เอล ดีโอส เด ฟุตบอล...เลโอ เมสซี่

(ต่อจากฉบับที่แล้ว)

ตั้งแต่เล็ก เมสซี่ พยายามลงเล่นในทุกๆเกมโดยไม่สนใจว่าจะเป็นนัดกระชับมิตรหรือการแข่งขันอย่างเป็นทางการ สิ่งสำคัญสำหรับเขาคือการลงไปเล่นในสนามและทำให้ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม ความพากเพียรที่เขาแสดงออกในสนามฟุตบอล กลับไม่ได้ถูกนำมาใช้ในแง่มุมอื่นในชีวิตเลย ด้วยเหตุนี้ เมสซี่ จึงเริ่มมีปัญหา

เด็กน้อยผู้มีแพสชั่นเต็มเปี่ยมกับฟุตบอล ทุ่มเททุกอย่างในสนาม ไม่ได้แสดงความสนใจและความสามารถออกมาที่โรงเรียนประถม กราล ลาส เอราส เลย
แม้เขาจะไม่ใช่เด็กเกเร แต่ก็ถือเป็นตัวหายนะในห้องเรียน เพราะได้ผลการเรียนที่ย่ำแย่อยู่เสมอ

ในความเป็นจริง เมสซี่ ทำได้ดีมากในวิชาเรขาคณิต เพราะมันสามารถนำไปปรับใช้ในสนามแข่งขันได้ แต่เมื่อต้องเปลี่ยนมาเรียนในวิชาคณิตศาสตร์,พีชคณิต หรือวิชาใดก็ตามที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ซึ่งไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฟุตบอล เมื่อนั้นผลการเรียนของเขาจะตกต่ำทันทีแม้ว่าเขาจะรู้วิธีเอาชนะใจคุณครูที่สอนก็ตาม

จากคำบอกเล่าของ ซินเตีย อาเรยาโน่ เพื่อนสนิทในวัยเด็กของ เมสซี่ ว่าเธอมักจะส่งสมุดจดงานให้ เมสซี่ เสมอ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้นิสัยการเรียนของเขาดีขึ้น เห็นได้ชัดว่าผลการเรียนของเขาทำเอาพ่อกับแม่ปวดหัวอย่างมากทีเดียว
“เขาเป็นคนขี้อายกับทุกคน แต่เขาจะพูดกับฉันมากกว่าคนอื่นๆ เขามักจะอยู่ที่บ้านเสมอ และออกมาเฉพาะตอนเล่นฟุตบอล, สิ่งเดียวที่เขาชอบก็คือลูกฟุตบอล”
“ตอนที่เขาเล่นฟุตบอลแล้วโดนเตะล้มลงไปเขาจะร้องไห้ แต่จากนั้นไม่นานก็หยุดและเริ่มกลับมาวิ่งต่อ”

…………………………..

อาการป่วยเปลี่ยนโชคชะตา

หลังจากเล่นให้ กรานโดลี่ ของ อาปาริซิโอ เวลาต่อมา เมสซี่ ก็ได้ลงเล่นให้กับสโมสรเซนตรัล กอร์โดบา อยู่ช่วงนึง ก่อนที่ในปี 1994 จะได้เข้าร่วมฝึกซ้อมและเซ็นสัญญากับทีมเยาวชนของ นีเวลส์ โอลด์ บอยส์ สโมสรที่เขาติดตามเชียร์มาตลอด และลงทะเบียนกับสมาคมฟุตบอลโรซารีโอ (ARF) ซึ่งในเดือนมีนาคม ปี 1994 เขาก็ได้รับการขึ้นทะเบียนในการแข่งขันระดับเยาวชน

ชีวิตของ เมสซี่ ดำเนินไปอย่างมีความสุขกับการลงเล่นฟุตบอลที่เขารัก ในฐานะนักเตะเยาวชน ของ นีเวลส์ โอลด์ บอยส์ เขาลงเล่นทั้งสิ้น 176 เกม ยิงไปทั้ง 234 ประตู (เฉลี่ย 1.33 ประตูต่อเกม)ในช่วงเวลา 6 ปี

ทีมชุดนั้นแทบจะเรียกได้ว่าไร้พ่าย สามารถเรียกแฟนบอลเข้ามาชมเกมการแข่งขันได้อย่างมากมาย จนได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘เครื่องจักร 87’ (มาจากปีเกิดของเด็กชุดนี้)

ทว่าชะตาชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ในวัย 11 ขวบ พ่อกับแม่ของเขาสังเกตเห็นว่าเขาโตที่ช้ากว่าปกติ จึงนำตัวไปที่โรงพยาบาล ก่อนหมอจะตรวจพบว่าเขามีอาการผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมนด้านการเจริญเติบโต ทำให้พัฒนาการของกระดูกล่าช้า ซึ่งสำหรับนักกีฬาเด็กส่วนใหญ่ ปัญหานี้หมายถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางอาชีพ แต่ เมสซี่ ไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น

ในส่วนของกระบวนการรักษา จะต้องฉีดยาเร่งการเจริญเติบโตของกระดูกซึ่งมีค่าใช้จ่ายมากถึง 900 ดอลล่าร์ต่อเดือน

เมสซี่ เข้ารับการฉีดยาเร่งการเจริญเติบโต โดยที่เงินค่ารักษาส่วนใหญ่มาจากประกันสังคมและมูลนิธิอาซินดาร์ซึ่งเป็นของบริษัทที่ ฮอร์เก้ พ่อของ เมสซี่ ทำงานอยู่

“ผมมักเป็นคนที่ตัวเล็กที่สุดในสนามเสมอเพราะมีปัญหาเรื่องการเจริญเติบโต ผมโตขึ้นนะแต่ช้า ด้วยเหตุผลนี้ในทุกๆวัน ผมจำเป็นต้องเข้ารับการฉีดฮอร์โมนที่ขาทั้งสองข้างเพื่อเร่งการเจริญเติบโต ในช่วงแรกมันเจ็บมาก แต่หลังจากนั้นผมก็เริ่มชิน”

อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไป 1 ปีครึ่ง เงินช่วยเหลือตรงส่วนนี้ถูกตัดออกไปในที่สุด

(อ่านต่อฉบับหน้า)


#เจมส์ลาลีกา #เฟียสต้า ปาเอย่า โรฆา มาทาดอร์

ขอลิงค์ฉบับที่แล้วหน่อยครับ

http://www.soccersuck.com/boards/topic/1986586

http://www.soccersuck.com/boards/topic/1986586

ผมรู้เพศลูกเดือนหน้า ถ้าได้ลูกชายจะตั้งชื่อว่าเมสซี่มันจะเป็นไงบ้างน้อ 555+