หลังสิ้นเสียงนกหวีดที่ เอมิเรสต์ สเตเดียมผมว่าแฟนบอลทั้ง อาร์เซนอล และ แมนฯยูไนเต็ด น่าจะ mixed feeling หรืออารมณ์แอบตีกัน

คือโล่งๆก็โล่งเสียดายก็เสียดายในเกมที่ทั้งคู่มีโอกาสเยอะมากถึงมากที่สุดที่จะทำให้เกมนี้จบลงด้วยทั้งประตูและผลแพ้ชนะในบั้นปลาย

“ปีศาจแดง” น่าจะได้เล่นเกมของตัวเองได้ง่ายกว่านี้ด้วยซ้ำหากเปิดซิงเจ้าถิ่นได้ก่อนเพราะในครึ่งแรกมีโอกาสจังๆมากกว่าชัดเจน

ถ้าเปรียบเป็นมวยในครึ่งแรก “ปืนใหญ่” การ์ดตกและสุ่มเสี่ยงต่อการเสียประตูมาก

สาเหตุเพราะเจ้าถิ่นมักทำบอลเสียใน area อันตรายคือตรงกลางและระยะ 30 หลา

ซึ่งผมเข้าใจว่าสไตล์การเล่นจะตั้งเกมจากแดนหลังขึ้นมาแต่ก็ต้องชมทั้ง ยูไนเต็ด ที่เพรสไวและหนัก

ตรงกันข้าม “ปีศาจแดง” ถ้าจะเสียบอลก็จะอยู่ในแดนบนนู่นเลยซึ่งปลอดภักว่ามากคือจะพาบอลมาถึงหน้าเขตโทษและได้ใช้โอกาสนั้นไปในตัว

ผมจึงบอกว่า อาร์เซนอล แอบโชคดีที่ไม่ตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนจนกระทั่งค่อยๆฟื้นและได้ตั้งเกมจากแดนหลังขึ้นมาอย่างมีประสิทธิภาพ

โอกาสจะๆที่หลุดลอยของ ยูไนเต็ด มาในช่วงเวลาสำคัญก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาทีแต่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ขาดความเป็นเพชฆาตเลือกยึกยักจังหวะที่ล่อเป้าเหน่งๆกับ แบรนด์ เลโน่ จนสุดท้ายไม่ได้แม้แต่ง้างเกือกยิง

รวมถึงอีก 2 จังหวะของ เอดิสัน คาวานี่ ในครึ่งหลังที่ไม่น่าเชื่อว่าบอลจะไม่เข้าจากการแปเหน่งๆ 5 หลาที่ควรหายมากกว่าเฉี่ยวเสาและอีกจังหวะไปแย่ง อันโธนี่ มาร์กซิยาล ซึ่งผมคิดว่าลูกนี้เป็นประตูชัยของเกมนี้ได้เลย

ผมยกมาแค่ 3 จังหวะนี้ยังไงก็เพียงพอที่จะทำให้ “ปีศาจแดง” กลับออกจาก เอมิเรสต์ ด้วย 3 แต้ม มันจะแจ้งเกินกว่าจะพลาดได้จริงๆ

ในขณะเดียวกันฝั่ง อาร์เซนอล เริ่มทำให้ ยูไนเต็ด หายไปจากเกมและเป็นฝ่ายควบคุมเกมหลังกำลังเข้าสู่ช่วง 1 ชั่วโมงเรื่อยไปอยู่หลายนาทีที่เป็นเวลาทอง

ฟรีคิกชนคานของ อเลซองด์ ลากาแซ็ตต์ และ เปเป้ ปั่นเบียดเสา

อันนี้ยังไม่ได้นับช่วงต้นครึ่งหลัง (เล่นมา 4 นาที) หลัง AWB โชว์สกิลการบล็อกช่วยชีวิตทีมเยือนหลัง วิลเลี่ยน ได้ยิงเหน่งๆ

ทั้งหมดทั้งมวลเป็นผลลัพท์จากความขยันเพรสแดนบนจน “ปีศาจแดง” ตั้งเกมไม่ถนัดจนต้องพิงเชือกและโอกาสของ “ปืนใหญ่” เลยไหลมาเรื่อยๆ

อีกประเด็นที่ทำให้ลูกทีม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ช็อตคือไม่สามารถเล่นเกมสวนกลับวางยาวได้เลยแทบจะทั้งครึ่งหลัง

อันนี้ต้องชม “ปืนใหญ่” ที่เฝ้าระวังดูจังหวะบอลถ้าเพื่อนแดนบนเพรสแล้วโดนแกะก็จะดันไลน์ลงไปต่ำอีกนิดเพื่อให้การสวนกลับของ ยูไนเต็ด ด้อยอันตรายลง

เมื่อโดนปิดทางแบบนี้เราจึงได้เห็นการหันมาพึ่งพาการเปิดบอลจากริมเส้นหลายต่อหลายครั้งซึ่งส่วนใหญ่จะไปเข้าหัวผู้เล่น “ปืนใหญ่” ที่เกมในบ้านไม่เสียประตูมา 3 นัด(รวมเกมนี้ไปด้วยก็ 4)โดยครั้งสุดท้ายคือเสียให้ เชลซี เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม

ผลเสมอครั้งนี้ผมมองว่าฝั่ง ยูไนเต็ด รู้สึกแง่ลบมากกว่าหนึ่งคือกำลังต้องการ 3 แต้มเพื่อเบียดกับ แมนฯซิตี้ ต่อ

และสองการได้แต้มเดียวจาก 2 นัดหลังแพ้พลิกล็อกให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด กลายเป็นงานหยาบเพราะ แมนฯซิตี้ ทิ้งไปแล้ว 3 แต้มพร้อมอีกเกมในมือ

ลากยาวไปจนถึงสถิติเจอบิ๊ก 6 ของ “น้าลูกอม” ซีซั่นนี้ไม่ค่อยสู้ดีเพราะไม่ชนะใครเลยเป็นการแพ้ 2 เสมออีก 4 ซึ่งน่าแปลกที่ทั้ง 4 เกมที่เสมอโนสกอร์ทั้งหมด

ตรงกันข้ามกับ “ปืนใหญ่” ที่แบ่งแต้มในวันที่ขาดทั้ง ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง, คีแรน เทียร์นี่ย์ และ บูกาโย่ ซาก้า ที่เป็น key men ช่วยให้ทีมเป็นรูปเป็นร่างจนถึงทุกวันนี้

และที่เป็น posotive ของฝั่งเจ้าถิ่นเพิ่มเติมจากในแง่ของผู้เล่นคือทรงบอลและทีมเวิร์คทั้งรุกและรับแกร่งกว่าช่วงที่หล่นไปอยู่ครึ่งล่างของตารางราวกับเป็นอีกทีมนึงไปเลย

“ปืนใหญ่” จึงสามารถ claim ได้ว่าเริ่มต้นซีซั่นอย่างกากจนเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ การเสมอกับ “อดีตจ่าฝูง” ที่ยังไม่แพ้ใครนอกบ้านจึงถือเป็นการไต่ระดับที่ดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

รวมถึงการตามอันดับ 4 อยู่แค่ 6 แต้ม ทั้ง มิเกล อาร์เตต้า และ เด็กๆ จึงน่าจะรู้สึก “โอเค” กับผลเสมอในวันนี้มากกว่า

การ “แป๊ก” ใน 2 นัดหลังสุดของ ยูไนเต็ด กำลังช่วยให้ภาระกิจทิ้งห่างของ แมนฯซิตี้ ดูง่ายขึ้นมาก

ทีมของ เป๊ป กวาดิโอล่า ได้ค้นพบวิธีแก้ไขปัญหาเกมรุกฝืดด้วยการไม่เสียประตูให้คู่แข่งง่ายๆและขอปิดเกมด้วยประตูแค่ 1-2 ลูกเป็นอันเพียงพอ

สถิติโดนคู่แข่งยิงไปแค่ 13 ประตูจาก 20 นัดบ่งบอกชัดเจนว่าปีนี้ “เรือใบ” ขอน้อยๆแต่ชัวร์ซึ่งการเล่นแบบนี้ผมว่าน่ารำคาญมากกว่ายุคยิงถล่มทลายแต่ก็พร้อมเสียง่ายๆ

ถ้าขืน “รองจ่าฝูง” ยังสลับหน้าเปลี่ยนตัวทุกๆสัปดาห์แบบนี้ผมเกรงว่า ซิตี้ อาจม้วนเดียวจบได้ง่ายๆเลยด้วยซ้ำ...

ที่แฟนแมนยูบอกเสมอเหมือนแพ้ อาจจะเป็นเพราะนัดที่แล้วเก็บแต้มทีมบ๊วยไม่ได้

บทความดีแล้วครับอ่านเพลิน

แต่ขอแนะนำเรื่องการเว้นวรรคครับ คือคุณเบนจะเว้นวรรคเฉพาะชื่อคน หรือชื่อทีม แต่จริง ๆ หลายประโยคควรเว้นวรรคให้ดีด้วย เช่น




ควรเป็น

คือ โล่งก็โล่ง เสียดายก็เสียดาย ในเกมที่ทั้งคู่มีโอกาสเยอะมากถึงมากที่สุด ที่จะทำให้เกมนี้จบลงด้วยทั้งประตู และ ผลแพ้ชนะในบั้นปลาย

“ปีศาจแดง” น่าจะได้เล่นเกมของตัวเองได้ง่ายกว่านี้ด้วยซ้ำ หากเปิดซิงเจ้าถิ่นได้ก่อน เพราะในครึ่งแรกมีโอกาสจัง ๆ มากกว่าชัดเจน


ผมว่าถ้าเว้นวรรคแบบนี้ มันจะช่วยให้อ่านได้ง่ายขึ้นครับ

รออ่านอยู่เลยครับพี่เบน เขียนได้ดีครับ

อย่างที่บอก สุดท้ายแล้วจะมาเสียดายหลายๆแต้มที่หล่นกับทีมใหญ่

ตอนนี้ไม่เห็นผลหรอกครับ ปลายฤดูกาลโน้นแหละ ถึงจะมาเสียดายกัน