อยากสอบหลักการ และเหตุผล ครับ

มันมีทางอื่นที่ดีกว่านี้ไหมครับ

เพราะประกันสังคม ไม่มีเงินพอที่จะช่วยเยียวยา คนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดมั๊งครับ
เลยใช้วิธีการลดเงินประกันสังคเอา


คือก็ยังหักเงินอยู่ เเต่น้อยลงหน่อย

หรือประมาณว่า มีปัญญาช่วยได้เท่านี้นะ

มาตรการเยี่ยวยานั่นแหละ ลดการเก็บก็ทำให้มีรายจ่ายน้อยลง ทำให้เงินเหลือมากขึ้น
ลดการเก็บแต่ไม่ได้ไปลดสิทธิประโยชน์อะไร ยกเว้นเงินสะสมกรณีชราภาพ ที่อาจไม่ได้มีสะสมหรือสะสมน้อยลงในช่วงนี้

หรือจะใช้วิธีอื่นคืนเป็นเงินก็ได้ แบบเช็คช่วยชาติ หรือเงินเข้าระบบแบบเป๋าตังของรัฐตอนนี้ก็ได้

แต่ทุกวิธีการก็มีผลลัพธ์ในทำนองเดียวกัน รายได้เพิ่มขึ้น
ปีที่ผ่านมาโดนหักทั้งสิ้น 5850 ปกติจะโดนหักปีละ 9000 เหมือนกันรายได้เพิ่มมา 3150 บาท

ต้องแยกผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ออกเป็น 2 กลุ่ม
1. ได้รับผลกระทบ เพราะนายจ้างให้หยุดงาน เลิกจ้าง ลดเงินเดือน กลุ่มนี้ผมมองว่าประกันสังคมจำเป็นต้องช่วยเหลือ แม้ปัจจุบันจะมีอยู่แล้ว แต่สมควรให้ทั่วถึงและเป็นธรรมยิ่งกว่าเดิม

2.กลุ่มได้ผลผลกระทบเพราะ โอที น้อยลงหรือหายไป แต่เงินเดือนยังได้รับปกติ
ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่ด่าประกันสังคมอยู่ตอนนี้ เพราะนิสัยคนไทย เอารายได้ผูกติดกับรายรับสุทธิ ที่บวกโอทีไปแล้ว ไม่พิจารณาที่ฐานเงินเดือนของตนเองเป็นหลัก ไม่พิจารณาถึงความเสี่ยง ส่วนตัวมองว่าควรช่วยกลุ่มแรกก่อนกลุ่มนี้

ได้ประโยชน์ตอนนี้ คือได้เงินเพิ่ม แต่อนาคต เงินชราภาพ ก็จะได้น้อยลง ถูกต้องไหมครับ

ถูกต้องครับปกติเราโดนหัก 5% จะนำส่งเข้าชราภาพ 3% 450บาท*12 =5400 รวมของนายจ้างด้วยจะได้ปีละ 10800 ครับ

แต่ปีที่ผ่านมา ได้เรา+นายจ้าง ถ้าจำไม่ผิดคือ 7560 ครับ น้อยลงไป 3240 ครับ

ถ้าหักน้อยลงแล้วมันช่วยคนที่เดือดร้อนได้ ผมก็โอเค แม้มันจะทำให้บั้นปลายผมมีเงินเก็บน้อยลงก็ตาม

เรื่องชราภาพ คนที่ต้องกังวลคือคนที่จะได้รับเป็นบำเหน็จครับ(จ่ายประกันสังคมตั้งแต่เริ่มจนถึงวันเกษียณไม่ถึง180เดือน(15ปี))

ถ้าใครที่ตั้งแต่เริ่มทำงานจนถึงเกษียณจ่ายเกิน 15 ปี จะได้บำนาญ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากเงินสมทบชราภาพที่น้อยลง เพราะมันคำนวณจากฐานค่าจ้าง 60 เดือนสุดท้าย(ยกเว้นว่าจะถูกลดค่าจ้างจนต่ำกว่า 15,000ถึงจะกระทบ)