คิดยังไงเกี่ยวกับที่หลายๆทีมที่เริ่มถอนตัว ส่วนตัว(ย้ำว่า คหสต.) คิดว่าทั้ง 12 ทีมที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดตั้ง ESL น่าจะพอรู้ถึงผลกระทบ หรือปฏิกิริยาต่อต้านที่ตามมา จากทุกๆฝ่ายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น องค์กรเดิม สโมสรอื่นๆ นักฟุตบอล แฟนบอล บลาๆ แต่คงไม่ได้คิดว่าจะมีผลกระทบต่อสโมสรหรือตัวเองมากมายขนาดนี้ จนถึงขั้นผู้บริหารบางรายต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยการฮาราคีรีตัวเอง ด้วยการประกาศลาออกแม่มเลย..
แต่มองอีกมุม การประกาศจัดตั้ง ESL ก็เป็นการประกาศให้โลก หรือเราๆ ได้รู้ว่าองค์กรที่รับผิดชอบการจัดการแข่งขันเดิมนั้นก็ไม่ค่อยโปร่งใสเท่าไหรนัก ซึ่งการประกาศจัดตั้ง ELS นี้เหมือนการลองเสี่ยงวัดใจ เผื่อฟลุ๊ค ถ้าคนเออออด้วย ก็ดี หรือไม่เห็นด้วย ก็ประกาศถอนตัว หรือแสดงสปิริตลาออก แต่เชื่อว่าผลพลอยได้หลังจากนี้ หลายๆสโมสรที่เข้าร่วมแข่งรายการ UCL หรือรายการอื่นๆที่จัดโดยองค์กรนี้ จะได้ผลประโยชน์เยอะขึ้น เนื่องจากเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่ที่ทั่วโลกจับตามอง ว่าจะมีการปรับปรุงเรื่องการจัดสรรผลประโยชน์อย่างไร และมีความโปร่งมากเพียงใดในอนาคต

ปล.ใครไม่รู้กล่าวไว้ "เพื่อผลประโยชน์ที่ดีกว่า เราก็ต้องแลกด้วยบางอย่าง"
#เจ็บ แต่ยังไม่จบ

มุมส่วนตัว
1.สโมสรคือบริษัทๆหนึ่ง มีการประเมินความเสี่ยงอยู่เเล้วกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ก็การจัดตั้งเพื่อกดดันจาก 4bm up to 7.5bm ตามข่าว

2.ตบหน้าเเละกระแสกดดัน UEFA จากภาพที่แก้ไขเงินรางวันนี้ แบบ "ก็จ่ายได้นิ"

สำหรับผม อยากให้เกิด ESL แต่ในใจก็รู้แหละ ไม่มีทางเพราะเป็นเพียงเกมการเมืองในโ,กฟุตบอล (เซง อดดูบอลมันๆ)

ผมนับถือเปเรซอะ อย่างน้อยก็กล้างัดกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
จะเป็นแผนป่าวไม่รู้นะ แต่คือประสบความสำเร็จ 4 to 7.5
แล้วกระแสแฟนบอลช่วงนี้แรงๆแหละ แต่เดี๋ยวก็ลืม
แล้วมันทำให้ฟีฟ่าจะทำไรคงต้องคิดเพราะทั้งโลกรู้แล้ว
ว่ามันไม่โปร่งใส

ESL คิดแบบธุรกิจ จะอะไรมากครับ มันแค่นั้นจริงๆ
แต่ฟุตบอลมันมีมิติความรู้สึก ความภักดีของแฟนบอลที่ไม่ใช่แค่เป็นผู้บริโภคสินค้า

เอาแค่นี้ก่อน ESL เงินหมุนเวียนหลักพันล้านยูโรขึ้น (ย้ำว่ายูโรไม่ใช่บาท) เขาไม่ "ลองเสี่ยงวัดใจ เผื่อฟลุ๊ค" ครับ เขาต้องศึกษา ต้องบริหารความเสี่ยงมาแล้ว ไม่ใช่เอะอะประชุมแล้วจัดเลย เขาวางแผนกันเป็นปีครับ แต่มันพลาดเพราะปัจจัยความเสี่ยงเขาประเมินผิดพลาดอย่างแรง

มันไม่ใช่การเอาฟลุ๊คง่ายๆ เหมือนหวยที่ลงทุนแค่ 100 บาท เพื่อหวังจะถูกรางวัลที่ 1 นะ

แค่เปรียบเปรยครับท่าน

แผนอะไรครับ เสียหมาขนาดนั้น ประธานโดนไล่ส่ง ถึงขนาดต้องออกมาแทบจะกราบเท้าขอโทษแฟยบอลตัวเอง
ผมมองว่าครั้งนี้ ผู้บริหาร12ทีม แพ้แบบย่อยยับเลยนะ

ผมมองว่า ที่ออกมา เหมือนเเสดงให้ทั้งโลกเห็นว่า ยูฟ่า ไม่ได้มีเเค่องค์กร เดียวเเล้วนะ ที่ดูเเล หรือจัดการเเข่งขันฟุตบอลได้
เเละ ยูฟ่า ที่ทุกคนมองว่า ดีนักดีหนา พอเกิดเรื่องขึ้นมา สุดท้ายก็เอาคำว่า ประวัติศาสตร์ เเละวัฒนธรรม มาเป็น ตัวประกันซะอย่างงั้น เหมือนกัน

เเละผมว่า คนระดับ ผู้บริหาร ระดับโลก 12 คนรวมตัวกันเเบบนี้ ถ้าออกมาทำขนาดที่ว่า มาปาหี่ คนทั้งโลก เเบบล่าสุดเกี่ยวกับ USL นี้ถ้าไม่ ด้วย ความเซ็งในการปฏิบัติไม่โปร่งใส ในการบริหารของยูฟ่า ก็คือ จนตรอก ทางด้านการเงินมากๆ เพราะโควิด กำลังจะทำให้ ทีมฟุตบอลทีมใหญ่ กำลังเข้าขั้นวิกฤต

ซึ่ง ผมก็ยัง มองว่า โควิด ครั้งนี้ ยูฟ่า ไม่เห็นจะมีมาตรการช่วยเหลือ อะไรเลยด้วยซ้ำ....

สงครามครั้งนี้ มีเเต่ ตัวร้ายในคราบคนดี กับ ตัวร้ายในคราบตัวร้าย มาตบกัน คนซวยมากๆคือ คนในทีม เเละสต๊าฟ คนซวยคนต่อมาคือ เรา คนดูนี่เเหละ