กลายเป็นข่าวใหญ่สั่นสะเทือนทั้งวงการ เมื่อสื่อดังของสเปน เอล มุนโด้ (El Mundo) ออกมาเปิดเผยสัญญาว่าจ้างฉบับล่าสุดของ ลิโอเนล เมสซี่ กับสโมสรบาร์เซโลน่า ซึ่งทำให้โลกรู้ว่า "แท้จริงแล้ว เมสซี่ มีรายได้เท่าไหร่กันแน่"
ที่ผ่านมาจากการรายงานสื่อต่างๆ ในความรับรู้ของเรา (รวมถึงกระผม) เข้าใจมาเสมอว่า เมสซี่ รับค่าเหนื่อยราว 50 ล้านยูโร และนั่นคือตัวเลขค่าจ้างที่สูงที่สุดในโลก ทว่า...

...........................

ก่อนจะไปถึงประเด็นต่างๆ ลำดับแรกต้องวิเคราะห์ก่อนว่า ข้อมูลที่ El Mundo นำมาเปิดนั้น จริงหรือไม่ ?!?
ตรงนี้อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละบุคคล บางสื่อแย้งว่านี่ไม่ใช่ข้อมูลจริง แต่จากการที่ผมเข้าไปเช็กข้อมูล ได้เห็นภาพถ่ายของตัวสัญญาหลายๆส่วนแล้ว (ขออนุญาตไม่เอามาโพสต์ลงนะครับ ถามเพื่อนที่เป็นทนายแล้ว ให้กันไว้ก่อน ลูกยังเล็ก)

ส่วนตัวผมค่อนข้างเชื่อว่ามันคือ 'ของจริง' ซึ่งเมื่อรวมกับแถลงการณ์ของ ฆาเบียร์ เตบาส และข้อความทาง WhatsApp ที่ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ส่งถึงรายการ Gol a Gol จากช่อง TV3 แล้วก็ยิ่งมั่นใจ
เตบาส ประธาน LFP ทวีตแสดงความคิดเห็นผ่านทางแอคเคาท์ส่วนตัวว่า

"หากไม่มีการแพร่ระบาด, รายได้ที่เกิดจากสิ่งที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สามารถซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้"
ส่วน บาร์โตเมว เขียนข้อความทาง WhatsApp ว่า "เมสซี่ สมควรได้รับในค่าจ้างดังกล่าวไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางกีฬาหรือด้านมาร์เก็ตติ้งก็ตาม,ด้วยตัวเลขนี้ บาร์เซโลน่า สามารถจัดการจ่ายได้อยู่แล้ว"

2 บุคคลที่อ้างอิง คนแรกคือประธานลา ลีกา ที่เก็บสำเนาสัญญาฉบับนี้ไว้ที่สำนักงานใหญ่ ลา ลีกา ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงมาดริด , คนที่ 2 คือผู้ร่างและลงนามในสัญญา โดยในคำพูดหรือข้อความทั้ง 2 ไม่มีใครปฏิเสธเลยว่าเป็นสัญญาปลอม

..........................................

สัญญาของฟาโรห์
จากรายละเอียดในสัญญา เอล มุนโด้ อ้างว่า เมสซี่ มีรายได้ก่อนหักภาษี ตลอดระยะเวลาของสัญญา 4 ปี รวม 555,237,619 ยูโร หรือราว 138.8 ล้านยูโรต่อปี (ก่อนหักภาษี) โดยสัญญาทำขึ้นเมื่อฤดูกาล 2017/2018 และจะหมดลงในวันที่ 30 มิถุนายน 2021 มีค่าฉีกสัญญามูลค่า 700 ล้านยูโร
สัญญามีทั้งสิ้น 30 หน้าแบ่งออกเป็น สัญญาการทำงาน (เป็นที่มารายได้ 85%) และสัญญาลิขสิทธิภาพลักษณ์ (ตามกฏหมายสเปน 15% ของรายได้ส่วนบุคคลสามารถเกลี่ยมาอยู่ในส่วนนี้ได้โดยเสียภาษีในอัตราที่ต่ำกว่า) ซึ่งมีลายเซ็นของ เมสซี่ และอีกฝ่ายคือตัวแทนสโมสรบาร์เซโลน่า ซึ่งระบุในสัญญาว่า โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสร,ยอร์ดี้ มาสเตร รองประธานด้านฟุตบอล และ ออสการ์ กราอู ซีอีโอสโมสร

...........................

ค่าเซ็นสัญญา (PRIMA DE RENOVACIÓN)
ในสัญญาระบุว่า เมสซี่ จะได้รับค่าตอบแทนเป็นจำนวนเงิน 97,941,250 ยูโร ทันทีที่เซ็นสัญญาฉบับนี้ ซึ่งแบ่งถูกจ่ายเป็น 2 งวด
งวดแรกมูลค่า 60,089,560 ยูโร ได้รับในเดือนถัดมาหลังจากการเซ็นสัญญาเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2017 ส่วนงวดที่ 2 จำนวน 37,851,690 ยูโรได้รับเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2018 หรือ 1 ปีหลังการเซ็นสัญญา

...........................

รายได้ขั้นต่ำ
เอล มุนโด้ ระบุว่าเมื่อรวมเงินเดือน,โบนัสชนะในแต่ละเกม,โบนัสอื่นๆ,ค่าลิขสิทธิภาพลักษณ์,จำนวนแชมป์ที่คว้ามาได้,จำนวนนัดที่ลงสนาม ต่อให้ปีนั้นเป็นปีที่ย่ำแย่ที่สุด เมสซี่ ก็ยังจะการันตีรายรับไม่ต่ำกว่า 61,328,520 ยูโร (หักภาษีแล้ว)
ส่วนโบนัสต่างๆที่ระบุไว้ในสัญญา หากทำได้ตามเป้า แต่ละฤดูกาล เมสซี่ มีโอกาสรับสูงสุดที่ 15.6 ล้านยูโร (ก่อนหักภาษี)

เงื่อนไขโบนัสต่างๆนั้น ยกตัวอย่างเช่น
ลงเล่น 60% จากจำนวนนัดทั้งหมดทั้งฤดูกาล เมสซี่ จะได้รับโบนัสจำนวน 1,656,034 ยูโร และจะได้รับในจำนวนเดียวกันนี้อีก หากพาทีมคว้าโควต้าไปเล่นรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเป็นรายการที่ บาร์เซโลน่า ไม่เคยพลาดเลย
บาร์ซ่า จะจ่ายอีก 946,305 ยูโรหากผ่านรอบแบ่งกลุ่มสำเร็จ แต่ถ้าทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายโบนัสจะเพิ่ม เป็น 1,419,458 ยูโรทันที

ในกรณีที่ผ่านเข้ารอบรองฯชนะเลิศ เมสซี่ จะได้รับเพิ่มเพียงเล็กน้อย จาก 1,419,458 ยูโร ในรอบควอเตอร์ไฟนั่ล เป็น 1,419,461 ยูโร (เพิ่มแค่ 3 ยูโร) แต่ถ้าเข้ารอบชิงชนะเลิศ และคว้าแชมป์มาครองได้ เมสซี่ จะได้รับโบนัสทั้งสิ้น 3,548,644 ยูโร
กับรายการในประเทศอย่าง ลา ลีกา นั้น เมสซี่ จะได้รับ 2,365,766 ยูโร หากพาทีมคว้าแชมป์ (เมสซี่ ได้ไป 2 ครั้งจาก 3 ปีหลัง) ส่วนในรายการโกปา เดล เรย์ หากได้แชมป์ บาร์ซ่า จะจ่ายให้อีก 591,442 ยูโร (เมสซี่ ได้มา 1 สมัยนับแต่เซ็นสัญญา)

และในท้ายฤดูกาล หากได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมจากทางฟีฟ่า เมสซี่ จะได้รับเงินโบนัสอีก 591,442 ยูโร (จำนวนเท่ากับการคว้าแชมป์โกปา เดล เรย์)
นอกจากนี้แล้ว ในสัญญาฉบับนี้ยังมีค่าโบนัสแห่งความภักดี (fidelidad) มูลค่า 66,240,462 ยูโร หากว่า เมสซี่ อยู่กับ บาร์เซโลน่า จนถึงวันที่ 1 กกุมภาพันธ์ 2020 เป็นอย่างน้อย ซึ่งเลยมาแล้ว
ที่ผ่านมา เมสซี่ รับโบนัสแห่งความภักดีไปแล้วส่วนนึง และจะรับอีกราว 39 ล้านยูโรในเดือนกรกฏาคม ไม่ว่าจบฤดูกาลนี้ เจ้าตัวจะตัดสินใจย้ายทีมหรือไม่ก็ตาม

...........................

สัญญาลิขสิทธิภาพลักษณ์
เอล มุนโด้ ระบุว่าในสัญญาส่วนนี้ เมสซี่ จะได้รับทันที 17,283,750 ยูโร เมื่อลงนามในเซ็นสัญญาโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย

เงินจำนวนนี้ถูกแบ่งจ่ายออกเป็น 2 งวด งวดแรก 10,604,040 ยูโร จ่ายแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2017 และงวดที่ 2 จ่ายอีก 6,679,710 ยูโรในอีก 1 ปีให้หลัง

เมื่อลองมาบวกกับค่าเซ็นสัญญา 97,941,250 ยูโร เท่ากับว่า แค่ลงลายเซ็นในสัญญาจำนวน 30 แผ่น 'คิงเลโอ' รับในวันเดียวถึง 115,225,000 ล้านยูโร ซึ่งเมื่อเอารายได้ 2 ส่วนนี้มารวมกับเงินเดือน แล้วหารออกมา เท่ากับว่า เมสซี่ จะมีรายได้ต่อปีที่ 72,151,200 ยูโร (หลังหักภาษี)

จากข่าวที่ปรากฏว่าสัญญา 4 ปี เมสซี่ จะรับสูงสุดที่ 555,237,619 ยูโรนั้น เมื่อเดินทางมาถึงช่วงปลายของสัญญาฉบับนี้ สามารถที่จะระบุได้ว่า เมสซี่ รับไปแล้ว 383,655,000 ยูโร และจะขยับเพิ่มเป็น 511,290,052 ยูโร (ยังไม่หักภาษี) หรือ เกือบๆ 92% จากจำนวนเงินทั้งหมดที่ระบุไว้หลังครบสัญญา เขาอาจได้ไม่ครบเต็มจำนวน หากผลงานของ บาร์เซโลน่า ปีนี้ไปไม่ถึงดวงดาว แต่นั่นก็จะขาดเหลืออีกไม่เท่าไหร่แล้ว

...........................

ข้อบังคับ(บางส่วน)ในสัญญา
ทั้งนี้ในสัญญานอกเหนือจากเรื่องของตัวเลข-รายได้แล้ว ยังระบุข้อตกลงอื่นๆไว้มากมาย ตัวอย่างเช่น
1. หากเมสซี่ ย้ายก่อนหมดสัญญา และได้แจ้งความต้องการตามกรอบเวลาที่กำหนด สโมสรบาร์เซโลน่า จะไม่สามารถคัดค้านได้
2.หากอยู่กับสโมสรจนกระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2020 ไม่ว่า เมสซี่ จะตัดสินใจย้ายทีมหรืออยู่ต่อ จะไม่ส่งผลกระทบต่อ ‘โบนัสจงรักภักดี’ (bonus de fidelidad) แต่อย่างใด
3.หาก เมสซี่ ทำผิดกฏองค์กรนานาชาติ หรือทีมชาติอาร์เจนติน่า และถูก ฟีฟ่า สั่งแบนห้ามลงแข่งขันในเกมอย่างเป็นทางการ ที่แม้ว่าจะรวมถึงห้ามลงเล่นกับ บาร์เซโลน่า ก็ “จะไม่มีการระงับสัญญาใด ๆ ทั้งสิ้น”
4.หาก เมสซี่ เซ็นสัญญาด้านภาพลักษณ์กับสปอนเซอร์คู่แข่งของสปอนเซอร์สโมสร สโมสรจะต้องเคารพการสัญญาของ เมสซี่
5.หากแคว้นกาตาลุนญ่า ประกาศแยกตัวเป็นอิสระ เมสซี่ สามารถละทิ้งสัญญาได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนใดๆและสโมสรไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง
ตามกฏหมาย

...........................

หลังจาก เอล มุนโด้ เผยแพร่ข่าวนี้ออกไป สโมสรบาร์เซโลน่าได้แถลงการณ์ทันที โดยปฏิเสธความรับผิดชอบ และไม่มีส่วนรู้เห็น
ขณะที่ เมสซี่ ไม่พอใจอย่างมาก ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีใครอยากให้คนทั้งโลกมารู้เรื่องรายได้ของเราอยู่แล้ว ยิ่งสัญญานี้ถือเป็นความลับสุดยอด โดยที่ปกติวิสัยการทำสัญญาจะต้องมีการเซ็นรับรองว่า "ห้ามเผยแพร่" สู่ สาธารณะ

จากข่าวล่าสุด เมสซี่ เตรียมตั้งทนายฟ้องร้อง โดยโจทย์แรกของเขาคือ เอล มุนโด้ นั่นเอง
นอกจากฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาทว่าด้วยการโฆษณาซึ่งสื่อดังระบุในพาดหัวข่าวว่า El contrato faraónico de Leo Messi que arruina al Barcelona หรือ "สัญญามหาศาล ของ เมสซี่ ที่ทำลาย บาร์เซโลน่า" (คำว่า faraónico แปลตรงตัวว่า ฟาโร์ หรือกษัตริย์อียิปต์โบราณ เป็นการเปรียบเปรยถึงความยิ่งใหญ่ อลังการ หรือจำนวนที่มากมายมหาศาล) แล้ว เมสซี่ ยังให้ทนายฟ้องร้องในข้อหาที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของเขาสู่สาธารณะอีกด้วย
ในส่วนของ 'มือมืด' ที่ส่งต่อสัญญาฉบับดังกล่าวให้ เอล มุนโด้ นั้น เมสซี่ ก็ได้ให้ทีมทนายทำการลงมือสืบแล้ว และจะทำการฟ้องร้องทันทีที่รู้ตัวคนกระทำผิด

...........................

ใครบ้างอยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัย ?
ข่าวจาก สปอร์ต ระบุว่ามีผู้ต้องสงสัยในข่ายนี้ปเพียง 4-5 คน เพราะนี่คือเรื่องลับสุดยอด ดังนั้นจึงมีคนไม่มากที่มีส่วนรู้เห็นสัญญาฉบับนี้
ที่อยู่ในข่ายมี โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว,ออสการ์ กราอู,ยอร์ดี้ มาสเตร ทั้ง 3 คนนี้อยู่ในวันลงนามและร่วมเซ็นสัญญาในฉบับนั้นด้วย
ต่อมาคือ ฆาเบียร์ เตบาส ประธาน LFP ซึ่งมีสำเนาสัญญาฉบับนี้เก็บไว้ที่สำนักงาน ซึ่งเป็นไปตามกฏของ ลา ลีกา อีกรายคือ การ์เลส ตุสเก็ตส์ รักษาการประธานสโมสรบาร์เซโลน่า นี่คือผู้ต้องสงสัยหลักๆ
และที่ตัดออกไปไม่ได้คือบุคคลทางฝั่งของ เมสซี่ ก็ถือว่าอยู่ในข่ายต้องสงสัยเช่นกัน
ทาง บาร์โตเมว ได้ออกมาปฏิเสธเป็นที่เรียบร้อยแล้วผ่านข้อความทาง WhatsApp ที่ส่งถึงรายการ Gol a Gol จากช่อง TV3 ว่าเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดที่เขาอยู่เบื้องหลังการปล่อยสัญญาฉบับนี้หลุดออกมา , นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพราะมันจะนำพาคุณไปจบที่ศาลอย่างแน่นอน

ส่วนคนอื่นๆ ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่คาดว่าทีมทนายของ เมสซี่ คงจะสืบทราบได้ในที่สุดว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง

ด้านปฏิกิริยาของแฟนบอล ผู้บริหารสโมสร และสื่ออื่นๆ โดยส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุน เมสซี่ ด้วยแนวคิดเดียวกันว่าเขาสมควรแล้วที่จะได้รับค่าตอนแทนจำนวนนี้ เมื่อดูจากสิ่งที่เขาทำให้กับ บาร์เซโลน่า
โจน ลาปอร์ต้า พูดว่า เมสซี่ คือผู้สร้างรายได้และผลประโยชน์ทั้งหมดให้กับ บาร์เซโลน่า

ด้าน นสพ.โอเล่ สื่อดังอาร์เจนติน่า ยกสถิติของ เมสซี่ ขึ้นมาตอบโต้ เอล มุนโด้ บนหน้าหนึ่งเช้าวันนี้ "650 ประตู, 250 แอสซิสต์,755 เกม" "นายต้องการรู้ตัวเลขของ เมสซี่ นักเหรอ ? นี่ไงตัวเลขของเขา"
ส่วน ยุยส์ มาสกาโร บก.นสพ.สปอร์ต เขียนลงคอลัมน์ของตัวเองเช้าวันนี้ด้วยว่า "เมสซี่ นั้นคุ้มค่าในทุกยูโรที่จ่ายไป และมากกว่านั้น"

..............................

ครับ สำหรับประเด็นเรื่องรายได้ แม้ตัวเลขจะสูงจนน่าตกใจ แต่จริงๆแล้ว ไม่ใช่ความผิดของ เมสซี่ แต่อย่างใดที่ ได้รับค่าจ้างสูงกว่าคนอื่นๆ ตราบใดที่เป็นความยินยอมพร้อมใจของสโมสรบาร์เซโลน่า และตราบใดที่กระทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง

หากแต่ข้อมูลนี้ รั่วไหลออกมาในห้วงเวลาที่สโมสรบาร์เซโลน่ากำลังเผชิญปัญหาทางด้านการเงินอย่างหนัก จึงทำให้มีการตีความเหมาว่า เมสซี่ เป็นเหตุทำให้สโมสรมีปัญหา ทั้งๆที่แท้จริงนั้นเป็นคนละส่วน
ส่วนใครคือผู้ร้ายตัวจริง เวลานี้ไม่อาจรู้ได้ แต่เจตนาของเขาแสดงออกชัดเจนว่า "ไม่ต้องการเห็น เมสซี่ อยู่ที่ บาร์เซโลน่า อีกต่อไป"

ทั้งโลกต่างรู้ดีว่าจบฤดูกาลนี้ เมสซี่ ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต ว่า "เขาควรอยู่หรือไป ?"
แล้วมาเกิดเรื่องเช่นนี้ ในเวลาที่ทั้งเปราะบางและเต็มไปด้วยความลังเล มันอาจทำให้ เมสซี่ ตระหนักได้ว่าเขาควรตัดสินใจแบบไหน เมื่อประจักษ์แล้วว่าบ้านที่เคยอบอุ่น กลับมีศัตรูแอบแฝง ศัตรูที่จ้องทำลายเขาในทุกวิถีทาง


ที่มา : #เจมส์ลาลีกา #เฟียสต้า ปาเอย่า โรฆา มาทาดอร์

สำหรับผม ... ทุกๆอย่างที่เมสซี่ทำให้บาซ่า มันคุ้มทุกบาททุกสตางค์ที่บาซ่าสมควรจ่ายให้เค้า

ยอมรับตรงๆ ก่อนเข้ากระทู้ อ่านว่า คิงโอเล่ เลยกดเข้ามาดู

เขิลจัง ม้วนตุ๋ยๆ ออกจากกระทู้ไปก่อน

ตอนเมสเด็กๆ ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับฮอร์โมน
สโมสรที่อาร์เจนไม่มีใครเอาเลย
และก็เป็นบาร์ซ่านี่แหล่ะช่วย จ่ายค่ารักษาทั้งหมดเหมือนกันนะครับ

เอาจริงๆ ต่างตอบแทนซึ่งกันและกันจนคุ้มทั้งคู่แล้วล่ะ

ถ้าไม่มีโรคโควิด 19 มา มันก็เป็นสัญญาที่ทำขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายโดยสมบูรณ์เลยละ

ค่าจ้างของเมสซี่ตอนนี้ต่อให้เป็นผีก็จ่ายไม่ไหว​ถ้าไหวก็เตรียมหนี้งอกมโหรานเลย​ ส่วนแมนซิถ้าจะเอาต้องโละสตาร์​หลายตัว(กรณี​ไม่อยากให้ผิดกฏFPP)​

ไม่มีใครผิดหรือถูก เพราะเปนสัญญาที่ยินยอมพร้อมใจทั้ง2ฝ่าย

แต่ก้อนั่นละ บางคนหรือหลายคน ก้อคงมีความคิดขึ้นมาว่าในสถานการณ์การเงินบาซ่าย่ำเเย่ขนาดนี้ ทำไมคน

ที่มีภาพลักษณ์ว่ารักบาซ่ามากมาย ถึงไม่ยอมเสียสละเพื่อทีมบ้าง ทั้งที่รับมาเยอะเเล้ว

สรุปง่ายๆ ความคิดคนเรามันห้ามไม่ได้ ทำใจ

ถ้าสถานการณ์ปรกติ ค่าเหนื่อยเมสผมว่าสมเหตุสมผลนะ นักเตะระดับเอเลี่ยนแบบนี้จะไปหาซื้อมาจากที่ไหนได้ทั้งยิงทั้งจ่ายมาครบหมด มาหนักเพราะโควิดกับไปซื้อพวก100m+มาเเล้วพลาดเนี่ยเเหละ

วินวิน บาร์ซ่าวินกว่าด้วย