ไฮไลท์สีน้ำตาลคือ 2 เกมที่โดนเปลี่ยนมานาทีที่ 90+ นะครับ

1. 24-09-2020 EFL Cup WIN 2 - 7 Lincoln City (A) 90 mins played
2. 01-10-2020 EFL Cup LOSE 0 - 0* Arsenal (H) 90 mins played

3. 21-10-2020 UCL WIN 0 - 1 Ajax (A) 0 mins played subs on 90th
4. 27-10-2020 UCL WIN 2 - 0 FC Midtjylland (A) 60 mins played subs on 30th
5. 03-11-2020 UCL WIN 0 - 5 Atalanta (A) 90 mins played
6. 25-11-2020 UCL LOSE 0 - 2 Atalanta (H) 90 mins played
7. 01-12-2020 UCL WIN 1 - 0 Ajax (H) 0 mins played subs on 90th
8. 09-12-2020 UCL DRAW 1 - 1 FC Midtjylland (A) 90 mins played WhoScored's Man of The Match

9. 16-12-2020 EPL WIN 2 - 1 Tottenham Hotspur (A) 90 mins played
10. 27-12-2020 EPL DRAW 1 - 1 West Bromwich Albion (H) 30 mins played subs on 60th

11. 08-01-2021 FA Cup WIN 1 - 4 Aston Villa (A) 90 mins played
12. 24-01-2021 FA Cup LOSE 3 - 2 Manchester United (A) 90 mins played



จากสถิติ จะเห็นว่า ถ้าตัด 2 เกมที่โดนเปลี่ยนลงมาช่วงทดเจ็บออก

Rhys Williams ลงสนามให้ลิเวอร์พูล 10 นัด
ชนะ 5 เสมอ 3* แพ้ 2 (เสมอรวมนัดที่แพ้จุดโทษอาร์เซน่อล)

3 Clean Sheet และ 1 Man of The Match



คือเกมล่าสุดผมก็ด่านะครับ แต่พอมากางสถิติดูแล้ว เห้ย มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น

หลังจากเกมถล่มพาเลซ 0 - 7 แล้วทีมเข้าสู่ช่วงธาตุไฟแตกตั้งแต่นัดเวสบรอม จนถึงนัดล่าสุด รวม 7 เกมทุกรายการ

ผลงานทีม ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 3 ซึ่ง 7 เกมนรกนี้น้องมันมีส่วนร่วมแค่ 3 เกม คือ เสมอเวสบรอม ชนะวิลล่า แล้วก็แพ้แมนยูล่าสุด

คือมันเป็นช่วงฟอร์มตกของทั้งทีมพอดี แต่น้องมันดันมาพลาดน่าเกลียดในนัดสำคัญพอดี เลยโดนยับ
ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี่ก็เคยทำดีไว้

โอเคแหละ ใช้ซีเนียร์ดีกว่าแน่ ๆ
หรืออย่างนัดชนะวิลล่ากับแพ้แมนยูนี่ก็ personal error จริง ๆ ก็สมควรโดนวิพากษ์วิจารณ์
แต่เห็นหลายเม้นท์แบบมองไม่เห็นอนาคตเลย เกี่ยวกับเรื่องความเร็ว และแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับการเจอซอน เคน สัปดาห์นี้ ซึ่งแฟนบอลทีมอื่นอาจไม่ทราบว่าน้องเคยดวลมาแล้ว ขออนุญาตโควทตัวเองที่ตอบกระทู้ให้กำลังใจ Rhys Williams นะครับ



ผมไม่รู้ว่าคล็อปป์เห็นอะไรในตัวไอ้หนูนี่จึงเลือกก่อน Nat Phillips
แต่ถ้าส่งลงอีกก็ให้กำลังใจ พลาดอีกก็ด่าครับ เรื่องธรรมดาของฟุตบอล
แค่อยากให้เห็นภาพว่า ไอนี่มันเด็ก 19 เอง แล้วเกมดี ๆ ก็เคยมีเด้อ ดูกันไปยาว ๆ
กับความกดดันตอนนี้ก็พิสูจน์คนได้ จะกลับมาแบบเทรนต์, ลูคัส หรือจะไปแล้วไปลับแบบคาริอุส

พอมีกองหน้าเปิดแผลน้องทีนี้ทุกทีมรู้ว่าน้องช้า

เจาะทางน้องอย่างเดียวเลย เกมที่ลงแรก ๆ ยังไม่โดนเจาะเยอะเท่าไหร่


และอีกข้อคือมีเฮนโดเล่นกลาง คอยลงมาช่วย

แมนยูเล่นอย่างดี
ปล.ผมไม่ได้ว่าน้องนะ ผมหมายถึงว่าทีมแมนยูเล่นดีจริงๆ

ใช่เลยครับ ในไฮไลท์กับสเปอร์นี่เห็นชัด ๆ เลยว่าตรงที่เขาควรอยู่เป็นเฮนโด้มาแทนมากกว่า 1 ครั้ง

สปีดอาจแก้กันไม่ได้ แต่ตรงนี้ คล็อปป์ต้องแก้ให้ได้

ปล. ขาดกัปตันเหมือนขาดใจ ขนาดฟานไดจ์เหมือนขาดใจ ขาดทั้ง 2 ตายแปป

ผมว่าช้าไปหน่อย แต่มีแววแหละ

คงต้องไปศึกษาเพิ่มเติมว่า ถ้าช้าต้องเล่นยังไง

ผมเห็นคนวิ่งช้าๆแต่โครตเหนียวเยอะแยะ

อันนี้ก็จริงครับ ยิ่งตอนเห็นโซลชาร์เปลี่ยนเฟรด+บรูโน่ลงมา ตัดภาพมาที่ตัวเองเปลี่ยนกี้ ผมรู้เลยว่าสู้ไม่ได้ คล็อปป์เปลี่ยนตัวปิดเกมโดยแท้

สปีด มันช้าเขารู้กันทั่วแล้ว

ปัญหาคือ คล็อป ไม่ได้ปรับแผนให้เหมาะสมเวลาใช้ดาวรุ่งรายนี้

คือลิเวอร์พูลเล่นหลังสูงยังไง นักเตะจะเด่นจะด้อยด้านไหนก็ต้องเล่นให้ได้

มาติป ก็ช้าแต่อาศัยการอ่านเกมที่เฉียบขาด การยืนต่ำแหน่งที่ดีทำให้ไม่เสียเปรียบมาก

แต่ รีช ยังห่างชั้นทั้งความเข้าใจเกมและประสบการ์ณ

เกมนี้ผมว่าน้องเค้าหน้าตาตื่นๆเกมอยู่นะ ผมว่าสำหรับน้องน่าจะเป็นเกมที่ใหญ่ที่สุดที่เคยลงเล่น
เพราะ 1.คือเจอแมนยูอริตลอดกาล 2.เตะถ้วยFA ถ้าเคยดูพวกสารคดีหรือรายการฟุตบอลพวกคนอังกฤษจะให้ความสำคัญถ้วยนี้มากๆ

มันเลยไม่เป็นใจหลายๆจังหวะ

เลือก แมท ก่อนเด้อ อย่างน้อยก็เคยเล่นที่เยอรมัน

ดาวรุ่งจริงๆจำเป็นที่จะต้องได้เล่นกับคนเก่งๆที่คอยประคองให้จังหวะตื่นตัว มองไปด้านขวาก็ดาวรุ่งเหมือนกัน มองไปซ้ายก็เซ็นเตอร์จำเป็น เข้าใจเด็กมันหน่อยกว่าจะเก่งไม่ใช่แปปๆ

แต่ก่อนหน้านี้ผมชอบนะรู้สึกแกนิ่งโอเคเลย เพียงแต่นัดนี้นัดใหญ่แล้วเจอกองหน้าเก่งๆ เก๋าๆ ก็พลาดเป็นธรรมดาแหละ กองหลังดาวรุ่งทีมใหญ่พอพลาดก็เจอทั้งสื่อทั้งแฟนบอล บางทีแฟนบอลก็ควรเข้าใจเด็กมันบ้าง

-จุดอ่อนของน้องคือความเร็ว ใครเค้าก็รู้กันหมดแล้ว
(วิธีแก้คือต้องลงเล่นบ่อยๆ เพิ่มประสบการณ์ แล้วจะรู้ว่าจังหวะใหนควรป้องกันยังไง)

-แต่ปัญหาทั้งมวล มันมาจากระบบเกมรุก ที่ใช้แบ็คเติมสูง"พร้อมกัน2ข้าง"

-ตอนมีฟานไดจ์ กับโกเมซ มีคนลองใช้วิธีเดียวกันนี้มาแล้ว แต่ไม่ได้ผล
-เพราะฟานไดจ์เก็บได้เรียบ ส่วนโกเมซ ก็มีสปีดมากพอจะวิ่งลงไปทัน

-ส่วนน้องเค้าไม่เร็ว พออาโนลเติมสูง คู่แข่งสวนเร็ว ก็แทบจะเดี่ยวๆกับกองหน้าตลอด

คำแนะนำคือ

1.เปลี่ยนระบบมาเล่นหลัง 3 หาคนเร็วๆมาประครองพื้นที่ด้านขวา 1คน เพื่อปิดช่องโหว่ที่อาโนลด์เติมสูง
จะเล่น 3-4-3 หรือ 3-5-2 ก็ว่ากันไป จนกว่าฟานไดจ์+โกเมซจะกลับมาฟิตเต็มที่

2.ลองศึกษาการเล่นของเวสเตอการ์ดดู คนนี้ก็ไม่เร็ว แต่แข็งใช้ได้

เอาตรงๆตอนนี้ เราใช้ตัวรุกมากไป ใช้เวลาเซ็ทบอลนานไป คู่แข่งแค่ตั้งรับแน่น เอาปีกซ้อนแบ็ค เราก็แทบจะเจาะไม่ได้แล้ว

ลองศึกษาแผนการใหม่ เพื่อความ"เหมาะสมกับผู้เล่นที่ยังมีอยู่ในทีม" จะดีกว่ามั้ย

คือทุกวันนี้กับปีที่แล้ว เล่นยังไงก็เล่นแบบนั้น แต่เราไม่มีฟานไดจ์กับโกเมซแล้วไง

ลองแบบนี้ดู เผื่อจะมีทางเลือกใหม่ๆให้เลือกเพิ่มมากขึ้น


------------มาเน่-----------------ซาล่า---------------

--------------------เธียโก้(ฟีโน่)---------------------

รบส.--------ดุม(เธียโก้)-----------เฮนเดอสัน-------เทรนท์

-----ฟาบิญโย่-------รีส(มาทิป)---------มาทิป(แนท)(ดุม)-------------

ในวงเล็บคือปรับเปลี่ยนตัวได้ถ้าคนใหนฟิต

ตั้งแต่ชนะพาเลซ ก็เห็นแล้วว่า คู่แข่งเค้าจับทางการเข้าทำได้หมดแล้ว

ถ้ายังไม่ปรับเปลี่ยนแผนบ้าง ก็ไม่รู้ว่า อะไรๆจะดีขึ้นมั้ย

ก็อย่างที่บอก ไปด่าๆน้องมัน บอกเอาแนทดีกว่า คือแนทอายุมากกว่า 4 ปี แต่จ่ายบอลห่วยแตกกว่า รีสนี่น่าคิดนะ

คือพูดหลังเกมก็ง่ายหมดแหละครับ เช่น แนทน่าจะดีกว่ารีส แต่ความเห็นผม เอาตัวจ่ายบอลแบบแนทไปเล่นกับแมนยู น่าจะโดนแรชฉกไปยิงง่ายกว่าอีก (จ่ายแบบไม่มีใครบีบยังเบี้ยวอะ)

คือผมไม่ได้บอกว่ารีสมันเก่งอะไร แต่มันก็ดีกว่าแนทอะ ลิเวอร์ใช้หลังถ่ายบอลไปกลาง ออกแบ็ค หรือเปิด ซึ่งที่ว่ามาทั้งหมด รีสดีกว่าแนทหมดอะ ขนาดแนทไปเล่นยืมตัวมายังทำได้ดีไม่เท่าเลย

ความเห็นส่วนตัวนะ ใครไม่เห็นด้วยไม่ว่ากัน

เด็กมันยังไม่พร้อมเห็นๆนั่นแหละ ยังต้องเข็นลง

เด็กมันไม่ได้ผิดที่ยังไม่พร้อมซะหน่อย

เด็กมันมีของอยู่ หน่วยก้านดี ให้โอกาสต่อไป สู้ๆ

บอลยุโรปผมมองว่าทีมฝั่งตรงข้ามกังวลแนวรุกเรามากกว่า กองหลังเลยไม่เจอบททดสอบแบบโหดหินเหมือนพรีเมียร์ อีกอย่างอังกฤษแบบนี้ล่ะ ใครที่ดูว่าเป็นบ่อโดนรุมแน่ๆ แล้วรีสเองไม่ใช่ว่าขึ้นชุดใหญ่มาได้เพราะฟอร์มแต่ขึ้นมาได้เพราะหลังตัวหลักเจ็บหมด คือมาแบบไม่ตั้งใจล่ะนะ ผลก็อย่างที่เห็น

แล้วคู่ขาคือฟาบิญโญ่ซึ่งก็ไม่ใช่หลังอาชีพ การมายืนคู่กันแบบจำใจ มันก็ไม่มีอะไรให้แนวรุกฝั่งตรงข้ามเค้ากลัวหรอก ยิ่งนานๆไป สถิติ รูปแบบการเล่นของทั้งคู่จะโดนชำแระมากกว่านี้อีก อาจเสียผู้เสียคนไปเลยก็ได้ถ้ายังเป็นแบบนี้