"กังหัน" โรเตชั่นส่งมาซิโดเนียกลับบ้าน, อาซาร์ นำทัพ "เบลเยี่ยม" ชนฟินแลนด์...ปรีวิว ยูโร
วันจันทร์ ที่ 21 มิถุนายน 2564
ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ปซี
มาซิโดเนีย - เนเธอร์แลนด์(23:00 น.)
ทัพ "อัศวินสีส้ม" ที่การันตีเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มไปแล้ววันนี้จะได้ลงเล่นนัดส่งท้ายในบ้านเจอกับ มาซิโดเนีย บ๊วยกลุ่มที่ตกรอบไปแล้วไม่มีอะไรให้ลุ้น
เนเธอร์แลนด์ ไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนแต่จะเลือกโรเตชั่นหลายตำแหน่งให้โอกาสตัวสำรองลงสนามนำโดย ลุค เดอ ยอง และ ดอนเยลล์ มาเลน ในแนวรุกรวมถึงตำแหน่งอื่นอย่าง เดวี่ คราสเซ่น, โอเว่น ไวจ์นดัล, นาธาน อาเก้ และ ไรอัน กราเวนเบิร์ช ที่ลงมาเป็นสำรองในเกมก่อนก็จะได้ออกสตาร์ทเช่นกัน
ฝั่ง มาซิโดเนีย ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพิ่มเติมแต่น่าจะเปลี่ยนหลายตำแหน่งให้โอกาสนักเตะที่ไม่ได้ลงสนามทิ้งทวนนัดสุดท้าย
สถิติที่น่าสนใจ
• เนเธอร์แลนด์ ไม่เคยแพ้ให้กับ มาซิโดเนีย ในการพบกันมาทั้งหมด 4 ครั้ง แบ่งเป็นชนะ 2 และเสมอ 2
-----------------------------------------------------------------
ยูเครน - ออสเตรีย (23:00 น.)
ยูเครน ที่รั้งอยู่อันดับ 2 ของตารางมีอยู่ 3 คะแนน วันนี้จะได้เจอกับ ออสเตรีย ที่มี 3 คะแนนเท่ากันแต่ลูกได้เสียเป็นรอง โดยเกมนี้จะมีอันดับ 2 เป็นเดิมพัน ยูเครน ขอแค่เสมอแต่ ออสเตรีย จำเป็นต้องชนะ แข่งขันกันที่ อารีนา เนชั่นนาลา สนามกลางที่ประเทศโรมาเนีย
สภาพความพร้อมของ ยูเครน ยังต้องเช็คความฟิตของ โอเล็กซานเดอร์ ซุบคอฟ ที่ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เกมแรกทำให้ รุสลัน มาลินอฟสกี้ น่าจะได้ลงประจำการในตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้ายเหมือนเดิม รวมถึง เดนิส โปปอฟ ที่มีอาการบาดเจ็บก็ยังไม่น่าลงเล่นได้ ที่เหลือน่าจะยังใช้ชุดเดิมที่เอาชนะ มาซิโดเนีย มาในนัดที่แล้ว
ฝั่ง ออสเตรีย จะขยับ ดาวิด อลาบา ออกมาเล่นในตำแหน่งอื่นหลังจากโชว์ฟอร์มไม่ค่อยดีในตำแหน่งกองหลังเมื่อนัดก่อน ส่วนตำแหน่งอื่น มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช พ้นโทษแบนพร้อมลงยื่นหน้าเป้าแล้วแต่ทีมอาจเลือกใช้งาน ซาซ่า คาลัดจ์ซิช เป็นตัวจริงหลังทำได้ดีหลังลงมาเป็นสำรองนัดที่แล้ว
สถิติที่น่าสนใจ
• ทั้งสองทีมเคยเจอกันมา 2 นัดในเกมกระชับมิตร และผลัดกันชนะไปทีมละครั้ง
• 2 เกมก่อนหน้านี้ที่เจอกันยิงรวมกันไป 8 ประตู
-----------------------------------------------------------------
ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ปบี
ฟินแลนด์ - เบลเยี่ยม (02:00 น.)
เบลเยี่ยม ที่ผ่านเข้ารอบไปแล้ววันนี้ขอแค่เสมอก็จะเป็นแชมป์กลุ่ม ส่วน ฟินแลนด์ ถ้าชนะก็จะผ่านเข้ารอบหรือของแค่เสมอถ้า รัสเซีย แพ้ เดนมาร์ก โดยเกมนี้จะแข่งขันกันที่ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม สนามกลางในรัสเซีย
ฝั่ง เบลเยี่ยม ยังคงไม่มี ทิโมธี คาสตาเญ่ แบ็คขวาที่น่าจะปิดฉากไปแล้วแต่จะได้ โดย โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือของทีมยืนยันแล้วว่าพวกเขาจะเปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่ง อักเซล วิตเซล จะลงตัวจริงในแดนกลางโดยมี มิชี่ บาทชูอายี่ กับ เอแด็ง อาซาร์ ที่จะได้ออกสตาร์ทแทนที่ ธอร์กาน อาซาร์ ที่ติดใบเหลืองเสี่ยงและมีโอกาสโดนแบนนัดหน้าจะไม่ได้ลงสนาม อีกตำแหน่งคือ เควิน เดอ บรอยน์ ฮีโร่จากนัดที่แล้วจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรก
ฟินแลนด์ ไม่มีปัญหานักเตะเพิ่มและอาจจะเรียกใช้งาน ติม สปาร์ฟ กัปตันทีมตัวเก๋าที่ไม่ได้ลงสนามนัดที่แล้ว
สถิติที่น่าสนใจ
• เบลเยี่ยม เอาชนะ ฟินแลนด์ ไม่ได้เลยจากการพบกัน 7 ครั้งหลังสุดแบ่งเป็นเสมอ 3 และแพ้ 4 พบกันครั้งสุดท้ายเกมกระชับมิตรในปี 2016 เสมอกันที่ 1-1
• ครั้งสุดท้ายที่ เบลเยี่ยม ชนะ ฟินแลนด์ ได้ต้องย้อนไปปี 1968 เหลือ 52 ปีที่แล้ว
-----------------------------------------------------------------
รัสเซีย - เดนมาร์ก (02:00 น.)
รัสเซีย ที่รั้งอยู่อันดับ 2 มี 3 แต้ม จะได้เจอ เดนมาร์ก ที่ยังไม่ชนะใครอยู่อันดับบ๊วย โดย รัสเซีย จะการันตีเข้ารอบถ้าชนะได้และขอแค่เสมอหาก ฟินแลนด์ ไม่ชนะ เบลเยี่ยม ส่วน เดนมาร์ก จะผ่านเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มหากชนะได้และยิงมากกว่า 1 ประตู เกมนี้จะเล่นกันที่ พาร์เก้น สเตเดี้ยม บ้านของ เดนมาร์ก
เกมนี้ รัสเซีย จะไม่มี ยูริ เซอร์คอฟ ที่น่าจะปิดฉากรายการนี้ไปแล้วหลังจากบาดเจ็บในนัดแรกแต่ มาริโอ เฟอร์นานเดส แบ็คขวายังจะกลับมาลงสนามได้แม้จะได้รับบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออกนัดที่แล้ว ที่เหลือไม่มีปัญหาน่าจะใช้ชุดเดิม
ฝั่ง เดนมาร์ก นอกจาก คริสเตียน อีริคเซ่น แล้วที่เหลือก็ไม่มีปัญหา มิคเคล ดัมส์การ์ด จะได้ลงเป็นตัวจริงต่อที่เหลือยังใช้ชุดเดิมจากเกมกับ เบลเยี่ยม
สถิติที่น่าสนใจ
• ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาหนเดียวนับตั้งแต่การแยกตัวของ โซเวียต โดยเป็นฝั่ง รัสเซีย ที่บุกมาชนะในสนาม พาร์เก้น สเตเดี้ยม นี้ด้วยสกอร์ 2-0 ในเกมกระชับมิตรเมื่อปี 2012
-----------------------------------------------------------------
แก้ไขล่าสุดโดย Salinger เมื่อ Mon Jun 21, 2021 20:24, ทั้งหมด 8 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ