้พรุนทุกนัด

ยังหมั่นไส้ไม่หาย

จับเจอหงส์เมื่อหลายปีก่อน ดี๊ด๊ากัน

ยังกับเจอทีมหมู
5
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
nokkhao , nunnunthekop , SJ413 , ZXCx007 , Dropkick


ใครอยากเป็นเศษหมา..
My Locker
ออฟไลน์
ผมเป็นคนชอบJET
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 7648
ที่อยู่: ยานอวกาศ
โพสเมื่อ: Wed Sep 29, 2021 09:14
[RE: “ปอร์โต้ - หงส์” หนังม้วนเดิม / เมสซี่ ขโมยซีน]
นิขนาดเมสซี่ไม่ได้มาเล่นในพรีเมียร์นะ ยังยิงทีมในพรีเมียร์ไป 27 ลูก มรึงจะบ้าาาหรอ
แก้ไขล่าสุดโดย yagof เมื่อ Wed Sep 29, 2021 09:15, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
My Locker
ออฟไลน์
Lengzst
แข้งเจลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 16397
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 29, 2021 09:36
[RE: “ปอร์โต้ - หงส์” หนังม้วนเดิม / เมสซี่ ขโมยซีน]
เบน ฟรีคิก พิมพ์ว่า:
ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรซ์ใดๆอีกแล้วครับเพราะถ้าตัดเรื่องระบบการเล่นที่ “เอื้อ” ต่อการสิ้นเปลืองโอกาสแล้วการที่ “ซิตี้” เป็นทีมที่ไม่มีกองหน้า no.9 หรือโป้งปิดบัญชี ทุกๆเกมถ้าไม่ผีเข้ายิงขาดมันจะออกมาในรูปนี้ตลอด  

คำถามคือแล้วถ้ายิงไม่เข้า ??

ย้อนกลับไปตอนตลาดยังไม่ปิด คิดเล่น ๆ ถ้าเรือมีโด้ อะไรจะเกิดขึ้น ?

ผมเลยโอเคที่ผีได้โด้กลับบ้าน แฟนผี Happy เฮียยิ้ม Happy เกลเซ่อร์ Happy ทุกอย่าง perfect อยู่ด้วยกันตลอดไปยาว ๆ ตามครรลองวิถีแห่ง United Way

ส่วนมิลาน? พี่ไม่ต้องห่วงหรอก ตราบใดที่ลุงยังอยู่ ผมไม่อยากหวังอะไรเลย 55555 (จริง ๆ หวังนะ แต่....แม่ง )

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
My Locker
ออฟไลน์
Radiant
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: You only Live once
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 26454
ที่อยู่: Spion Kop
โพสเมื่อ: Wed Sep 29, 2021 09:59
[RE: “ปอร์โต้ - หงส์” หนังม้วนเดิม / เมสซี่ ขโมยซีน]
ปอร์โตแม่งหลอนกันเองละ เวลาเจอลิเวอร์พูล

18 : 0-5

19 : 1-4

21 : 1-5

เผลอๆเจออีกก็ไม่ต่ำกว่า 3 อะ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
jojoebar
I choose to live, not just exist.


My Locker
ออฟไลน์
Red_Duckza
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jan 2011
ตอบ: 18415
ที่อยู่: สิ่ง เหล้ าห นี
โพสเมื่อ: Wed Sep 29, 2021 10:13
[RE: “ปอร์โต้ - หงส์” หนังม้วนเดิม / เมสซี่ ขโมยซีน]
"กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า อาจเสียทรงนิดหน่อยที่เพื่อนใช้แกไปนอนหลังกำแพงป้องกันลูกยิงเลียดซึ่งจะว่าไปแล้วมันเป็นหน้าที่ของใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ เมสซี่ ให้เกียรติเจ้าของบัลลงดอร์ 6 สมัยด้วยครับ"


แมสซี่บอก เบื่อเดินแล้ว นอนแม่งเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ได้

My Locker
ออฟไลน์
น้องใหม่
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Aug 2006
ตอบ: 23
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 29, 2021 17:35
[RE: “ปอร์โต้ - หงส์” หนังม้วนเดิม / เมสซี่ ขโมยซีน]
อ้างอิงจาก:

แต่จุดที่ต้องเฝ้าระวังของเจ้าหนูวัย 20 ปีผู้นี้คือเมื่อใดก็ตามที่กำลังมา, เล่นมั่นใจตำแหน่งมั่นคงจะเล่นติดประมาท ยิ่งเจอคู่แข่งที่ทำท่าด้อยกว่าก็โชว์เกินเบอร์ จนผมรู้สึกว่าท้ายเกมเริ่มกลับมาคลึงแทนที่จะปั้นกองหน้าอย่าง มินามิโนะ แบบเสีของ
 


โจนส์มันไม่ส่งมินามิโนะอยู่แล้วครับ​ ไม่รู้ว่า
- กลัวโดนแย่งตำแหน่ง
- เหยียดเอเชีย ไม่ยอมรับในความสามารถ​
- หรือไม่ก็เกลียดขี้หน้าที่มินามิโนะไม่ค่อยไล่บอลก็ไม่รู้

ถ้าลองสังเกตุดู​ โจนส์จะมองข้ามมินามิโนะตลอด​ แถมชอบไปวิ่งไล่บอลทับตำแหน่งด้วย​
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
jojoebar
My Locker
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกบอร์ด >> ข่าวประจำวัน
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel