LFC : เมื่อนักเตะเจ็บกลายเป็นข้ออ้างมากกว่าเหตุผล
...ผลงานล่าสุด 12 นัดล่าสุดใน EPL ของปี 2021 นี้ผลลัพท์คือ ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 8 เก็บได้แค่ 10 แต้มจาก 12 นัด หรือ 10 แต้มจากทั้งหมด 36 แต้ม คิดเป็น 27.8% อันนี้ผมไม่ได้ดูเทียบกับสโมสรอื่นนะ แต่ให้คิดเป็นอันดับคง 12 นัดที่ผ่านมาน่าจะอยู่โซนเกือบๆตกชั้นหรือตกชั้นได้เลยมั้ง ซึ่งมีสิ่งที่ผมคิดเอาไว้ประมาณนี้
เอาคีมไปตอกตะปู ไร้ซึ่งความยืดหยุ่น
- หรือพูดง่ายๆก็คือ นักเตะที่เหลืออยู่ให้ใช้งานตอนนี้ไม่ได้เหมาะสมกับแผนการเล่นที่จะให้เล่น จะว่าปรับบ้างไหมมันก็ปรับแต่สุดท้ายรูปแบบการเข้าทำมันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเดิม คือ ถ่ายบอลสู่ Fullback ปีกหาช่องวิ่งสอด สุดท้ายเหมือนเดิมครับ คู่แข่งวิ่งไปดักทางส่งเป็นพอ ดักทางส่องได้แล้วไง แผนเราแบคลอยสูงจัดๆ ก็สาดบอลขึ้นหน้าต่อสิครับ จะเชลซี / ฟูแล่ม / เอฟเวอตัน / เลสเตอร์ เค้าก็เล่นกันแบบนี้ทุกทีม มีก็แต่ เชฟฟิลที่ไม่ค่อยมีแนวรุกที่เก่งในการเลี้ยง(ดูได้จากนักเตะเลี้ยงผ่านมากสุดคือ Sander Berge กลางตัวรับ) ฉะนั้นแล้วทีมไหนก็ตามที่มีปีกสปีดไวๆ หรือ มีนักเตะที่ดวล 1-1 ได้ จัดไปยืนตรงฝั่งโซนแบ็คขวาหรือซ้ายของหงส์ได้เลย เท่านั้นก็เหลือแต่เน้นเล่นเกมรับให้รัดกุมก็พอ(ซึ่งเอาจริงๆไม่ได้ปิดยากเลยนะ ไม่มีลูกอะไรพลิกแพลงเลยด้วยซ้ำ) ในสถานการณ์ตอนนี้เราต้องการการเปลี่ยนแปลงแล้ว เข้าใจว่า JK เชื่อมั่นในการ Pressing แต่ถ้ามันไม่เวิร์คลองปรับหน่อยมั้ย เพรสแค่บางแดน หลายๆทีมเค้าก็ทำแบบนี้ไม่เปลืองแรงวิ่งด้วย JK เองก็ใช่ว่าจะไม่เคยปรับ ก่อนที่คูตี้จะย้ายออกไป แผนการเล่นมีทั้งหลัง 3 ก็เคยมี 4-2-3-1 ก็ทำบ่อยๆ หรือจะเป็น 4-4-2 ที่ส่ง คูตี้ โม โน่ เน่ ลงพร้อมกันได้ ก็ยังทำมาแล้ว หรือ ตอนที่วิวัตรมาเป็นแผนนี้หลังจากเสียคูตี้ไปก็เช่นกัน แล้วจะฝืนต่อไปทำไมกันล่ะ
ไม่มีความละเอียด
- หลายๆครั้งจะเห็นว่าเมื่อเราสร้างโอกาสไปถึงจุดสุดท้ายได้ แล้วมันเป็นยังไง สุดท้ายไม่คมบ้าง จับบอลลั่นบ้าง เสียบอลเองบ้าง จากที่ควรจะได้ประตูกลายเป็นเสียประตู ส่วนนึงคิดว่าน่าจะมาจากความมั่นใจที่มันหายไปของผู้เล่น และ ในแง่ของการเสียบอลที่ถูกสวนกลับมาเป็นประตู(บังโมน่าจะโดนไป 2 ลูกได้ละมั้งนับจากนัดเอฟ) อีกทั้ง Human Error จาก Alisson ซึ่งจริงๆแล้วตรงส่วนนี้ผมแอบสงสารแกนะ กลางแปะ หลังส่งคืน วนไปแบบเนี้ย ต่อให้เอา นอยเออร์+เอดิซอน+สเตเก้น ฟิวชั่นกัน มันก็ต้องเล่นบอลเท้าพลาดกันบ้างละวะ
เหมือนเดิมที่ไม่เหมือนเดิม
- เราพยายามจะกลับไปเป็น Liverpool ที่เป็นเหมือนปีก่อน แต่คู่แข่งไม่ได้มีวิธีรับมือกับเราแบบปีก่อน ต่อให้พูดได้ว่าการที่เราขาดกองหลังตัวหลักนั้นส่งผล มันก็ย้ำจุดก่อนหน้านั้นอยู่ดีว่า เราพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม ไม่ว่าทรัพยากรของเราจะพร้อมแบบเดิมหรือไม่ก็ตาม สุดท้ายแล้วผลลัพท์คือมันออกมาแย่
จุกจิกจนสร้างผลกระทบไปทั้งทีม
- จริงอยู่ครับการขาดหายของกองหลังเราคือปัญหา จากสัมภาษณ์ของ JK เค้าบอกไว้เองว่าเค้าไม่สามารถส่งกองหลังที่ไม่มีประสบการณ์ลงไปเล่นพร้อมกันถึง 2 คนได้ เลยทำการเอากองกลางที่ดีที่สุดของทีมถึง 2 คนปรับลงมาเล่นกองหลัง ผลกระทบนี้ผมเชื่อว่าแฟนหงส์หลายๆคนเข้าใจดีมันยิ่งกว่าโดมิโน่ซะอีก
>>> หลังหายเอากองกลางตัวจริงมาเล่นหลัง -> กลางกลวงโบ๋ -> แนวรุกไม่ได้รับการซัพพอร์ท <<<
เนื่องจากนักเตะเราหายไปส่วนนึง สิ่งสำคัญเลยที่ทุกคนรู้คือเราใช้ FullBack Overload เกมรุก นำมาซึ่งพื้นที่ว่างตรงหลังที่แบ็คเราอยู่แทนเป็นช่องเปิดค่อนข้างกว้าง และ คนที่คอยกำจัดปัญหาเหล่านี้คือเหล่ากองกลางที่ส่งไปเล่น CB นั่นแหละ สุดท้ายแล้วกลายเป็นมิดฟิลด์ที่ลงไปแทนตัวจริงที่ถูกถอยไป ไม่สามารถซ้อนจังหวะการเล่นแบบคนเดิมที่เคยทำได้ สุดท้ายแล้วตรงนั้นก็คือพื้นที่เปิดให้คู่แข่งคอยติกฝาโลงเราในทุกๆนัด ถามว่าแผลนี้เค้าพึ่งเห็นหรอ ป่าวเลยครับแผลนี้มันชัดมานานแล้วเพียงแต่สามารถกลบจุดตรงนั้นได้ แต่สุดท้ายก็เอานักเตะที่คอยกลบจุดด้อยตรงนั้นทิ้งไปทำหน้าที่อื่น
.....สุดท้ายแล้วผมเองก็ยังเชื่อมั่นนะ เหตุผลง่ายๆคือ ไม่ใช่ว่าแกไม่เคยปรับ แกเคยปรับมาแล้วไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง แต่ตอนนี้เหมือนทุกอย่างมันบังตาไปหมด ผมแค่อยากให้แกกลับไปสู่จุดที่เรียก่ว่า Back To Basic อีกครั้งก็เท่านั้นเอง
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1974843
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1975154
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1972471
ปล. ผมเห็นด้วยกับเวนเกอร์นะสำหรับใครก็ตามที่คิดว่าการเอากลางไปเล่นหลังมีปัญหายังไง
เวนเกอร์ -> "หนึ่งในเหตุผลหลักคือการที่พวกเขาเสียฟาน ไดจ์ค และสูญเสียจุดแข็งของพวกเขาในการแย่งบอลในพื้นที่สูงในแผงมิดฟิลด์จากเฮนเดอร์สันกับมิลเนอร์ ด้วยการถอยเฮนเดอร์สันไปยืนหลัง"