พวกความรู้ใหม่ๆ พออายุขึ้นเลข 3 ทำไมมานั่งศึกษา มักเข้าใจยาก
หรือเรียนไม่รู้เรื่องเลย

เสียดายสมองตอนวัยรุ่น ไม่เอามาศึกษาอะไรที่เป็นประโยชน์
หรือว่าความรู้ในยุคปัจจุบัน มันเยอะ มันละเอียด ซับซ้อนมากขึ้น

ผมว่าเราโง่ลงนะ อย่างปัจจุบันผมเล่นเกมส์รู้สึกว่ามันยากนะสมัยนี้ แต่ลองกลับไปเล่นเกมส์เดิมๆ
อ้าวกูกากลงนี่หว่า 5555

ไม่ได้กวนนะ

เพราะไม่ค่อยได้ใช้สมอง
ไม่ค่อยได้ศึกษาอะไรตลอดเวลา
ทํางานวนลูปรูทีนซํ้าๆ

พอต้องมาเริ่มไรใหม่มันเลยยาก

อายุ ถ้าไม่ได้แก่มากๆแบบสมองเสื่อมจริงๆ
ยังไงก้ศึกษาได้

อจ. มหาลัยแก่ๆแต่ยังแอคทีฟความรู้ใหม่ๆ
เยอะแยะไปครับ

ถ้าคุณไม่ใช่คนที่ชอบเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา มันก็ไม่แปลกหรอกที่มันจะยาก เหมือนคุณไม่ได้ทำสิ่งนั้นเป็นปกติแล้วจู่ ๆ มาทำมันก็จะรู้สึกยาก แล้วยิ่งถ้าเรื่องที่คุณศึกษามันไม่ใช่เรื่องที่คุณอยู่กับมันมาตลอด มันจะยิ่งทวีความยาก

แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรยากเกินความพยายามครับ

จริงครับ เพราะงานรูทีน เลยทำให้รูตัน ตอนนี้ก็เปลี่ยนแนวละ กำลังให้สมองมันหยักไปเรื่อยๆ หวังว่าจะ comeback นะ

ผมอายุใกล้เลข 5 ละ แต่ก็ไม่เป็นแบบท่านบอกมานะครับ จะมีถดถอยก็จะเป็นสภาพร่างกายมากกว่าครับ

อาจจะเป็นที่อาชีพ และลักษณะงานด้วย ที่บังคับผมให้ต้องตื่นตัวกับวิชาการรวมทั้งต้องเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อน

ลองไปนั่งเรียนอะไรก็ได้ซัก 3-4 เดือนดูคับ ยังไงก็เข้าใจไม่มากก็น้อย ที่เราคิดว่ายากเพราะเราจะเอาในเวลาไม่กี่วัน มันเลยยาก แต่ที่ยากยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดเลยคือเราจะทำยังไงให้อดทนเรียนมันนานขนาดนั้นได้ 55

ผมกลับกันครับ ผม30 แล้วรู้สึกเรียนรู้ได้เร็วขึ้นกว่าปกติ เหมือนเรามีความรับผิดชอบมากขึ้น

ผมอายุเลข 3 แล้ว พอเรียนอะไรมันง่ายขึ้นมากกว่านะ

ผมว่ามี 2 อย่างแหละ อย่างแรกอาจจะทำอะไรรูทีนเกินจนเคยชิน อย่าง 2 คือมาตรฐานของคำว่า"ยาก" เรามันไม่เท่ากับตอนเด็ก อย่างตอนเด็กเราอาจจะรู้สึกว่าตรีโกณมันยาก พอเราโตขึ้นมาเราก็รู้สึกว่าตรีโกณมันง่ายแล้ว แต่ทำไม stochastic calculus มันยากจังวะ ทำไมไม่เห็นเข้าใจเร็วเหมือนตอนตรีโกณเลย แต่ถ้าเทียบความยากจริงจัง ไง sto cal มันก็ยากกว่าตรีโกณน่ะแหละ

ต้องดูว่าท่านอยากเรียนอะไรมากกว่า อยากเอาไปต่อยอดตรงไหน

เพราะถ้าลองแล้วไม่ได้เลย มันก็จะไปต่อยาก ให้เลือกเอาที่เราสนใจจริงๆ แล้วตั้งเป้าหมายครับ ว่าเดือนนี้เอาถึงแค่ไหน

แต่ผมยังไม่ถึงเลข 3 นะ ผมก็เรียนเพิ่มรัวๆ เรียนพวกที่ไม่ตรงกับสายที่จบมา + ภาษา

บางอันที่อยากเรียนแต่ลองดูที่สอนฟรีบทแรกแล้วรู้สึกโง่เลย ก็พวก เขียนโปรแกรม python ไรพวกนี้ (ไว้อัพเกรดตัวเอง) พอดูคร่าวๆแล้วรู้สึกตัวเองโง่มาก เลยเอาไว้ก่อน ดูๆแล้วต้องใช้เวลาเยอะมากๆ รอหยุดยาวๆ อีกรอบน่าจะได้เจอกัน (คอร์ส 25 ชม.)

อย่างของผม ผมจะกำหนดเป้าหมายที่ต้องทำทุกสัปดาห์คือ อ่านหนังสือให้จบ 1 เล่ม (ที่ไม่ใช่หนังสือเรียน) ส่วนเคล็ดลับของผมคือ โพสอวดโซเชี่ยล ของเราครับ ว่าจะอ่านหนังสืออาทิตย์ละเล่ม ช่วงแรกๆ ทำได้อยู่พอพลาดไปอาทิตย์นึง แล้วโดนเพื่อนแซว เสียหน้ายอมไม่ได้ หลังๆเลยต้องไม่ให้เสียหน้าครับ หลังๆเวลาจะเรียนอะไรผมก็จะโพสอวดก่อน เช่นจะเรียนภาษาจีนให้จบภายใน 2 เดือน อะไรประมาณนี้ครับ พอทำได้ก็ได้ขิงเพื่อน

สู้ๆครับ ไม่มีใครแก่เกินเรียน เพื่อนร่วมคลาสผมบางวิชา รุ่นพ่อมาเรียนก็มีครับ ก็ได้คอนเนคชั่นกันไป ยกตัวอย่างล่าสุดมีผู้บริหารบริษัทสื่อมาเข้าเรียนก็ฝากเนื้อฝากตัวกันยกใหญ่

จริงครับ อาจารย์หลายๆท่านยิ่งอายุมากยิ่งเก่ง ประสบการณ์ความรู้ยิ่งมากขึ้นไปอีก

ผมว่าเราไม่มีเวลาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

ถ้าเราทุ่มเทกับมันได้7-8ชม ผมว่าไงก้รู้เรื่องอ่ะ

นี่ต้องเครียดงานกังวลงาน ศึกษาสกิลใหม่ๆได้วันละสัก 3 ชม ผมว่าเก่งละนะ ละระหว่างนั้นอาจมีวอกแวกด้วย + ไม่ต่อเนื่องเดี๋ยวต้องไปธุระนั่นนี่

สมัยเด็กๆไม่มีไรเครียด เรียนก้เรียนไป เลิกเรียนก้เล่นแค่นั้น สมัยมหาลัยก้มีช่วงเวลาอ่านหนังสือไรงี้

mindset คุยปิดกั้นตัวเองว่า อายุมากแล้ว อาจจะได้เท่านี้ แต่จริง ๆ แล้วไม่เลย

ถ้าสามารถเปิดใจรับกับสิ่งใหม่ ๆ ที่เข้ามาแบบไม่มีอคิติจากแนวคิดหรือประสบการณ์เดิม ๆ ผมมั่นใจว่าทุกคนจะเก่งขึ้น

-

ผมกลับรู้สึกว่าตอนอายุปัจจุบันมีความสามารถในการอ่าน วิเคราะห์มากกว่าตอนเรียนมหาลัยครับ