นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Oct 2009
ตอบ: 108
ที่อยู่: The Bridge
โพสเมื่อ: Sun May 16, 2021 09:01
ไม่เคยมีใครคนใดที่แพ้ไม่เป็น
ไม่เคยมีใครคนใดที่แพ้ไม่เป็นแต่สิ่งเดียวที่ยากเย็นคือรับได้อย่างดี... ประโยคนี้แว่บเข้ามาในหัวของผมเป็นสิ่งแรกๆหลังจากที่จบการแข่งขันชิงแชมป์ FA Cup ผลก็เป็นอย่างที่ทราบกันไปแล้ว จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ เชลซีไปได้ด้วยประตูโทนจากการยิงไกลสุดสวยของ ยูริ เตเลมองท์
จากประโยคที่กล่าวไปข้างต้นบางคนอ่านแล้วอาจจะคุ้นๆมาบ้างนั่นเพราะมันเป็นเนื้อเพลงที่มีชื่อว่า “คนหัวใจสิงห์” ของอัสนี-วสันต์ เพลงค่อนข้างจะเก่าสักนิดหนึ่ง(2009) แล้วเพราะอะไรในวันที่ทีมรักแพ้ผมถึงมานั่งฟังเพลงนี้
แน่นอนครับมันมีอารมณ์แน่นอนอยู่แล้ว เซ็ง เศร้า ผิดหวัง โกรธ อะไรต่างๆอีกมากมายสำหรับทีมแพ้ มันต่างจากทีมชนะที่มีความรู้สึกในทางตรงข้ามคือการดีใจ สมหวัง สะใจ ภูมิใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนอยากจะได้รับความรู้สึกเหล่านั้นแต่ถ้าเราไม่ได้เป็นฝั่งชนะละจะทำอย่างไร ในวันที่เราจะต้องเจอความผิดหวัง จะทำอย่างไรที่จะผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้
ต้องย้อนไปเมื่อ 13 ปีที่แล้วผมในวัยม.3จะขึ้นม.4ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ผมจะไม่มีวันลืมได้เลยตลอดชีวิตของผม ในช่วงเวลานี้ผมเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในตนเองการสนใจกีฬา สนใจหุ่นตัวเองที่อ้วนมาตลอดอยู่ดีๆก็ไปออกกำลังกายเพราะไม่อยากอ้วนเสียเฉยๆไม่มีเหตุผลอื่น และที่สำคัญมันเป็นช่วงที่ผมรู้สึกว่า”ชอบ”ฟุตบอลแบบจริงจัง
และฟุตบอลนี่แหละครับนำพาให้ผมให้รู้จักกับความ”พ่ายแพ้” ในวัยที่วุฒิภาวะต่ำและไม่เคยมีประสบการณ์ที่จะรับมือกับอารมณ์ต่างๆที่จะตามมา ผมเคยทะเลาะกับเพื่อนด้วยเหตุที่มันมาล้อผมเรื่องที่ฟุตบอลแพ้ คิดไปมันก็ตลกดี ทีนี้จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงนี้ครับ ผมจะไม่มีวันลืมวันนั้นได้เลย 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 นัดชิงยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีค ที่มอสโกว์
เชลซีทีมรักของผมแพ้จุดโทษไปอย่างเจ็บปวดพลาดได้ถ้วยใหญ่ นักเตะไอดอลอย่างจอห์น เทอรี่ ยังมาพลาดจุดโทษเป็นต้นเหตุให้ทีมแพ้อีก ผมต้องตื่นเช้าไปโรงเรียนพร้อมกับคำล้อของเพื่อนๆแต่วันนั้นผมรู้สึกแย่จริงๆนะ มันรู้สึกเสียดายมากกว่าเสียใจคิดไปถึงนักเตะว่าเขาจะรู้สึกเหมือนเราไหม จะรับมืออย่างไร พลางทำให้จิตตกไปด้วย
และตกเย็นนั้นเองผมเปิดดูYoutubeก็พบกับเพลงชื่อประหลาดๆ “คนหัวใจสิงห์” ผมลองกดฟังแค่ประโยคแรกเท่านั้นแหละครับ “ไม่เคยมีใครคนใดที่แพ้ไม่เป็นแต่สิ่งเดียวที่ยากเย็นคือรับได้อย่างดี” ผมนี่รู้สึกแบบบรรลุธรรม เออแม่งจริงว่ะการแข่งขันมีแพ้มีชนะ หากเราสู้หน่อยชัยชนะต้องเป็นของเรา อารมณ์เสียได้แต่เราต้องกลับมาปกติให้ได้ปรับตัวให้ได้
ย้อนกลับมาปัจจุบันที่ผมเล่าเรื่องส่วนตัวไปบ้างเพราะผมเห็นบางคนตอนนี้ผมเห็นบางคนที่กำลังโกรธ ผิดหวัง หัวร้อน กับผลฟุตบอลในวันนี้ ต่อว่าทีมบ้าง ด่านักเตะบางคนบ้าง ว่าโค้ชมือไม่ถึงบ้าง หลากหลายความคิดเห็นที่หลั่งไหลเข้ามา
แต่เชื่อไหมครับวินาทีที่กรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขันผมไม่มีความรู้สึกโกรธเลย รู้สึกเสียดายมากกว่า เป็นห่วงเหล่านักเตะหนุ่มทั้งหลายที่ยังไม่คุ้นชินกับความพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศ ผมนั่งเซ็งๆโง่ๆคนเดียวในห้องคิดทบทวนเรื่องราวที่พึ่งได้เจอมา
ทำไปทำมามันก็รู้สึกเสียดายไม่หายจนมาเขียนบทความนี้เพื่อให้ได้ระบายความรู้สึก สำหรับผมการได้เขียนอะไรบางอย่างให้ผู้คนมาอ่านแล้วผู้อ่านเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อสารผมจะมีความสุขมากๆ
ตอนนี้ที่นึกจะเขียนเรื่องเชลซีแพ้มันดันนึกไปถึงเพลงหัวใจสิงห์เฉยเลยเนื้อเรื่องก็เลยเป็นอย่างที่ได้อ่านกัน เอาความจริงผมก็ไม่ได้เขียนบทความมานานมากแล้ว นักเขียนคือความฝันที่ผมอยากเป็นมากๆ ตัดภาพมาตอนนี้มานั่งเป็นพยาบาลอยู่ได้ยังไงก็ไม่รู้
พอกลับมาทำบทความอีกมันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ได้ทำสิ่งที่ชอบและได้นึกถึงความหลังด้วยกระมังเลยมีความสุขแบบนี้ คิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้น คิดถึงตัวเราในเวลานั้น ตัวเราที่ไม่เครียดตลอดเวลาแบบนี้
จั่วหัวมาเรื่องฟุตบอลแท้แต่เนื้อหาเหมือนคนค้นฅนไปเสียได้แต่ก็เพราะอารมณค้างจากบอลแพ้แท้ๆจึงได้กลับมาทำสิ่งที่รักอีกครั้ง
สุดท้ายนี้เราต้องก้าวต่อไปผ่านความพ่ายแพ้ move on จากวันนี้ เพราะยังมีการแข่งขันที่สำคัญรอเราอยู่หากเรายึดติดกับวันนี้จนทำให้อนาคตต้องพังไปด้วยก็ไม่น่าจะดีต่อทีมเสียเท่าไหร่
สู้ต่อไป The Blues Chelsea
Bank Terry
แก้ไขล่าสุดโดย marykabin เมื่อ Sun May 16, 2021 09:07, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ