พี่ปู้เป้แกคุยกะเจ เมื่อวานถึงเรื่องอาการเจ็บผมฟังแล้วสรุปคร่าวๆมาให้ครับ

รอบล่าสุดนี่คืออาการเจ็บตอนวอร์ม ในสถานีที่ต้องง้างยิงประตู ซึ่งเจ็บขาหนีบ โดยการเจ็บขาหนีบครั้งนี้คือการเจ็บครั้งที่ 4 แล้ว เป็นหนึ่งในจุดเรื้อรัง
จุดเรื้อรังอื่นคือ แฮมสตริง น่อง (อันนี้ข้อมูลที่เคยฟังมาคือกล้ามเนื้อimbalance ซึ่งพยายามแก้แล้ว)
และยังไม่รวมเจ็บจากการปะทะอีก

โดยเจ็บตอนวอร์มรอบล่าสุดนี่เจร้องไห้เลย เพราะมันซ้ำซากบ่อยมากแถมวอร์มอยู่จะได้เล่นอยู่แล้ว
และเจปรับเปลี่ยนตัวเองเยอะมาก เรื่องโภชนาการอะไรยอมเปลี่ยนหมด แต่ก็ยังเจ็บที่เดิม

สิ่งที่ทำตอนนี้คือ ขอทีมเปลี่ยนนักกายภาพ เพราะในทีมจะมีนักกายภาพญี่ปุ่น ซึ่งดูแลเจ และนักเตะญี่ปุ่น
และมีนักกายภาพบราซิลซึ่งดูแลนักเตะต่างชาติ
โดยที่นักกายภาพญี่ปุ่น จะเน้นระบบหายใจ และกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว ซึ่งถือว่าเทรนไม่หนัก

ในขณะที่นักกายภาพบราซิลเทรนหนักมาก เจ โบทรอยเป็นคนชวนเจย้ายนักกายภาพนานแล้วแต่เจติดเกรงใจคนเก่า แต่เมื่อเจ็บซ้ำซากขนาดนี้โดยไม่รู้จะแก้ไขอะไรยังไงแล้วเลยขอเปลี่ยนนักกายภาพ

ตอนนี้ก็เลยอยู่ในช่วง recovery และเทรนกับนักกายภาพบราซิลไป 9วันแล้ว เห็นว่าเทรนวันนึงระบม 2 วัน คือเทรนหนักสุดๆ
เป้าหมายตอนนี้คือไม่รีบกลับมาลงแล้ว จะเอาให้หายขาดแบบสนิท เพราะก่อนหน้านี้ทีมคาดหวังมาก พอเจ็บแล้วพอใกล้หาย เค้าก็จะเข็นลงตลอด แต่รอบนี้ไม่เอาแล้ว กะว่าเอาให้หายสนิทพร้อมเลยค่อยลง

และเจอยากเล่นบอลอีก 5-6 ปี รู้สึกเจจะ28วันนี้ถ้าฟังไม่ผิด ตอนนี้เจเลยยอมทุกอย่างปรับทุกอย่างในชีวิต เพื่อให้ยังสามารถเล่นได้ถึงอายุ 33 34 ตามที่ตั้งใจ

ส่วนตัวผมให้กำลังใจเจครับ เจแม่งแลกทุกอย่างจริง
เงินเดือน แปดแสนกว่า จริงๆอยู่ไทยก็ได้ แต่ก็เอาตัวมาฝังในลีคบอลที่หนักกว่าไทยเยอะ พัฒนาขึ้นเยอะมาก
ไปญี่ปุ่นแรกๆข้าวเช้าไม่กิน ชอบกินกาแฟของหวาน
ตอนนี้คือเปลี่ยนใหม่หมด เทรนก็ตั้งใจเทรน ตั้งใจซ้อมจนตอนนี้ไม่เจ็บไม่ตายได้ลงตลอดแน่นอน แต่2 ปีหลังก็เจ็บรัวๆ และครั้งนี้คือการขยับใหญ่อีกครั้ง ไปเทรนฟิตเนสในระดับที่สูงขึ้นไปอีก เอาใจช่วยกันครับว่าเจจะกลับมาสมบูรณ์ได้มั้ย

เจไม่ใช่ตำนานเพียงเพราะผลงานที่ทำได้ แต่เจเป็นตำนานจากทุกสิ่งที่ยอมแลกเพื่ออาชีพนักฟุตบอล

เอาใจช่วยครับผม

เอาใจช่วย อาการบาดเจ็บมันกระทบและรบกวนนักเตะเก่งๆ หลายต่อหลายคนจนไม่สามารถทำผลงานได้ดีเท่าที่ควร หรือ ดีแบบที่เคยทำได้ ขอให้รักษาหาย ยืนระยะได้ยาวๆ

เอาหน่อยเว้ย เจ
กินกาเเฟให่น้อยลงบ้างก็ดี

เชคอินทีไร ร้านกาแฟ+เค้ก ทุกวันเลย

เจแมงใจสู้จริงๆ แต่อาการบาดเจ็บหลังๆมาก็เยอะจริงๆ

สู้รอบนี้ขอให้มันหายขาดจริงๆเลยนะ ยังไงก็อยากเห็นเจเตะบอลอยู่

ต้องเอาโด้เป็นแบบอย่างครับ

ขอให้หายนะเจ ยังอายุไม่มากเลย

เอาใจช่วยครับ หลังๆที่ฟอร์มดรอปลงไปเพราะอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดด้วย
ขอให้สลัดอาการพวกนี้ทิ้งไป แล้วกลับมาฟอร์มดีแบบสมัยได้ติดทีมยอดเยี่ยมเจลีกครับ

ลองให้ฝึกพวกโยคะดูมั้ย ศาสตร์ฟุตบอลเน้นความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อจึงมักเป็นแฮมสติง เจ็บโคนขาหนีบบ่อยเวลาสปรินซ์แล้วเปลี่ยนทิศไวๆ

เพื่อนผมเป็นบ่อย พอไปฝึกโยคะที่ศาสตร์ของความยืดหยุ่น อาการเจ็บบ่อยหายไปเลย ไม่รู้เกี่ยวแค่ไหน

พุ่งนี้คงไม่มีชื่ออีกแน่เลย

เจโบ​ แนะนำดีนะ​ ต้องฟังเลย​ ดูเขาสิอายุขนาดนี้ดูแลตัวเอง​ยังไงยังเล่นได้เลย

เจคือตัวอย่างที่ดีในความใจสู้ทำตามความฝัน
และเป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นความผิดพลาดของระบบบอลเยาวชนไทยที่แข่งกันถี่ใช้ร่างกายมากเกินไปในช่วงวัยรุ่นทำให้สะสมความเจ็บมาในช่วงพีคของอาชีพ

จริงๆผมชอบไอเดียแบบนี้นะ ไม่ต้องโยคะแอกวานซ์จ๋าๆก็ได้ แต่น่าลองฝึกบ้างจริงๆเพราะบางที ฝึกแต่ strength มากๆร่างกายมันขาดความยืดหยุ่น โยคะหรือยืดหยุ่นมันจะมาช่วยตรงนี้

ถ้าผมจำไม่ผิดนะ เคยอ่านเจอสมัยปี2011หรือ12 นี่แหละว่ากิ๊กแกก็ใช้วิธีฝึกโยคะนะเลยยืนระยะได้นาน

โม ซาล่าสายสปีดก็เล่นโยคะ ตั้งแต่มาอยู่ลิเวอร์พูลไม่เคยเห็นเจ็บเลย

น่าจะให้นักบอลหันมาฝึกโยคะกันนะครับ แต่เพื่อนผมที่ฝึกแล้วหายเจ็บมันบอกว่าช่วยได้