ลองเอาข่าวเก่า NBA เมื่อ 10 ปีที่แล้วมาให้อ่านกัน



มาต่อกันที่ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ ก็เตรียมกลับมาเปิดฉากในช่วงคริสต์มาส นี้ หลังจากทั้งสองฝ่ายสามารถหาข้อยุติและปลดล็อกเอาท์ ที่ยืดเยื้อมามาเป็นเวลานานถึง 5 เดือนได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังจากการเจรจาระหว่างสหภาพผู้เล่นกับเจ้าของทีม NBA เพื่อต่อสัญญา "ข้อตกลงสิทธิประโยชน์ร่วมกัน" หรือ ซีบีเอ ฉบับใหม่ยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยประเด็นปัญหาหลักที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้อยู่ที่ส่วนแบ่งรายได้ที่มีมูลค่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 120,000 ล้านบาท

ซึ่งทางฝั่งผู้เล่นนั้นต้องการส่วนแบ่งรายได้ 52.5 เปอร์เซ็นต์ โดยน้อยกว่าฉบับเดิมที่ได้รับ 57 เปอร์เซ็นต์ แต่ทว่าทางฝั่งเจ้าของทีมนั้้นเสนอแบ่งรายได้ให้กับผู้เล่นเพียงแค่ระหว่าง 49-51 เปอร์เซ็นต์ ก่อนที่ฝั่งเจ้าของทีมจะยื่นข้อเสนอครั้งล่าสุดว่าให้แบ่งรายได้กันคนละครึ่ง 50-50 เปอร์เซ็นต์

แม้ว่าล่าสุด เดวิด สเติร์น ประธานลีกเอ็นบีเอ ออกมาเปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการเจรจาหนใหม่เป็นเวลานาน 15 ชั่วโมงว่า ลีกเอ็นบีเอมีฤดูกาลใหม่มีแนวโน้มจะเปิดฉากได้ในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ แต่ก็ยังไม่ได้มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงที่ สหภาพผู้เล่น และ เจ้าของทีม NBA บรรลุเรื่องการต่อสัญญาแต่อย่างใด


https://www.voicetv.co.th/read/24313



ขนาดเจรจาเรื่องส่วนแบ่งของ NBA ตอนนั้นยังใช้เวลาถึง 5 เดือน แล้วกรณี ESL ผมว่าซับซ้อนกว่านั้นเยอะเลย

ถ้าตกลงกันไม่ได้ก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ ก็มีโอกาสเหมือนกันที่จะเกิดการล็อคเอาท์ลีกอังกฤษ สเปน อิตาลี และบอลถ้วยยุโรป

อาจจะลามไปถึงบอลทีมชาติ ยูโรด้วยรึเปล่า จริงๆเอาแค่ฤดูกาลนี้ยังไม่รู้เลยว่า UCL/UEL จะเอายังไง

ส่วนตัวผมมองว่าไม่จบง่ายๆอ่ะ นอกจากปีที่แล้วแฟนบอลต้องเจอล็อกดาวน์แล้ว ปีนี้อาจจะต้องเจอล็อกเอาท์ต่อเลย

ไม่กระทบนะ ถ้าล็อคเอาท์ ESL ก็จัดแข่งเองแม้งเลย ง่ายดี ทุกอย่างพร้อม

ไม่ง่ายขนาดนั้นครับ มันจะมีเรื่องที่ Uefa อาจห้ามนักเตะจาก ESL ลงแข่งทีมชาติ

ซึ่งนักเตะส่วนใหญ่คงไม่ยอมหรอก ผมถึงบอกมันซับซ้อนแน่ๆ

ทั้งปีก็จะเตะกันอยู่แค่12ทีมหรอครับ บอลทีมชาติก็ไม่ต้องเล่นเพราะโดนแบนงี้หรอ

เทียบเคียงจากเคสใกล้เคียงกันการห้ามไม่ให้นักเตะลงในรายการอื่นอาจจะผิดกฎหมาย competition law ได้

ตัว uefa น่าจะสั่งไปก่อน แล้วจะมีการฟ้องร้องกันตามมาภายหลังแน่นอน

ก่อนหน้านี้เห็นมีข่าว มวยปล้ำ กับ ไอซ์สเก็ต เคยเกิดเคสทำนองเดียวกันคือห้ามไม่ให้นักกีฬาไปลงแข่งรายการคอมเมอร์เชียล หรือ ขัดขวางอีเว้นต์กีฬาไม่ให้เกิดขึ้นโดยองค์กรกลาง แล้วศาลเพิกถอนคำสั่งพวกนี้เพราะเข้าข่ายทำลายการแข่งขัน

https://curia.europa.eu/jcms/upload/docs/application/pdf/2020-12/cp200159en.pdf

เพราะสถานะของ uefa เองมีความเป็น monopolist อยู่ในตัวและตัวเองก็จัดอีเว้นต์กีฬาแบบแสวงหาผลกำไร การไปสั่งห้ามหรือแทรกแซง กิจกรรมแสวงหาผลกำไรอื่นอาจเข้าข่ายทำลายการแข่งขันได้

เอาจริงๆผมว่า พลังเงินไปดึงทีมอีก 8 ทีมที่ พร้อมจะมาเล่นกับ 12 ทีมใหญ่ ทีมตัวเองยกระดับขึ้นมามากโข แถมได้เงินอีกบาน ไม่เตะแค่12 ทีมหรอก

12 ทีมคือยืนพื้นครับ ถ้ามันเวิร์ค เค้าจะดึงทีมอื่นๆเพิ่มเข้ามา

12 ทีมนี้คือผู้ก่อตั้ง

สถานการณ์แบบนี้นักเตะหลายคนอาจจะยอมก็ได้นะครับ เพราะไม่อยากเดินทาง เสี่ยงกับโรคด้วย

สิ่งนึงที่งงคือ ทำไมต้องห้ามไม่ให้เตะทีมชาติ?
ชาติของเขา โค้ชประเทศเขาควรเลือกเอง

ลองแบนดูก็ดี จะได้เห็นคอมเม้นระดับประเทศบ้าง แบนนักเตะเชลซีพวก ไค ฮาแวต แล้วไม่ต้องไปเตะทีมชาติ

หรือแบน แฮรี่เคน, เม้า, แรช ไม่ให้เตะชาติอังกฤษดิ อยากเห็นเป็นกรณีศึกษาเหมือนกันนะ