หลังจากที่ แจ็ก หม่า เจ้าของและผู้ก่อตั้ง Alibaba วิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานด้านการเงินของจีนไปอย่าง ‘เผ็ดร้อน’ เมื่อเดือนตุลาคม 2020 ที่ผ่านมา หม่าก็หายตัวไปจากหน้าสื่อยาวนาน ท่ามกลางข่าวลือว่าเขาถูกรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนเรียกไป ‘ปรับทัศนคติ’ และสอบสวนบริษัทต่างๆ ที่เขาบริหารอยู่ จนทำให้หม่าต้องเก็บตัวเงียบนานข้ามปี จนถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้จะได้กลับมาเมื่อไร
.
กรณีทำนองนี้ ไม่ได้มีเจ้าของ Alibaba คนเดียวที่หายตัว The Momentum ขอพาไปย้อนรอยประวัติ 5 นักธุรกิจพันล้านแห่งแดนมังกรที่กล้างัดกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยเฉพาะในยุคที่ สี จิ้นผิง เป็นประธานาธิบดี ที่ว่ากันว่านักธุรกิจใหญ่ไม่มีใครกล้า ‘หือ’กับอำนาจของประธานาธิบดีคนนี้ และชะตากรรมของบรรดามหาเศรษฐีที่กล้างัดข้อกับรัฐบาลจีนนั้น สุดท้ายลงเอยกันอย่างไร
.
1. เชี่ยว เจี้ยนหัว (Xiao Jianhua)
.
หนึ่งในมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดของจีนผู้ถือสัญชาติแคนาดา เชี่ยว เจี้ยนหัว เป็นทั้งนักการเงิน ผู้ให้คำปรึกษาทางด้านการเงินการลงทุน และเป็นเจ้าของ Tomorrow Group ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ลงทุนทั้งในสินทรัพย์ ประกันภัย ถ่านหิน และปูนซีเมนต์ โดยมีสินทรัพย์ทั้งหมด 4.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งยังเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนประชาธิปไตย ณ จตุรัสเทียนอันเหมิน ในปี 1989
.
ในปี 2017 ขณะที่เขากำลังเข้าพักที่โรงแรม Four Seasons ณ ประเทศฮ่องกง เขาถูกลักพาตัวโดยตำรวจจากประเทศจีนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ โดยที่กล้องวงจรปิดในโรงแรมไม่สามารถใช้งานได้พร้อมกันอย่างกะทันหัน โดยทางตำรวจจีนอ้างว่าเขามีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์โดยด่วน สถานะปัจจุบันของเขายังคงหายสาบสูญ
.
2. กัว เหวินกุ้ย (Guo Wengui)
.
อดีตหนึ่งในสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ และเศรษฐีพันล้านจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ได้พยายามที่จะเปิดโปงการคอร์รัปชันของสมาชิกระดับสูงในพรรคคอมมิวนิสต์ ร่วมกับ สตีฟ แบนนอน อดีตเจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาว ผ่าน กัว เหวินกุ้ย สื่อในเครือของเขาเอง
.
ผลที่ตามมาของอดีตสมาชิกพรรคผู้นี้คือการโดนกล่าวหาในคดีข่มขืนผู้ช่วยส่วนตัว พร้อมของแถมคดีอีกหลายกระทง ได้แก่ ติดสินบนเจ้าหน้าที่พนักงาน ฉ้อฉล ยักยอกเงิน และฟอกเงิน ส่งผลให้กัว เหวอนกุ้ยต้องอพยพลี้ภัยไปยังประเทศสหรัฐฯ ในปี 2014 โดยกัวนั้นปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยังคงออกตัววิจารณ์การคอร์รัปชันของรัฐบาล สี จิ้นผิง บนโซเชียลมีเดียมาโดยตลอดตั้งแต่ย้ายถิ่นฐาน
.
3. เริ่น จื้อเฉียง (Ren Zhiqiang)
.
เริ่น จื้อเฉียง เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์แห่งบริษัท หัวหยวน ได้ออกมาวิจารณ์ความล้มเหลวในการจัดการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของ สี จิ้นผิง ในเดือนมกราคม 2020 ณ ใจกลางเมืองอู่ฮั่น ที่ปล่อยให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยได้เปรียบเทียบว่าประธานาธิบดี สี จิ้นผิง นั้นเป็นเหมือนกับ ‘ตัวตลก’ ที่ยืนกรานว่ายังต้องการที่จะเป็นจักรพรรดิต่อไป
.
หลังจากนั้นในช่วงเดือนเมษายน 2020 เริ่นถูกหน่วยงานต่อต้านการคอร์รัปชันของจีนสอบสวนเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ใช้เงินของทางการไปกับการเล่นกอล์ฟ และใช้พื้นที่สำนักงานของทางการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ปัจจุบัน เริ่นต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 18 ปี โดยสื่อจีนออกมาเผยว่า เขายอมรับข้อกล่าวหาแต่โดยดี แต่ไม่มีการเปิดเผยบันทึกของศาลต่อสาธารณชน
.
4. แจ็ก หม่า (Jack Ma)
.
เหยื่อรายล่าสุด แจ็ก หม่า บุคคลที่รวยเป็นอันดับ 2 ของประเทศจีน จากการก่อตั้งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่าง Alibaba และ Alipay หรือ Ant Group ในปัจจุบัน ในเดือนตุลาคม 2020 เขาได้วิจารณ์หน่วยงานการเงินของรัฐอย่างรุนแรงว่า ‘ล้าหลัง’ และปิดกั้นนวัตกรรมใหม่ๆ ในการประชุมที่เซี่ยงไฮ้
.
ตามคำพังเพยที่ว่าไว้ หลังจากคำพูดออกจากปากไปแล้ว มันจะกลายเป็นนายของคนพูด ราคาที่หม่าต้องจ่ายคือการถูกสั่งระงับการขายหุ้น IPO ของ Ant Group ที่เกือบจะกลายเป็น IPO ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก อีกทั้งบริษัท Alibaba ของเขาก็ถูกตรวจสอบ หลังถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมในการผูกขาดการค้า จนทำให้นายใหญ่แห่ง Alibaba ต้องหายไปจากหน้าสังคมจีนถึง 2 เดือน พร้อมกับชื่อเสียงในทางลบต่อสาธารณชน
.
5. จิมมี่ ไหล (Jimmy Lai)
.
มหาเศรษฐีพันล้านผู้ครอบครองสื่อหนังสือพิมพ์ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในฮ่องกงอย่าง Apple Daily ไหลได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้หาญกล้าวิจารณ์ต่อกรกับรัฐบาลฮ่องกงที่ถูกแทรกแซงจากจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งยังเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกงที่ต่อต้านการปกครองแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบ เพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตยของฮ่องกง มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2019
.
ถึงแม้จะอยู่ในเกาะฮ่องกง แต่ จิมมี ไหล ก็ยังไม่พ้นเงื้อมมือของรัฐบาลจีน โดยในเดือนธันวาคม 2020 จิมมีถูกจำคุกโดยไม่มีกำหนดในข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ และถูกปฏิเสธการให้ประกันตัว พร้อมข้อหาฉ้อโกงการเช่าพื้นที่สำนักงานซึ่งเป็นที่ตั้งของหนังสือพิมพ์ Apple Daily อีกหนึ่งกระทง
.
[/b]

ผ่านๆในเฟสพี่หม่ากลับมาแล้ว Emperor xi กับพรรคพวก ยิ่งใหญ่เกินไป พรรคคอมจีนปรับตัวเข้ากับยุคสมัยเก่งมากๆ

เห็นข่าวในเฟสอยู่ครับ หน้าตาแบบโทรมและหมองมาก

จากที่อ่านบทความข้างบนหากงัดข้อกับพรรคคอม ต้องหนีไปอเมริกา และต้องได้รับการดูแลจากพี่กันถึงจะรอด
ไม่งันไม่พ้น ได้นั่งคุย 2 ต่อ 2 กับ Emperror แน่นอน

จีนแม่งโหดจัด จะทำอะไรไม่กลัวประเทศไหนแบนเลย

แจ๊คหม่าโดนปรับทัศนคติหรอครับ ปล.เฮียแกอยู่ผิดที่จริง ถ้าไปอยู่ฮ่องกง,ไต้หวันคงไม่โดนอะไรแบบนี้

ถ้าเป็นที่ไทย มีมาประท้วงกันอีก

เอาจริงๆ คนที่ร้ายที่สุด น่าจะเป็นสีจิ้นผิง

ที่ผ่านมาปธน.ของจีนคนอื่นๆ ไม่ค่อยทำอะไรแบบนี้

แต่สีจิ้นผิง โหดจริงๆ

ไม่เหมือนคนอื่นๆที่ผ่านมา มีเล่นงานคนในพรรคด้วย ใครขวางกุเก็บหมด

ช่วงที่ผ่านมาที่ มีข่าวว่า ล้างบางคอรัปชั่น บลาๆ แล้วคนนอกไม่รู้

ไปชื่นชมสีจิ้นผิงกันใหญ่

จริงๆ อาจเป็นการสร้างหน้าฉาก เพื่อเก็บคนในพรรคที่เป็นคู่แข่ง

แม้แต่ปธน.คนเก่าๆ ยังเกือบเอาตัวไม่รอด

แถมมีแก้รธน. ให้ตัวเองอยู่ยาวได้ ไม่สนใจธรรมเนียม ไม่เกรงใจคนรุ่นถัดไปในพรรคที่รอต่อคิวขึ้นสู่อำนาจ

โหดแท้

ผมไม่เห็นด้วยกับพรรคคอมจีนนะ แต่เศรษฐีก็ไม่ควรวิจารณ์รัฐยาลจีนเขา ถ้าตัวไม่ได้ต่างประเทศเช่น เมก้า ยุโรป

วิจารณ์ไปเหมือนเอาขาข้างหนึ่งไปอยู่ในคุก คิดในมุมมองนักธุรกิจไม่มีอะไรคุ้มสักอย่างขาดทุนย่อยยับ

จีนเป็นคู่ค้าใหญ่สุดของเกือบทุกประเทศทั่วโลกใครจะกล้าแบนหมด

ขนาดทรัมป์ว่าแข็งยังเลือกแบนเป็นอย่างๆเลย

สีจิ้นผิง แกอำนาจเยอะมาก และจัดการอำนาจได้ดีมาก ถ้ามองในแง่การปกครองนะ แต่แกก็ใช้อำนาจในมือ ให้คนกินดีอยู่ดี เพื่ออุดปากการต่อต้าน ทำโปรเจคแต่ละอย่างเหมือนเดอะซิมเลย ไม่บูมหรอเอาเงินให้ เอาคนยัดเข้าไปเดี๋ยวมันก้โตได้ โหดชิบเป๋ง

เข้าทำนองว่า อะไรที่ให้ไปได้ก็เอากลับไปได้ หลายๆอย่างเพราะมีพรรคสนับสนุนเลยยิ่งใหญ่ได้และถ้าใหญ่เกินก็ตบให้มันเข้าที่เข้าทาง

เอาจริงๆ แม้แต่ในเมกาการจะวิจารณ์ปธน.ก็ไม่ได้สะดวกเสมอไป เหอะๆ แค่หัวโขนล่ะ

นั้นสิครับ ไม่เห้นแววว่าพรรคคอมจีนจะล่มเลย หมดพี่สีคนอื่นก็ขึ้นมาอยู่ดี เหมือนท่านว่าใช้อำนาจในมือแบบฉลาด ตอนนี้เห็นไปถึงต่างประเทศแล้ว มีปล่อยกู้โครงการต่างๆด้วย แถมตอนนี้แทบผลิตทุกอย่างได้เอง โลกตะวันตกคงยอมรับว่ามีมหาอำนาจที่มีอัตราต่อรองสูงเพิ่มขึ้นอีกชาติแล้ว

สีนี้ยิ่งนานวันเข้ายิ่งจะพยายามรวมอำนาจแปลกๆหรือคนอื่นก็พยายามจะทำเหมือนกันเเต่ทำไม่ได้เหมือนสีหว่า ทำให้คนในประเทศรวยได้ก็คงไม่มีใครว่าอะไร จีนใหญ่เกินกว่าที่นายทุนซักคนล้มเเล้วประเทศจะล้มตามเเล้ว

โมเดลในฝันของผู้นำบ้านเราเลยนี่