ปูเป้ – ศักรัช เปี่ยมวรนันท์ หรือ “Pupe_so_Sweet” บล็อกเกอร์และเพจดังด้านความงาม ได้โพสต์ชี้แจงฝ่ายตรงข้ามกรณีที่มาตั้งคำถามว่าทำไมถึงยังบูลลี่คนเห็นต่างว่า “สลิ่ม” อยู่ ยุคนี้แล้วควรเคารพความเห็นต่าง ดูแล้วเหยียดกันไปมาไม่จไม่น่ารัก



ซึ่งปูเป้ ได้โพสต์ตอบโต้ว่า เราขอก็อปคำตอบที่เราตอบกับคอมเมนท์นี้มาเผยแพร่ต่อนะ เราเชื่อว่าหลายคนเจอประโยคสวย ๆ ประมาณนี้แล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ แต่อาจเรียบเรียงความคิดออกมาไม่ได้ ตามนี้เลยจ้า

– – – – – – – –

แยกประเด็นให้นะ

– จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะ สลิ่ม ควายแดง สามกีบ ต่างก็เป็นแค่ label ในการระบุ tribe หรือกลุ่มของผู้คนที่มีพฤติกรรม ทัศนคติ แนวคิด หรือมีอะไรบางอย่างร่วมกัน

“สลิ่ม” ด้วยตัวคำของมันเอง ไม่ได้หยาบ เหยียด หรือลดทอนอะไร เป็นขนมหวานหลากสี แต่สิ่งที่คนที่เป็นสลิ่มชอบบอกว่ามันเป็นคำไม่ดี เป็นการบูลลี่ คือพฤติกรรมของบุคคลที่ถูก lable ว่าเป็น “สลิ่ม” ว่าเป็นพวกกลับกลอก หลักกูไม่เอาหลักการ ไม่มีจุดยืน ไม่มีกระดูกสันหลัง และไม่เห็นคนเท่ากัน

ในขณะที่คำที่สลิ่มเรียกกลุ่มคนอื่น อย่าง “ร่าน” “สามกีบ” “ควายแดง” “ส้มเน่า” เพื่อ lable กลุ่มคน ต่างหากที่มี sense ของการลดทอนจากตัว words หรือถ้อยคำ

แค่ label ที่ใช้ระบุ tribe ก็ต่างแล้ว ในขณะที่คำว่า “สลิ่ม” เป็นการเรียกโดยเสียดสีที่พฤติกรรม แนวคิด ทัศนคติข้างใน แต่ ควายแดงส้มเน่าร่านสามกีบ มี sense หรือนัยของการลดทอนตั้งแต่ภายนอกเลย

แต่สุดท้ายแล้ว คำว่าสลิ่ม ควายแดง ส้มเน่า สามกีบ จะถูกรับรู้อย่างไรในสังคม มันจะเปลี่ยนไปตามบริบท สมัยก่อน “สลิ่ม” มันเก๋ ใครก็ไปเป่านกหวีด ฉันเป็นคนดี ถ่ายรูปโพสต์โชว์ ควายแดงต้องอยู่ในซอกในหลืบ สุดท้ายมันพลิก สลิ่มไม่เก๋อีกต่อไป พอรู้สึกอับอายมากขึ้นก็รู้สึกว่ามันเป็นการ “บูลลี่” ซึ่งสลิ่มก็เอามาใช้แบบไม่สนใจหลักการเอาแต่หลักกู เราขออธิบายหลักการที่สำคัญในข้อต่อไป

– การ bully / บูลลี่ / รังแก ไม่ใช่แค่พฤติกรรม แต่ต้องมีมีเงื่อนไขของความสัมพันธ์เชิงอำนาจ คนที่ด้อยอำนาจไม่สามารถไป bully คนที่มีอำนาจมากกว่าได้

สลิ่มถือข้างผู้มีอำนาจ และผู้มีอำนาจก็เข้าข้างสลิ่ม จะบอกว่าสลิ่มโดนบูลลี่ นี่ก็ตลก เพราะอีกฝ่ายโดนเหยียบจนบี้แบน

– “ความเห็นต่าง” คือความเห็นในเรื่องที่ไม่มีผิดหรือถูก เช่น ความงาม ความอร่อย ตัวอย่างเช่น “สเป็กของดาวคือแบบบัวขาว หล่อกระชากใจ” หรือ “ดาวชอบกินอสุจิ อสุจิอร่อยมาก” ซึ่งคุณจะคิดว่าพี่บัวขาวไม่ใช่ความงามที่คุณชอบ หรืออสุจิไม่อร่อย คายไม่กลืน มันก็ไม่ผิด มันเป็นความชอบ รสนิยม ที่ไม่มีคำตอบถูกและผิดในตัวเอง เป็น subjective อัตตวิสัย ที่ควรได้รับการคุ้มครองสิทธิตามหลักประชาธิปไตย

แต่ความคิดเห็นหรือการกระทำ ที่ไปสนับสนุนระบบ ระบอบ หรือบุคคล ที่จ้องจะละเมิด ริดรอน สิทธิ เสรีภาพ อิสรภาพ ของผู้อื่น จะโดยตั้งใจ หรือเพราะเขลา เบาปัญญา คิดน้อย หรืออะไรก็ตาม ไม่นับเป็นความเห็นต่าง แต่เป็นการปิดกั้นและลดทอนสิทธิคนอื่น นับเป็นอาชญากรรมต่อมนุษย์ในหลักกาปรระชาธิปไตย

– คำว่า “คนไทย” ในบริบทของประโยคนี้พูดขึ้นมาเพื่อที่จะ justify ว่าเราไม่ควรเหยียดกันด้วยคำว่า “สลิ่ม” เป็นการพูดในบริบทว่าเราคนไทยเหมือนกัน ไม่ควรแบ่งแยก เราควรรักกัน สามัคคีกัน บลา ๆ ๆ อะไรเนี่ย

มันก็ยังติดในกรอบแบ่งแยกที่สัญชาติ เชื้อชาติ ซึ่งเป็นแนวคิดชาตินิยมตั้งแต่สมัยสงครามเย็น

โลกสมัยนี้และคุณค่าประชาธิปไตยในปัจจุบัน เป็นโลกที่หดแคบลง สังคมเต็มไปด้วยคนหลากเชื้อชาติ คนเปลี่ยนย้ายที่อยู่ มันไม่ได้มีกรอบคิดที่แค่ว่าเราต้องไม่แบ่งแยก หรือต้องรักกัน เพราะบอกว่าเป็นคนไทยเหมือนกัน

แต่เราควรเคารพและมองว่าเป็นมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน

จะเป็นคนสัญชาติไหน เชื้อชาติไหน รูปลักษณ์ รสนิยม อย่างไร ก็คนเท่ากัน

ลองอ่าน แล้วไปลองคิดดูละกันนะ

โดยทราย – อินทิรา เจริญปุระ ดารานักแสดง ได้นำมาแชร์ต่อพร้อมกับเขียนแคปชั่นระบุว่า “จัดแจงให้”



https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2718558

สลิ่ม ไม่ใช่คำด่าเลย มันคือแบรนดิ้งตะหาก

แอบหงุดหงิดเวลามีคนมาโว้ยวายว่าทำไมต้องเรียกคนเห็นต่างว่า สลิ่ม เป็นแค่ชื่อเรียกกลุ่ม ที่ไม่มีความหมายลบในตัวมันเองด้วยซ้ำ เพราะมันมาจากขนมหวาน ซาหริ่ม เสื้อหลากสี มันต่างจากคำว่า อนุรักษ์นิยม เสรีนิยมยังไง

ตามพี่ปูเป้อยู่นานล่ะ ความคิดดีจริงๆนะแบบหลักการอะไรค่อนข้างแน่นอนดีและก็ชอบมีสลิ่้มไปใฝว้ด้วยบ่อยดีเหมือนกันสนุก

สลิ่มเป็นคำนาม ไม่ใช่ Adj มันจะบูลลี่ได้ไง

สลิ่ม ไม่ใช่คำด่าเลย มันคือแบรนดิ้งตะหาก

ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อสลิ่มคือส่วนนึงของขบวนการสนับสนุนเผด็จการ ประชาชนมีสิทธิเต็มที่ในการด่า (ผมไม่เรียกว่าบูลลี่ด้วยซ้ำ)

ทำไมprotect แต่คำว่า สลิ่ม ล่ะ

ถ้ารักประเทศจริง ควรบอกว่า ทั้ง สลิ่ม สามกีบ ควายแดง ส้มเน่า ไม่ควรเอามาใช้ "ทั้งหมด"

คุณปูเป้เนี้ยตัวให้ความรู้สกินแคร์ยุคบุกเบิกของผมเลย หน้าเกลี้ยงเพราะคุณปูเป้เลย

ไม่เคยคิดเลยว่าคำพวกนี้ที่เกี่ยวกับการเมืองมันจะเท่ เก๋ไก๋ อะไรเลย มันสร้างมาเพื่อเหยียดฝั่งตรงข้ามอยู่แล้วเพราะคนที่คิดคือฝั่งตรงข้ามเนี่ยแหละ มันไม่ใช่คำที่อยู่ๆคนทั่วไปใช้กัน มันคือ "คำเหยียด" !! ไม่ใช่หรือไง

ส่วนความหมายมันก็แค่ข้ออ้างเท่านั้นแหละสำหรับผม เพราะจุดประสงค์มันก็ชัดเจนตั้งแต่แรกอยู่แล้วกับการใช้คำพวกนี้ของสองฝ่าย

อย่างพวกคำเหยียดอื่นๆ ดอก-ทอง งี้ ความหมายคืออะไร ดอกไม้สีทองหรือเปล่า? แต่จุดประสงค์ในการสร้างคำนี้มันคืออะไร มันก็คือเหยียดคนกันเองเนี่ยแหละ

จะมองมุมไหน "สลิ่ม" หรือ "ควายแดง" มันก็คือคำใช้เหยียดสำหรับคนที่ต่างความคิดต่างนิสัยของแต่ละฝ่ายใช้กัน มันไม่ต่างอะไรกันเลย

ยี้สลิ่ม

โดนเรียกด้วยชื่อขนมยังดิ้นขนาดนี้ แต่เรียกคนอื่นด้วยคำหยาบๆ


นี่แหละสลิ่ม55555

ถ้าด้วยความหมายว่าตามจริงมันก็เป็นคำด่า คำดูถูกนะ

เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความครีเอทีฟดีเหมือนกัน ฝ่ายนึงเลือกจะใช้คำด่าที่หยาบคายตรงๆ แบบควาย ร่าน อะไรแบบนี้


แต่อีกฝ่ายเลือกมาจากคาแรกเตอร์ของอีกฝ่ายที่ใส่เสื้อหลากสี คือมึงเอาไปทุกสีแล้วกูต้องยังไง? เลิกใส่เสื้อ?

ไปยืนรวมๆกันหลายสีมันก็เหมือนซาหริ่มจริงๆ

แสดงว่าพวกมึงก็รู้ล่ะตัวล่ะสิเนี่ย ไอ้พวกฟาสซิสท์

อี๋ ขนมหวาน เหม็นกะทิ กิ๊วๆๆๆ

ผมไม่สนหรอกมันจะเหยียดไม่เหยียดแล้วไง ผมไม่เป็นคนดีขนาดจะเรียกไอ้พวกนี้ดีๆหรอก ถึงใครจะว่าผมขี้เหยียดช่างเหยียดอะไรก็ช่าง ผมไม่ต้องสาธยายนะว่าสรรพคุณของไอ้พวกที่ถูกเรียกว่าสลิ่มมันเป็นยังไง ส่วนมันจะด่าอะไรผมก็ช่าง ผมจะเหยียดอะไรผมดูการกระทำเสมอ คุณเห็นต่างได้แต่ถ้าคุณมีเหตุผลเพียงพอผมพร้อมรับฟัง แต่ไอ้พวกสนับสนุนความรุนแรง ทำเป็นเมินเฉยต่อไอ้พวกที่สูบเลือดสูบเนื้อ ผมญาติดีด้วยไม่ลง

เมื่อไหร่จะเลิกโง่ ว่าการสนับสนุนเผด็จการเป็นสิทธิ์/เป็นการคิดต่างเห็นต่าง ซักทีวะ