คือผมกับแฟนต่างคนต่างอยู่บ้านตัวเองกัน ทีนี้พอช่วงโควิดตอนนี้มันแรงมาก ผมก็ไม่อยากกินข้าวข้างนอก เพราะต้องถอดมาส์ก แต่แฟนผมไม่เข้าใจ ก็งอนผม ผมก็บอกไปผมกลัว ผมไม่อยากติด ถ้าติดมันมีโอกาสทำให้ตัวเค้าติด คนที่บ้านติด ละต้องไปอยู่รพสนามอีก แต่แฟนบอกไม่กลัว ละก็งอนผมหาว่าผมไม่อยากเจอเค้า

คือผมโอเคถ้าเจอกันแบบไม่ต้องถอดมาส์กในที่สาธารณะ กินข้าวตามร้าน

เลยปรึกษาหน่อยครับว่าทำไงดีให้แฟนเข้าใจว่าโควิดช่วงนี้มันแรง ไม่ควรออกไปกินข้าวข้างนอกบ่อยๆ

ท่านต้องบอกแฟนเด็ดขาดครับอย่างก่อนระบาดหนักนัดกันช่วงสงกรานต์จะไปหาไรกินกันไปเที่ยวกันครับ ก็ยกเลิกไปก่อน แฟนก็เข้าใจครับอาจเพราะแฟนผมก็กลัวครับ เลยรออีกเดือนหน้าครับค่อยมาเจอกัน

ถ้าอธิบายแล้วไม่เข้าใจ ลองชวนกันกินข้าวที่บ้านได้มั้ยครับ

ของผมเหมือนจะเข้าใจแต่เค้าก็ไม่เข้าใจเลยครับ ตั้งแต่ระบาดปีที่แล้วแล้ว แบบชอบบอก"ทำไมทีคู่อื่นเค้าเจอกันได้" เอิ่ม ก็คนพวกนั้นเค้ายังห่วงเที่ยว ไม่สนใจ ไม่เคยคิดบ้างว่าถ้าติดแล้วผลกระทบที่ตามมามีอะไรบ้าง คือผมก็ไม่เข้าใจเค้าว่าอย่างบ้านเค้าก็มีแม่ มียายอยู่ด้วย ทำไมเค้าไม่คิดบ้างว่าถ้าเกิดตัวเองเค้าติด ละแม่กับยายเค้าติดด้วย มันจะอันตรายเข้าไปใหญ่

ซื้อข้าวห่อไป แล้วไปเปิดห้องกินกัน 2 คน

ตอนนี้ที่บ้านผมก็ระแวงกันหนักอะครับ แบบขนาดอาทิตย์ก่อนญาติมาบ้านก็ระแวงญาติกันหนักเลย ที่ญาติไม่ใส่มาส์ก

วิดีโอคอลคุยกันช่วยไหมท่าน หรือถ้าไม่ช่วยก็ออกไปร้านที่คนไม่พลุกพล่านรีบกินรีบกลับครับ

ระวังตัวเองไว้ก็พอครับ แฟนท่านเขาอยากเจอ

ผมว่าถ้าสถานการณ์แบบนี้ผมว่าคงต้องบอกเหตุผลและตามด้วยอาจสัญญากับเขาครับว่าถ้าโควิทดีขึ้นจะไปไหนกันบ้างให้เขารออีกนิดนะถ้าติดมานิแย่มากแน่ๆแต่ถ้าเขายังไม่ฟังท่านอีกผมก็คงไม่รู่ว่าจะแนะนำยังไงอีกครับ ลองๆคุยดูอีกรอบครับ ใจเย็นๆนะครับแฟนท่านอาจยอมก็ได้

งั้นขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีครับ

บอกเรียบร้อยละครับว่าถ้ามันซาลง พอมันคุมอยู่แล้ว เดี๋ยวไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน เค้าหาว่าผมขายฝันเฉย ผมนี่ไม่รู้จะใช้อะไรมาพูดให้เข้าใจแล้ว อาจจะด้วยทุนเดิมเค้าเป็นคนชอบเอาชนะ ทะเลาะกันทีไร ผมต้องยอมตลอด ถึงตัวเองจะไม่ได้ผิดไรก็ต้องยอม

โห้ ยากเลยทีนี้ผมคงไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงดีเลยครับถ้ามาไม้นี้แล้ว ถ้ายอมแล้วติดโควิทมันก็ไม่คุ้มเลย และ อันตรายมาก ท่านคงต้องมองหาวิธีอะไรที่จะแก้ปัญหาดูครับ ค่อยๆคิดครับคุยๆกันดูครับ

ไม่มีผลครับ สำหรับเค้าคือต้องเจอกันเท่านั้นเลย ผมล่ะเหนื่อยใจจริงๆ

เห้อ สาธุครับ เพราะทุกครั้งที่ผ่านมา ผมไม่มีส่วนในการส่งผลให้เค้าอารมณ์ดีได้ หรือ เข้าใจได้ หลักๆจะตัวเค้าใจเย็นลงเอง ไม่ก็เค้าไปปรึกษาคนอื่นละคนอื่นเตือนสติเค้า

ขอบคุณมากครับ เห้อ

เอางี้นะตอนแรกผมก็ แพนิค แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการตกลงร่วมกัน ผมมองว่าเราออกไปเซฟตัวเอง ถอดแมสในร้านอาหารก็เลือกร้านอากาศเปิด ไม่เลือกแอร์ เวลาหยิบจับอะไรเข้าปาก ป้ายหน้าตา ก็แอลกอฮอล์ลงมือทุกครั้งหลังจากปตะจับอะไรที่ไม่ใช่ของเรา ถ้าขับรถ ก็ล้างแอลกอฮอล์ที่มือพร้อมล้างสิ่งที่เราจับ ทำให้ละเอียดสำหรับเราหน่อย ผมว่ามันก็พอออกไปได้นะ